คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน
ความเข้าใจในข้อเท็จจริง บางทีมันก็มีคนทำให้สังคมเข้าใจผิดเพี้ยนไปได้ เหตุกราดยิงที่ โคราช ถูก “ มินิฮ้าร์ท ” ถือโอกาสหาเสียงและดันระบุให้เป็นเรื่องส่วนตัวซะงั้น แต่แท้จริงมันคือหนึ่งในหลายสิ่งที่กระทำกันเป็นขบวนการ และเผอิญมีการเบี้ยวกัน ความจึงแตก เมื่อถูกทวงถามหลายครั้งก็ไม่สนและมีรุกสวนกลับอีกด้วย แหล่งข่าวของผมเผยว่า นายเก่าของเจ้าตัวต้นเหตุของเรื่องที่โดนยิงตายไปตั้งแต่แรกนั้นรู้ดีมาก แต่ไม่กล้าพูดอะไร เขาเผยว่า “มีการเอาตัว แม่ของจ่า เก็บไว้ด้วย หลายเรื่องมีอะไรซ่อนเร้น ” ทำให้จนตรอก อารมณ์พลุ่งพล่าน ก่อเหตุรุนแรง ลุกลามใหญ่โต แล้วอย่างนี้ มันสมควรตีแผ่ความเน่าเฟะ เพื่อให้สังคมหาหนทางแก้ไข หรือเขี่ยซุกไว้ใต้พรม ลืมๆมันไป อย่ากล่าวถึง อย่ากล่าวชื่อ เดี๋ยวมีคนเอาอย่าง
ความจริงสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องสำคัญมาก ใครจะมีความเห็นเป็นอย่างไรก็ตามแต่พื้นฐานความเชื่อที่เรียนมาไม่เหมือนกัน สภาพแวดล้อม ร้อนหนาว กินข้าว กินขนมปังต่างกัน แต่ต้องไม่บิดเบือนข้อเท็จจริง เรื่องง่ายๆแค่ เนย์มาร (Neymar) กองหน้าดาวยิงทีมชาติบราซิว แห่ง สโมสร ปารี แซ็ง แชรแม็ง (Paris Saint-Germain FC) วัย 28 ปี ลุกขึ้นมาโกนหัวเหลือเพียงหนวดและเครากลายเป็นที่กล่าวถึงไปทั่วโลก หลายสำนักยังบอกเป็นตุเป็นตะว่า เนย์มาร์ จัดการกล้อนผมทั้งหัวและไว้หนวด เพื่อปรับลุคใหม่อีกครั้ง หลังจากทรงโมฮ้อค (Mohawk) สีชมพูจี๊ดจ๊าดที่ทำล่าสุดนั้นกระแสค่อนข้างดับ ถูกสังคมออนลายน์วิจารณ์ยับว่า รสนิยมไม่ดี ทำให้ต้องตัดสินใจมุ่งสู่ลุคหัวโล้น
ผมอยากบอกว่า ความจริงการโกนหัวของนักเตะจอมล้มกลิ้งดีดดิ้นร้องโอดโอยรายนี้มันเกิดจากความจำเป็นจริงๆ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการปรับลุคอย่างใดทั้งสิ้น อันนั้นคนที่ไม่ทันทราบความจริงก็คิดมั่วกันไปเองแท้ๆ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาซึ่งเป็นวันเกิดอายุครบ 28 ปี และมีกินเลี้ยงกันในหมู่เพื่อนฝูงที่บ้านของเขา นั่นก็โกนผมทิ้งเรียบร้อยไปแล้ว แต่ยังไม่อยากเปิดเผยต่อสาธารณะ จึงปิดบังโดยใช้หมวกปกคลุม แม้ในขณะลงฝึกซ้อมก็ตาม แล้วในที่สุด เขาก็ปรากฏตัวพร้อมกับลุคหัวโล้นเป็นครั้งแรกในตอนเย็นวันจันทร์ที่ผ่านมา หนึ่งวันก่อนการแข่งขันระหว่าง เปแอ๊สเช กับ ดีชง (Dijon) ในเกม กุ๊ป เดอ ฟร้องส์ (Coupe de France) ฟุตบอลถ้วยของ ฝรั่งเศส รอบ 8 ทีม
