วันที่ 23 พฤศจิกายน 2562 ที่ท่าอากาศยานนานาชาติ สุวรรณภูมิ ทางด้าน อากิระ นิชิโนะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี นำทัพช้างศึก ออกเดินทางไปยังประเทศฟิลิปปินส์ เพื่อเข้าร่วมมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30
โดย อากิระ นิชิโนะ ได้กล่าวก่อนเดินทางว่า “ตามที่ทราบมานะครับ ก็คือรายการนี้ เป็นความร่วมมือกันระหว่างสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ กับคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ก็เข้าใจถึงวัฒนธรรมที่เราสืบทอดกันมานาน และให้ความสำคัญกับรายการนี้ ก็จะทำหน้าที่ให้เต็มความสามารถที่สุด”
“ซึ่งตอนนี้ อาจจะไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดเรื่องนี้ แต่เนื่องจากการที่นักกีฬาเพิ่งจะเสร็จสิ้นภารกิจกับสโมสร ดังนั้นเป้าหมายอันดับแรกที่ต้องการในซีเกมส์ก็คือ พานักกีฬากลับมา โดยที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ”
“อย่างที่ทราบกันดีว่า ตอนนี้เราเหลือผู้เล่น 19 คน เนื่องจากเอกนิษฐ์ได้รับบาดเจ็บ และด้วยระเบียบของการแข่งขัน ทำให้เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงผู้เล่นได้ นอกจากนี้ยังใช้สนามหญ้าเทียมในการแข่งขัน ทำให้มีความเสี่ยงที่ผู้เล่นจะได้รับบาดเจ็บอย่างมาก”
“ตอนนี้ เราเหมือนกับว่ายืมสมบัติของสโมสรมาใช้อยู่ ดังนั้นจึงต้องทะนุถนอม และส่งคืนกลับสโมสรโดยที่ไม่มีความเสียหายอะไร ซึ่งตรงนี้ เราก็ต้องมาบริหารจัดการให้ดี ว่าจะทำอย่างไร”
“ผมทราบดีถึงความคาดหวังของแฟนบอลทุกท่าน สิ่งที่อยากจะได้กลับมาก็คือชัยชนะอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ขอตั้งเป้าก่อนว่า จะพานักกีฬากลับมาโดยไม่ได้รับบาดเจ็บสักคนครับ”
“ถ้าเป็นไปได้ ในรายการถัดไป ก็อยากให้พิจารณาถึงกฎ กติกา ที่เอื้อต่อสภาพร่างกายของนักกีฬาให้มากกว่านี้ หรือในอนาคต ก็อยากให้พิจารณาเปิดโอกาส นักกีฬาฟุตบอลที่ไม่ได้เป็นนักกีฬาอาชีพ เข้าร่วมแข่งขันได้เช่นเดียวกัน”
“เพราะด้วยตารางแข่งขันของซีเกมส์ที่แข่งวันเว้นวัน ประกอบกับจำนวนรายชื่อที่ส่งแข่งขันมีจำกัดเพียง 20 คน อีกทั้งไม่สามารถเปลี่ยนแปลงรายชื่อผู้เล่นได้ ซึ่งระเบียบการแข่งขันเหล่านี้ ไม่เหมาะกับนักฟุตบอลอาชีพนัก ดังนั้นจึงควรเปิดโอกาสให้กับผู้เล่นหน้าใหม่ๆ ที่ไม่ได้เข้าสู่ระบบอาชีพเต็มตัวมากกว่า”
ขณะที่ สุภโชค สารชาติ กล่าวว่า “จริงๆ รุ่นนี้ก็เล่นด้วยกันมาตลอดอยู่แล้วครับ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องการเล่นไม่เข้าขากัน”
“เรื่องสภาพร่างกายที่เพิ่งเสร็จจากการเล่นให้ชุดใหญ่ ก็มีผลนิดนึงครับ แต่ว่าเมื่อถึงเวลาแข่งก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร เพราะศักยภาพของทีมเราก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดีครับ”
“การขาดเอกนิษฐ์ไป ผมคิดว่าประสิทธิภาพในทีมอาจจะลดลงไปบ้าง แต่คนอื่นๆ ยังสามารถทดแทนกันได้”
“ส่วนเรื่องความคาดหวังในการคว้าเหรียญทอง ก็รู้สึกกดดันนิดหน่อยครับ เพราะทุกคนก็คาดหวังว่าพวกเราต้องคว้าเหรียญทองมาให้ได้ แต่ก็พยายามทำให้ดีที่สุดครับ”
“เกมรอบแรก ผมว่าเราน่าจะผ่านไปได้ครับ แต่ก็ไม่ประมาทครับ”
“การที่ผมเคยร่วมงานกับนิชิโนะมาแล้วในทีมชุดใหญ่ ทำให้เรารู้สไตล์การเล่นของเขาครับว่าเป็นอย่างไร ก็คิดว่าน่าจะสามารถแนะนำพี่ๆ เพื่อนๆ ได้ครับ”
“ก็ฝากแฟนๆ ฟุตบอลชาวไทยทุกคนให้เอาใจช่วยทีม U23 ของเราด้วยครับ เราจะทำให้ดีที่สุดครับ” สุภโชค ทิ้งท้าย
ส่วน ศุภชัย ใจเด็ด กล่าวว่า “รู้สึกดีใจครับ ที่ได้เข้ามาในทีมชุดนี้ เป็นชุดที่เล่นด้วยกันมาตั้งแต่รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ถึงจะไม่ได้ร่วมเล่นด้วยกันมานานพอสมควร แต่ก็ยังมีเวลาทำความเข้าใจกับแท็คติกของโค้ช และพยายามจะช่วยทีมให้ดีที่สุด ช่วงแรกอาจจะติดขัดนิดหน่อย แต่เชื่อว่าทุกคนจะพยายามโฟกัส ถึงตรงนั้นแล้ว 90 นาทีในสนาม อะไรก็เกิดขึ้นได้”
“ปัจจัยเรื่องสนาม ก็อาจมีผลกระทบเล็กน้อย แต่นั่นก็ไม่ใช่ข้ออ้าง ผมเชื่อว่า ทุกคนจะพยายามเต็มที่ครับ”
โดยโปรแกรมนัดแรก ทีมชาติไทย จะพบกับ อินโดนีเซีย ในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2562 เวลา 15.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) รีซาล เมโมเรียล สเตเดียม เมืองมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ถ่ายทอดสดทางช่อง 7