ตำนาน "สิงห์ท่าเรือ" ไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว! / แมวดำ

คอลัมน์ “สกอร์บอร์ด” โดย “แมวดำ”

ในยุคที่สโมสรฟุตบอลระดับตำนานหลายแห่งของประเทศไทย พากันปิดกิจการบอกเลิกศาลากันไปหลายทีม ไม่ว่าจะเป็นทีมเหล่าทัพ อาทิ อาร์มี่ ยูไนเต็ด, แอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ด หรือทีมรัฐวิสาหกิจที่แทบหายหน้าปิดฉากเหลือเพียงตำนาน ไม่ว่าจะเป็น ทีโอที, การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือทีมธนาคารที่เคยเกรียงไกร อาทิ ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารกรุงเทพ แต่ทีมอย่าง การท่าเรือ เอฟซี ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ พ.ศ. 2510 กลับยังคงมีลมหายใจอยู่ได้ ด้วยแรงสนับสนุนของแฟนฟุตบอล และ หญิงแกร่ง "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ

ซึ่งฤดูกาล 2019 สโมสร การท่าเรือ เอฟซี ที่มีแกนหลักอย่าง เอเลียส ดอเลาะ, เซร์คิโอ ซัวเรส, ปกรณ์ เปรมภักดิ์, โก ซุล กี, บดินทร์ ผาลา, ศิวกร จักขุประสาท, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, ดาบิด โรเชล่า แม้จะพลาดเป้าหมายแชมป์ในไทยลีก ด้วยการคว้าอันดับ 3 แต่การที่มีคะแนนเหนือกว่าบิ๊กทีมอย่าง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด หรือ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด รวมทั้งยังนำสโมสรในตำนานกลับสู่การคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วย ช้าง เอฟเอ คัพ อันหมายถึงการตีตั๋วสู่ฟุตบอลถ้วยใหญ่สุดของสโมสรชิงแชมป์เอเชีย อย่าง เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก

โดย การท่าเรือ ต้องมาแข่งขันที่รอบเพลย์ออฟ รอบ 2 ซึ่งตามเส้นทางการแข่งขันแล้วจะได้เล่นในบ้าน แพท สเตเดี้ยม และหากชนะคู่แข่งในรอบนี้ ก็จะผ่านเข้าสู่การเพลย์ออฟ รอบ 3 ด้วยการบุกเยือนทีมรองแชมป์เจลีก คือ เอฟซี โตเกียว

การได้เล่นในรังเหย้าถือเป็นข้อได้เปรียบของการท่าเรือ เอฟซี ด้วยว่าบรรยากาศนั้นดุดันเปรียบดั่ง "นรกทีมเยือน" ของคู่แข่งทุกทีม ใครนึกภาพไม่ออกขอให้ลองยืนนิ่งๆ แล้วหลับนึกถึงเสียงอื้ออึงของกองเชียร์ในสนามที่มาจากรอบทิศทาง ทั้งโห่ร้อง ร่ายเพลงเชียร์ ควบคู่ไปกับเสียงรัวตู้ม ตู้ม ตู้ม ดังสนั่นกระชากหัวใจยิ่งนัก หากว่าเสียงเหล่านั้นอยู่ฝ่ายเราก็ย่อมฮึกเหิม แต่ถ้าอยู่ฝ่ายตรงข้าม คงรู้สึกหวั่นไหวไม่น้อย

แต่ปัญหาของการท่าเรือ คือ สนามแพท สเตเดี้ยม ขั้นต้นนั้นไม่ผ่านมาตรฐาน "เอเอฟซี" สำหรับศึก แชมเปี้ยนส์ลีก ดังนั้น "หญิงเหล็ก" ใจถึง และเงินถึง นวลพรรณ ล่ำซำ ถือโอกาสนี้ปรับปรุงสนามครั้งใหญ่ ไล่ไปตั้งแต่ไฟสนามที่ต้องมีความสว่างที่ 1,400 ลักซ์ ขณะที่ของเดิมแค่ 1,200 ลักซ์ นอกจากนี้ยังต้องมีการติดตั้งเก้าอี้สำหรับแฟนบอลเข้าไปอีกในความจุ 8,000 ที่นั่ง จากนั้นก็ต้องทำห้องตรวจโด็ป รวมทั้งยังมีการปรับพื้นผิวสนามใหม่กันยกใหญ่ กระทั่งสามารถผ่านการประเมิณจากฝ่ายตรวจสอบของ "เอเอฟซี"

