เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือชาวไอร์แลนด์เหนือ ประกาศคริสต์ศักราช 2020 คือ ปีแห่งความยิ่งใหญ่ของ เลสเตอร์ ซิตี ตั้งเป้าคว้าแชมป์ คาราบาว คัพ และโควตา ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก
"เดอะ ฟ็อกซ์" พิสูจน์ความแข็งแกร่งด้านขนาดทีม พักนักเตะตัวหลักหลายราย เอาชนะ เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด 2-1 สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา (28 ธ.ค.) รั้งอันดับ 2 ของ พรีเมียร์ ลีก และยังมีโปรแกรมรอบรองชนะเลิศ ลีก คัพ พบ แอสตัน วิลลา รออยู่ ช่วงเดือนมกราคม
อดีตผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล และ เซลติก กล่าว "ผมบอกลูกทีมว่า เราเริ่มต้นปีใหม่ก่อนถึงแมตช์นั้น ซึ่งเป็นครึ่งหลังของซีซัน และปี 2020 จะเป็นช่วงเวลาอันน่าตื่นเต้นของเรา"
"เรามาถึงเดือนที่มีความหมาย มีโปรแกรมเตะมากมาย และรอบรองชนะเลิศ แน่นอนว่าเป้าหมายของเรา คือ ไป เวมบลีย์ (รอบชิงชนะเลิศ) สิ่งสำคัญยิ่งกว่าทุกอย่าง คือ เกมต่อไป และการฟื้นฟูร่างกายผู้เล่น แต่มันคือช่วงเวลาอันน่าตื่นเต้นของสโมสร"
ความปราชัย 2 เกมรวดแก่ ลิเวอร์พูล 0-4 และ แมนเชสเตอร์ ซิตี แชมป์เก่า 1-3 บ่งชี้ว่า "สุนัขจิ้งจอก" ยังห่างชั้นสโมสรชั้นนำของอังกฤษ อย่างไรก็ตาม ช่วงเปิดตลาดซื้อ-ขายฤดูหนาว สร้างโอกาสแก่ เลสเตอร์ฯ ขยับเข้าใกล้ยิ่งขึ้น
"สิ่งที่เราต้องการ คือ พัฒนาต่อไป หากเราต้องการท้าทาย แมนฯ ซิตี กับ ลิเวอร์พูล เรารู้ว่าเราต้องการนักเตะที่มีคุณสมบัติพิเศษ และหลากหลาย แต่มันต้องค่อยเป็นค่อยไป เราไม่ใช่สโมสรที่สามารถจ่ายเงิน 80-90 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3.2-3.6 พันล้านบาท) เพื่อผู้เล่นคนเดียว นั่นไม่ใช่วิธีทำงานของเรา"
"เราต้องดึงผู้เล่นที่มีลักษณะเฉพาะตัว พัฒนาฝีเท้าเขา และปล่อยให้เขาเติบโตตามแนวทางของเรา นั่นคือสาเหตุที่ผมมาอยู่ที่นี่ เพื่อยกระดับนักเตะและสโมสรสู่ระดับยุโรป" ร็อดเจอร์ส วัย 46 ปี ทิ้งท้าย