xs
xsm
sm
md
lg

เมื่อสนามกีฬากลายเป็นแหล่งแพร่เชื้อโควิด-19/แมวดำ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คอลัมน์ สกอร์บอร์ด โดย แมวดำ

ช่วงสถานการณ์ที่ประเทศไทย และทั้งโลกกำลังถูกคุกคามจากไวรัส โควิด-19 เชื่อว่าทุกชีวิตล้วนแต่ประสบกับความยากลำบากด้วยกันทั้งนั้น แต่สิ่งสำคัญคือต้องหยุดการแพร่ระบาด ด้วยการ "อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ"

สำหรับข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 26 มีนาคม ที่ผ่านมา ประเทศที่พบผู้ติดเชื้อมากที่สุด 5 อันดับแรกคือ จีน (81,218 ราย) อิตาลี (74,386 ราย) สหรัฐอเมริกา (65,797 ราย) สเปน (49,515 ราย) และเยอรมนี (37,323 ราย) ซึ่งพบผู้ติดเชื้อในจีนแผ่นดินใหญ่คิดเป็นเพียง 17.33% ของผู้ติดเชื้อทั้งหมดเท่านั้น ลดลงจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมากว่า 23% ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตนอกจีนแผ่นดินใหญ่ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ซึ่งมาตรการป้องกันการรวมตัวกันถือเป็นเรื่องสำคัญ และจำเป็นมาก โดยเฉพาะสนามกีฬากลายเป็นแห่งแพร่ระบาดชั้นดี ยกตัวอย่างประเทศอิตาลี และสเปน ทั้งนี้คนที่ออกมาพูดเรื่องนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็น จอร์โจ โกรี นายกเทศมนตรีเมืองแบร์กาโม อิตาลี นี่แหละที่ระบุว่า ต้นตอของการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 คือการแข่งขันระหว่าง อตาลันตา ทีมในศึกกัลโช่ เซเรีย อา เปิดบ้านดวลกับ บาเลนเซีย ทีมจากลาลีกา สเปน ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้เชื้อแพร่กระจายแบบหนักหน่วงในประเทศอิตาลี และสเปน โดยมีแฟนบอลเข้ามาชมมากถึง 44,000 คนเลยทีเดียว

ขณะที่บ้านเราก็มีผลกระทบจากการเข้าสนามกีฬาเช่นกัน เมื่อมีการระบุว่าเซียนมวยรายหนึ่งเดินทางกลับจากอิตาลี และเข้าชมมวยนัดสำคัญเมื่อวันที่ 6 มีนาคม จนเป็นผลให้มีผู้ติดเชื้อตามมาอีกหลายราย ถึงตอนนี้ไม่อยากจะกล่าวโทษกัน เพราะไม่มีประโยชน์ แต่อยากให้ทุกคนรอดปลอดภัยจากสถานการณ์นี้ไปด้วยกันมากกว่า

เรื่องจิตสำนึกต่อส่วนรวม บางทีก็พูดยาก บ่อยครั้งที่เรามักเหยียดคนไทย แล้วยกมาตรฐานต่างชาติ และชาติที่ถูกยกย่องมากในเรื่องนี้คงเป็นญี่ปุ่น แต่เมื่อไม่นานมานี้ มีรายงานข่าวที่ค่อนข้างน่าตกใจว่า มีการจัดมวย K1 ที่ไซตามะ ซึ่งแม้ฝ่ายปกครองจะร้องขอให้ยกเลิก หรือเลื่อนไปก่อน ทว่าผู้จัดไม่ยอม เพราะมันมีผลเสียต่อธุรกิจของเขา ทุกอย่างจ่ายเงินไปหมดแล้ว ทำให้ปฏิเสธภาครัฐเดินหน้าจัดต่อไป โดยมีจำนวนผู้ชมถึง 6,500 คน นี่คงเป็นตัวอย่างที่ยืนยันได้ว่า คนไร้สำนึกต่อสังคมส่วนรวมมีอยู่ทุกที่ทุกหนแห่ง และควรแล้วที่ประเทศเราจะได้ยาแรงในการควบคุมไวรัส

เวลานี้ไม่ใช่แค่ไวรัสที่ทำร้ายเรา หากแต่การไม่มีรายได้ก็คอยทิ่มตำให้เดือดร้อนกันไปหมด ซึ่งพอเดือดร้อนมันช่วยไม่ได้เลยที่จะมีเสียงเรียกร้องให้รัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือ

แล้วภาครัฐเขาก็เข็นมาตรการออกมาช่วย เริ่มด้วยกรณีผู้ประกันตนที่ประกอบอาชีพอิสระมาตรตรา 39 และ 40 ที่ได้รับผลกระทบจากการ แพร่ระบาดของไวรัสโดยมีมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2563 เห็นชอบให้ผู้ประกันตนมาตรา 39 และ40 สามารถได้รับการช่วยเหลือตามมาตรการดูแลและเยียวยา แรงงาน ลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระ ที่ได้รับผลกระทบ โดยรัฐบาลจะจ่ายเงินชดเชยรายได้ให้ 5,000 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน (เมษายน - มิถุนายน 2563)

แต่ต้องยอมรับความจริงว่า ในแวดวงกีฬาบ้านเรานั้น นักกีฬาหลายคนไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม และแน่นอนว่าเขาหรือเธอเหล่านั้นจะไม่ได้เข้าข่ายรับการช่วยเหลืออะไรเลย เนื่องจากที่ผ่านมาส่วนใหญ่อยู่ได้ด้วยเงินรางวัลจากการแข่งขัน ทว่าเมื่อไม่อาจลงแข่งขันได้ จากการที่อีเวนต์แข่งขันต่างๆ ถูกเลื่อน หรือยกเลิกไป จะไปขอเงินเยียวยาจากประกันสังคมก็ไม่ได้ ขณะที่ค่าน้ำ, ค่าไฟฟ้า, ค่ารถ, ค่าบ้าน ก็ยังต้องจ่าย ไหนจะค่ากินใช้ในแต่ละวัน มันก็ต้องมี

วินาทีนี้ได้แต่หวังว่าจะเห็นความช่วยเหลือที่เป็นรูปธรรมกับกลุ่มนักกีฬาเหล่านี้ อยากเห็นสมาคมกีฬา รวมถึง การกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. หาทางออก เพื่อช่วยเหลือนักกีฬา อย่างน้อยๆ ก็ให้เขาดำเนินชีวิตอย่างไม่ยากลำบากมากนักก็ยังดี


กำลังโหลดความคิดเห็น