ช่างผมมืออาชีพผู้เชี่ยวชาญทางด้านการทำสีผมอธิบายว่า เพื่อที่จะทำสีผมให้เป็นสีชมพูจี๊ดจ๊าดฉูดฉาดดังกล่าว ต้องมีการกัดสีผมออกก่อน 2 หรือ 3 ครั้ง ต่อจากนั้นก็ย้อมผมที่ถูกกัดสีจนขาวให้เป็นสีชมพู ซึ่งเมื่อย้อมเสร็จมันก็ไม่ได้หมายความว่า สีชมพูนั้นจะติดทนนาน แค่สระผมเพียง 6 ครั้ง สีชมพูก็จะซีดจางลงอย่างรวดเร็ว ไม่สดใสจี๊ดจ๊าดดังเดิม หลังจากนั้น มันก็ไม่มีทางเลือกอีกแล้ว นอกจากจะโกนทิ้งไปให้หมด ปล่อยให้ผมใหม่ขึ้นมาแทน ซึ่งหากไม่ทำเช่นนั้น ผมที่เหลืออยู่จะเสียอย่างรวดเร็ว คราวนี้เละทั้งหัวแน่นอน
ฟุตบอล ยูเอ๊ฟฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2019-20 (2019-20 UEFA Champions League) จะกลับมาแข่งกันอีกครั้งในสัปดาห์หน้า เริ่มนัดแรกในรอบ น็อค-เอ๊าท์ เหย้า-เยือน 16 ทีม ซึ่งถึงตอนนี้คงเหลือทีมจาก 5 ลีกดังของยุโรปเท่านั้นที่หลุดรอดมาจนถึงรอบนี้คือ สเปน 4 ทีม เรอัล มาดริด (อันดับยูเอ๊ฟฟ่า 1) บารเซโลน่า (อันดับยูเอ๊ฟฟ่า 2) อัตเลติโก มาดริด (อันดับยูเอ๊ฟฟ่า 4) และ บาเล็นเซีย (อันดับยูเอ๊ฟฟ่า 25) อังกฤษ 4 ทีม ลิเว่อร์พูล (อันดับยูเอ๊ฟฟ่า 8) แมนเช้สเต้อร์ ซิตี้ (อันดับยูเอ๊ฟฟ่า 6) เช็ลซี (อันดับยูเอ๊ฟฟ่า 13) และ ท้อทแน่ม ฮ้อทสเปอร์ (อันดับยูเอ๊ฟฟ่า 12) เจอรมานี 3 ทีม บาแยร์น มึนเชิ่น (อันดับยูเอ๊ฟฟ่า 3) โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (อันดับยูเอ๊ฟฟ่า 14) และ แอรบี ไล้พซิก (อันดับยูเอ๊ฟฟ่า 37) อิตาลี 3 ทีม ยูเว็นตุส (อันดับยูเอ๊ฟฟ่า 5) นาโปลี (อันดับยูเอ๊ฟฟ่า 15) และ อตาลันตา (อันดับยูเอ๊ฟฟ่า 56) รวมทั้ง ฝรั่งเศส อีก 2 ทีม ปารี แซ็ง แชรแม็ง (อันดับยูเอ๊ฟฟ่า 7) และ ลิอง (อันดับยูเอ๊ฟฟ่า 17)
เปแอ๊สเช ปีนี้ถือว่าครบเครื่องมากที่สุดทีมหนึ่งตอนนี้ เนย์มาร กำลังไร้ปัญหาไปได้สวยกับทีม และยังได้ เอดินซ็อน กาวานี (Edinson Cavani) ดาวยิงทีมชาติอูรูกวัย วัย 32 ปี มาประจำการและกลับมายิงประตูได้อีกแล้วหลังจากที่ห่างหายจากการล่าสกอร์จนสูญเสียความมั่นใจไปหลายเดือนทีเดียว เกือบย้ายออกจากสโมสรไปด้วยซ้ำ ล่าสุด มีการพูดถึงขนาดจัดลงในเกมพบกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (Borussia Dortmund) ในเกม ยูเอ๊ฟฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีม นัดแรก ด้วย บอลถ้วยยุโรปใบใหญ่ปีนี้ เปแอ๊สเช น่าจะไปได้ไกลกว่าเดิมอย่างแน่นอน