เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2563 ที่บริษัท มีเดีย อินเทลลิเจนซ์ จำกัด เอเยนซี่ในเครือฮาคูโฮโด กลุ่มเอเยนซี่โฆษณายักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น ที่ปรึกษาด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์ของสโมสรคอนซาโดเล่ ซัปโปโร ตั้งโต๊ะแถลงข่าว "เจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ เพลย์เมคเกอร์ร่างจิ๋วขวัญใจชาวไทย เตรียมบินไปค้าแข้งที่ญี่ปุ่นกับยอดทีมจากเกาะฮ็อกไกโดเป็นฤดูกาลที่ 4 ในปี 2020 โดยมี ชินิชิโร่ นากาจิม่า ตัวแทนฝ่ายการตลาดสโมสรคอนซาโดเล่ ซัปโปโร ร่วมแถลงข่าว
ชนาธิป สรงกระสินธ์ ดาวเตะทีมชาติไทยสังกัด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร กล่าวว่า "ทีมผมได้เดินทางมาเก็บตัวในประเทศไทยที่เชียงใหม่ ก่อนอื่นต้องขอบคุณทีมที่สนใจมาเก็บตัว หนีหนาวหนีหิมะมาไทย ต้องขอบคุณเจ้าของสถานที่อย่าง อัลไพน์ เชียงใหม่ ด้วย ทุกๆคนที่นั่นให้การต้อนรับเราเป็นอย่างดี เกมอุ่นเครื่องของเราและเชียงใหม่ เอฟซี มีคนดู 8,500 คน ต้องขอบคุณมากๆที่อยากมาดูทีมของผมเล่น เสียดายที่ผมเจ็บไม่ได้ลง"
"เพื่อนๆเราทีมชอบอาหารไทยนะครับ เขาบอกว่าอร่อย ญี่ปุ่นมีแต่อาหารจืดๆ แต่มากินอาหารไทยแล้วมันรสจัด เลยถูกปากเขา แต่บางคนก็จะบอกว่าเผ็ดบ้าง ซึ่งเพื่อนๆหลายคนก็มีไปเที่ยวสวนสัตว์ ไปดูเสือไปดูช้าง เขาบอกว่าชอบบรรยากาศที่ไทย ตัวผมเองก็เปรียบเสมือนไกด์ไปในตัวเลย"
"รู้สึกดีใจกับทีมและดีใจกับตัวเอง คือเราก็เป็นแค่นักเตะคนเล็กๆคนหนึ่ง แต่เราได้ติดทีม 11 ผู้เล่นยอดเยี่ยมเจลีกปีล่าสุด ถือว่าผมถูกคัดเลือกจากบรรดานักเตะทีมอื่นๆในเจลีก ก็รู้สึกปลื้มมากๆ แต่เรายังต้องพัฒนาตัวเองต่อไปอีก"
"จากปี 2017 ถึงปี 2019 ความรู้สึกอบอุ่นตั้งแต่วันแรก เดินไปไหนนึกว่าอยู่ไทย แทบทุกคนในซัปโปโรรู้จักกันหมด คนญี่ปุ่นเหมือนขี้อาย ไม่ค่อยกล้าขอถ่ายรูป บางคนขอแค่ได้จับมือหรือขอลายเซ็นเขาก็มีความสุขแล้ว รวมไปถึงแฟนๆจากไทยก็เดินทางตามมาเชียร์ผมถึงญี่ปุ่น จริงๆเราก็อยากจะเจอให้ได้ทุกคนที่เดินทางไป แต่บางครั้งก็ผมไม่ว่างก็ต้องขอโทษด้วย ผมขอบคุณจริงๆที่ตามไปเชียร์ถึงที่นั่น"
"ตอนนี้แฟนบอลชาวไทยหลายๆคนก็ซื้อเสื้อคอนซาโดเล่ ซัปโปโร ไปใส่ คนไทยมีความสุขที่ได้เห็นผมเล่นในเจลีก เขาก็หวังว่าผมจะโชว์ฟอร์มได้ดีในเจลีก ซึ่งไม่ใช่แค่ตัวผม เพราะตอนไปเก็บตัวที่เชียงใหม่เห็นได้ชัดเลยว่าแฟนๆเขาชื่นชอบตัวทีม ชื่นชอบคนอื่นๆด้วย ไม่ใช่แค่ตัวผม ต้องขอขอบคุณแฟนบอลทุกๆคนจริงๆ"
