จากผลงานเสมอแบบไร้สกอร์ 2 นัดแรก ของทีมชาติเวียดนาม ต่อ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ จอร์แดน ส่งผลให้สถานการณ์ลุ้นเข้ารอบ กลุ่ม ดี ศึกฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพอยู่ในสถานการณ์หลังพิงฝา
เนื่องจากกลุ่มนี้ ทีมนำอันดับ 1 สหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ มี 4 คะแนน ประตูได้เสีย +2 และ จอร์แดน มี 4 คะแนน ประตูได้เสีย +1 นั้นจะเจอกันนัดสุดท้ายซึ่งถือว่าได้เปรียบกว่า "ดาวทอง" ที่แข่งขัน 2 นัด มีเพียง 2 คะแนน และประตูได้เสียเป็น 0
ส่งผลให้ เวียดนาม ที่ต้องการเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย จำเป็นต้องเอาชนะ เกาหลีเหนือ ให้ได้ ก่อนจะต้องไปลุ้นให้ ยูเออี กับ จอร์แดน มีผลแพ้ชนะ หรือหาก 2 ทีมจากตะวันออกกลางเพียงแค่เสมอแบบไม่มีสกอร์ "ดาวทอง" ต้องยิง "โสมแดง" อย่างน้อย 2 ประตูขึ้นไป
แต่หากว่าทั้ง ยูเออี กับ จอร์แดน เสมอกัน แบบมีสกอร์ ทั้งสองทีมเข้ารอบทันที โดยไม่จำเป็นต้องสนผลงานของ เวียดนาม ที่ต่อให้ ชนะเกาหลีเหนือ นัดสุดท้าย เนื่องจากตามกฎมินิลีก 3 ทีมจะตัดผลงานการเจอกับ เกาหลีเหนือ ออกไป ซึ่งอย่างไรเสียลูกได้เสียก็ดีกว่า เวียดนาม ที่ต่อให้ชนะกี่ประตูก็ไม่มีผล
ทั้งนี้ ปาร์ก ฮัง ซอ กุนซือทีมชาติเวียดนาม ออกมายอมรับว่าทัพ "ดาวทอง" โชคร้ายที่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ดังล่าว "ถือว่าโชคร้ายที่โอกาสเข้ารอบของเราอยู่เหนือการควบคุม และต้องพึ่งผลการแข่งขันของอีกคู่ แม้ว่านัดสุดท้ายเวียดนามจะชนะเกาหลีเหนือได้กี่ประตูก็ตาม"
"ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะนักเตะเวียดนามส่วนใหญ่ขาดประสบการณ์ รวมถึงผลการแข่งขันที่ผ่านมา ที่ไม่สามารถเก็บชัยชนะได้ทั้งๆ ที่มีโอกาสในเกมกับจอร์แดน แต่อย่างไรก็ตามเกมสุดท้าย ผมจะให้ลูกทีมสู้อย่างเต็มที่ที่สุด โดยไม่สนใจผลของอีกคู่"
สำหรับการแข่งขันทั้ง 2 คู่ในกลุ่มดี จะฟาดแข้งวันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคม เวลา 20.15 น. พร้อมกัน โดย เวียดนาม พบ เกาหลีเหนือ ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ส่วน จอร์แดน พบ ยูเออี ที่สนามบุรีรัมย์ สเตเดี้ยม