แอลพีจีเอทัวร์ประกาศโปรแกรมการแข่งขันฤดูกาล 2020 ด้วยจำนวนแมทช์แข่งขัน 33 รายการ ใน 11 ประเทศทั่วโลก และเงินรางวัลรวมให้ชิงชัย 75.1 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 2,328 ล้านบาท มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของทัวร์ พร้อมถ่ายทอดทางโทรทัศน์กว่า 500 ชั่วโมง โดยเปิดฉากฤดูกาลด้วยรายการไดมอนด์ รีสอร์ท ทัวร์นาเมนท์ ออฟ แชมเปียนส์ ในช่วงกลางเดือนมกราคม
นอกจากนี้ทางแอลพีจีเอทัวร์ยังมีรางวัลใหญ่ที่จะให้นักกอล์ฟได้ไล่ล่ากัน 3 รางวัล ได้แก่ Aon Risk Reward Challenge ซึ่งเป็นการนำคะแนนสะสมจากหลุมยากที่ทางทัวร์กำหนดในแต่ละรายการของฤดูกาล จะได้รับเงินรางวัลโบนัส 1 ล้านเหรียญสหรัฐ และรางวัลนักกอล์ฟติดท็อป 10 มากที่สุดจะได้รับรางวัลโบนัส 100,000 เหรียญสหรัฐ โดยรางวัลนี้ตั้งขึ้นครั้งแรกในปี 2018 ซึ่งโปรเม-เอรียา จุฑานุกาล คว้าไปครอง ตามด้วย โค จิน-ยอง จากเกาหลีใต้ ในปี 2019 และยังมีรางวัลเแชมป์จากซีเอ็มอี กรุ๊ป ทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ อีก 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของกอล์ฟหญิง โดยนำเอานักกอล์ฟ 60 อันดับแรกของคะแนนสะสมเรซทู ซีเอ็มอี โกลบ ร่วมแข่งขันปิดท้ายฤดูกาล
ในส่วนของการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ในปี 2020 จะมีการถ่ายทอดไปทั่วโลกโลกกว่า 500 ชั่วโมง รวมทั้งถ่ายทอดทางทีวีเน็ตเวิร์กอีกอย่างน้อย 7 รายการ แฟนกอล์ฟจะได้ชมไปกว่า 175 ประเทศ และกว่า 500 ล้านครัวเรือน
ไมค์ วาน ประธานบริหารแอลพีจีเอทัวร์ เผยว่า "ขณะนี้เราจะปิดฤดูกาล 2019 และเข้าสู่ปี 2020 ไม่มีอะไรที่ผมจะตื่นเต้นได้มากไปกว่าสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในแอลพีจีเอทัวร์และผู้ที่สนับสนุนเรา ซึ่งปีหน้าจะมีเงินรางวัลรวม 75.1 ล้านเหรียญนั่นเป็นสิ่งที่พิสูจน์ว่าเราได้รับการสนับสนุนจากสปอนเซอร์และพาร์ทเนอร์จากทั่วโลก”
ขณะที่ ซีเมทราทัวร์ซึ่งเป็นทัวร์รองของแอลพีจีเอมีการแข่งขันอย่างน้อย 20 รายการ เพื่อชิงทัวร์การ์ด 10 อันดับ ในการเลื่อนขึ้นไปเล่นในแอลพีจีเอในฤดูกาลถัดไป