"ปีแรกที่ผมไป 2017 ผมจ่ายได้แค่ลูกเดียว เป็นสถิติที่โค้ชบอกผมว่าเราเป็นผู้เล่นต่างชาติ แม้เราจะเล่นดีแค่ไหน แต่ไม่มีสถิติมันก็ไม่ช่วยอะไร พอมาปี 2018 สถิติผมดีขึ้นมาก หน้ามือเป็นหลังมือ ทั้งการจ่ายและการแอสซิสต์ พอมาปี 2019 ผมรู้สึกว่าผมทำเกมได้ดีขึ้นด้วยซ้ำ แม้สถิติการยิงจะน้อยลง แต่การจ่ายนั้นมากขึ้น โดยรวมเราก็รู้สึกดีนะ ปีที่แล้วกล้ามเนื้อผมฉีก 4 ครั้ง ทำให้ความมั่นใจผมหายไปบ้าง อาจจะท้อบ้าง มันเบื่อตอนต้องมาเรียกความฟิต แต่ปีนี้ผมคิดว่าผมพร้อมสำหรับปี 2020 ทีมมีเป้าหมายในการคว้าตั๋วไปบอลเอเชีย และผมเองก็อยากทำให้ทีมประสบความสำเร็จด้วย"
"ตอนนี้ผมฟิตมาก แต่บาดเจ็บเล็กน้อยที่หัวเข่า ทีมซ้อมกันเข้มมากๆ คงสไตล์ทีมที่คล้ายๆเดิม ปีนี้แม้เสริมทัพไม่เยอะ แต่ดันเด็กขึ้นมาเยอะมาก อย่างที่บอกเราต้องการเป็นทีมแนวหน้าของประเทศ เราต้องไปบอลเอเชียให้ได้ ผมอยากประสบความสำเร็จไปพร้อมกับทีม และอยากยิงให้ทีมมากขึ้นด้วย"
"สำหรับทีมชาติไทยเอง โค้ชอากิระ นิชิโนะ เขาเหมือนชอบคุยกับผมนะ น่าจะเป็นเพราะผมทักเขาภาษาญี่ปุ่น เลยนึกว่าผมคุยญี่ปุ่นได้มั้ง (หัวเราะ) เขาเป็นโค้ชที่ให้อิสระแก่นักเตะในการเล่นมากๆนะ เขาชอบแนะนำนักเตะด้วยแง่คิดดีๆเสมอ ทำให้เราได้นำหลายๆอย่างมาปรับใช้ในการเล่นเป็นอย่างดี" ชนาธิป สรงกระสินธ์ กล่าว
ชินิชิโร่ นากาจิม่า ตัวแทนฝ่ายการตลาดสโมสรคอนซาโดเล่ ซัปโปโร กล่าวว่า "รู้สึกเป็นเกียรติที่สื่อมวลชนมาร่วมงานในวันนี้ ทีมเพิ่งจบการฝึกซ้อมที่เชียงใหม่เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ปีที่ผ่านมา คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ได้รองแชมป์ลูวาน คัพ ครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร ทีมของเราเติบโตขึ้นเรื่อยๆมาโดยตลอด"
"ผลงานของเรานี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าขาดซึ่งชนาธิป สรงกระสินธ์ เขาได้รับการซัพพอร์ตมากมายทั้งคนไทยและญี่ปุ่น ที่มาเชียร์ถึงสนามและชมการถ่ายทอดสด"
"เราพยายามทำกิจกรรมที่ประเทศไทยมาโดยตลอด ทั้งอุ่นเครื่องกับสโมสรในไทย และมาเก็บตัวที่ไทย 2 ปีติดต่อกัน ทางเราพยายามอย่างยิ่งที่จะให้คนไทยมีความผูกพันกับคนไทยให้มากขึ้น ให้คนไทยสัมผัสสโมสรเราได้"
โปรแกรมฟุตบอลเจลีก ญี่ปุ่น นัดแรก เริ่มแข่งขันในวันที่ 21-23 กุมภาพันธ์ โดย คอนซาโดเล่ ซัปโปโร มีคิวยกพลไปเยือน คาชิว่า เรย์โซล ทีมน้องใหม่หน้าเก่า ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 13.00น. ตามเวลาประเทศไทย