คอลัมน์ “สกอร์บอร์ด” โดย “แมวดำ”
การแข่งขันมหกรรมกีฬาซีเกมส์ 2019 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน ถึง 11 ธันวาคม ที่ผ่านมา ด้วยประสบการณ์ทำงานวงการกีฬามามากกว่า 10 ปี ยอมรับเลยว่า ย่ำแย่ และ ไม่ถูกใจเป็นอย่างที่สุด แต่แน่นอนว่าเราจำเป็นต้องเข้าใจถึงปัญหาเรื่องเงินงบประมาณของเจ้าภาพที่ถูกหั่นงบจัด ทั้งที่ต้องกระจายการแข่งขันไปยัง 3 เมือง ประกอบด้วย มะนิลา, คลาร์ก, และ ซูบิค
ซึ่งเมื่อซีเกมส์ 2019 จบลง หลายฝ่ายก็ได้แต่เป่าปาก...โล่งอกที่สามารถผ่านช่วงเวลาดังกล่าวไปได้ ทั้งเจ้าภาพเอง รวมถึงชาติสมาชิกอาเซียน แต่...วิบากกรรมของมวลมหานักกีฬาแห่งภูมิภาคยังไม่จบ เมื่อการแข่งขันอาเซียนพาราเกมส์ 2020 ที่จะจัดต่อระหว่างวันที่ 18-24 มกราคม 2563 ดันถูกเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 20-28 มีนาคมนี้ ด้วยเหตุผลของเจ้าภาพว่าปัญหานั้นคือเรื่องเงิน (เหมือนเดิม)
เจอแบบนี้ก็งงกันยกใหญ่นะครับ เพราะก่อนซีเกมส์ จบอย่างเป็นทางการ อลัน ปีเตอร์ คาเยตาโต ประธานจัดการแข่งขันซีเกมส์ 2019 บอกเองประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก และมีแผนเสนอตัวจัดมหกรรมกีฬาที่ใหญ่ขึ้นอย่าง เอเชียนเกมส์ โดยเล็งไว้ว่าจะเป็นเจ้าภาพในปี ค.ศ.2030 ลองเอานิ้วมือนับดูก็อีก 11 ปี ถือว่าไม่มากไม่น้อยสำหรับเตรียมตัว
แต่ซีเกมส์ 2019 มันเรียบร้อยดีแล้วเหรอ? บอกตามตรงคำชมนี่หายากมาก จนป่านนี้นักกีฬาเดินทางกลับกันหมดแล้ว ไม่รู้ว่าหายเหม็นสีทาสนามแข่งขันกันหรือยัง ซึ่งมันก็มีคำถามไปถึง คาเยตาโน ถึงเสียงวิจารณ์ต่อการเป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬาแห่งอาเซียนไม่สวยนัก แต่เขาก็ตอบกลับมาแบบถามช้างตอบม้าว่า "จริงๆแล้ว 300 คนที่มาแล้วมีปัญหาแค่ 3 คนเท่านั้น ทั้งที่ปกติควรมีมากกว่า 15 % กับการจัดการแข่งขันระดับนี้" โอ้ว..พี่ช่างกล้าตอบคำถามได้อย่างมึนงงเหลือเกิน
ย้อนกลับไปยังอาเซียนพาราเกมส์ 2020 ที่ต้องเลื่อนออกไปเที่ยวนี้ ไม่ใช่ว่าเป็นนักกีฬาผู้พิการแล้วมันจะจัดกันอย่างไรก็ได้นะครับ เพราะมันไม่ได้มีแต่การแข่งขันระดับอาเซียนที่เขารอคอย หากแต่มีพาราลิมปิก 2020 ที่ญี่ปุ่นอีกด้วย แน่นอนว่ายังมีนักกีฬาหลายรายต้องไปแข่งขันรอบคัดเลือกเพื่อตั๋วลุยเจแปน ซึ่งมันต้องคาบเกี่ยวกันแน่เนื่องจากเวลาค่อนข้างกระชั้นมาแล้ว
เมื่อมีการเลื่อนการแข่งขัน เท่ากับทำให้นักกีฬาที่เตรียมตัวสำหรับการแข่งขันทั้ง 2 รายการต่างก็ผิดแผนกันไปใหญ่ เขาต้องเลือกว่าจะไปรายการที่ฟิลิปปินส์ หรือไปคัดโอลิมปิก ซึ่งส่วนใหญ่ก็ต้องตัดใจเลือกรายการใหญ่เอาไว้ก่อน มองในแง่ดีเราอาจได้เห็นนักกีฬาดาวรุ่งไปอาเซียนพาราเกมส์ แต่ก็น่าเสียดายแทนรุ่นใหญ่บางคนที่วางแผนว่ารายการนี้จะปิดฉากมหกรรมกีฬาแห่งอาเซียนของตัวเอง
ไหนจะเป็นเรื่องของเงินรางวัล เงินอัดฉีดจากกองทุนพัฒนากีฬาชาติที่นักกีฬาต้องได้อีกหละครับ เหรียญทอง 3 แสน, เหรียญเงิน 2 แสน และเหรียญทองแดง 1 แสน ยุคนี้เงินทองยิ่งหากันยากๆ อยู่ ยิ่งโดยเฉพาะสำหรับนักกีฬาผู้พิการแล้วผมรู้สึกเสียดายแทนจริงๆ