เมื่อสนามพร้อมแล้ว แต่การแข่งขันระดับทวีปเอเชีย มันต้องเจอกับทีมกระดูกขัดมันทั้งนั้น เราเลยได้เห็นดาวเตะระดับ "บิ๊กเนม" ตบเท้ามาร่วมหัวจมท้ายกันในถิ่นคลองเตย ไม่ว่าจะเป็น เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดส, ธนาสิทธิ์ ศิริผลา หรือ อดิศักดิ์ ไกรษร รวมทั้งยังมีนักเตะคุณภาพคับแก้วอย่าง ณัฐวุฒิ สมบัติโยธา, กานต์นรินทร์ ถาวรศักดิ์, ธนากรณ์ แดงทอง, ฉัตรมงคล ทองคีรี และ จตุรพัช สัทธรรม

ถือเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ของ การท่าเรือ เอฟซี ที่เป้าหมายของทีมไม่ได้วางไว้แค่เพียงฟุตบอลถ้วยรายการใดรายการหนึ่งเหมือนครั้งอดีต แต่เป็นความทะเยอทะยานที่มุ่งมั่นถึงแชมป์ไทยลีก และความหวังการผ่านเข้าสู่รอบแบ่งกลุ่ม เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก สำหรับฤดูกาล 2020 แต่การคืนสู่ฟุตบอลระดับเอเชียรายการนี้เป็นครั้งแรกรอบ 10 ปีของสโมสร กลับเจอกับโชคร้าย และความเหนียวเคี่ยวข้นของ เซเรส เนกรอส จากฟิลิปปินส์

พูดถึงคู่แข่งจาก ฟิลิปปินส์ แล้วต้องบอกเลยว่า ทีมนี้ไม่ใช่ทีมธรรมดา พวกเขาเป็นแชมป์ไร้พ่ายลีกบ้านเกิด แข่ง 24 นัด ชนะ 22 เสมอ 2 และไม่แพ้ทีมใดเลยฤดูกาล 2019 แถมยังมีดีกรีแชมป์ลีก 3 ฤดูกาลล่าสุด นอกจากนี้ผู้เล่นของทีมหลายคนล้วนเคยผ่านการค้าแข้งในไทยลีก อีกทั้งยังมีประสบการณ์เคยผ่านเข้าถึงรอบเพลย์ออฟ รอบ 3 รายการนี้มาแล้วเมื่อปี 2018 ก่อนแพ้ให้กับ เทียนจิน ฉวนเจียน 0-2 ดังนั้นต้องยอมรับว่าเขามีประสบการณ์เหนือกว่า

ความผิดหวังครั้งนี้ การท่าเรือ เองก็คงเหมือนจะช็อกอยู่พอสมควร โดยเฉพาะหลังเกมการแข่งขัน "มาดามแป้ง" ยอมรับตามตรงว่า ด้วยรู้สึกเสียดาย เสียใจ และเสียขวัญ เพราะที่ผ่านมาพยายามยกระดับทั้งเรื่องของสนาม และตัวผู้เล่น

แต่การอัพเกรดสนาม และ ตัวผู้เล่นครั้งนี้ของการท่าเรือ จะไม่สูญเปล่าแน่นอน หากว่าสามารถจบฤดูกาลด้วยการคว้าแชมป์ไทยลีก หรือฟุตบอลถ้วย เอฟเอ คัพ ก็จะได้เข้ารอบแบ่งกลุ่มทันที แต่หากพลาดไปก็ยังต้องลุ้นติดอันดับ 2 หรือ 3 ของลีก เพื่อสิทธิ์การเพลย์ออฟ ตามโควต้าใหม่ของ แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2021 ที่ระบุไว้ 2+2 นั่นเอง