xs
xsm
sm
md
lg

พรีวิว "ช้างศึก" แพ้ไม่ได้ ดวล "เวียดนาม" ชี้ชะตาคัดบอลโลก

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก รอบสอง โซนเอเชีย วันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน 2562 เดินทางมาถึงนัดที่ 5 รอบแบ่งกลุ่ม ขุนพล "ช้างศึก" ทีมชาติไทย ต้องพบศึกหนักในการออกไปเยือน "ดาวทอง" เวียดนาม ที่มีดินห์ สเตเดียม กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม

พลพรรค "ช้างศึก" ทำผลงานได้ดีใน 3 เกมแรก ด้วยการเปิดบ้านเสมอ เวียดนาม 0-0, บุกชนะ อินโดนีเซีย 3-0 และเฉือนชนะสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี ในบ้านของตัวเอง 2-1 อย่างไรก็ตามเกมล่าสุดเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา บุกพ่ายให้กับ "เสือเหลือง" มาเลเซีย ด้วยสกอร์ 1-2 ทำให้สถานการณ์ ณ เวลานี้ ตกมารั้งอันดับ 2 ของกลุ่ม จี มี 7 คะแนน ตามหลัง เวียดนาม จ่าฝูงของกลุ่ม 3 คะแนน

สภาพทีมในเกมนี้ได้รับข่าวดี "เจ้าอุ้ม" ธีราทร บุญมาทัน แบ็คซ้ายตัวเก่งสังกัดโยโกฮาม่า เอฟ มารินอส พ้นโทษแบนคืนสู่ทีมอีกครั้ง โดยทำการตัดชื่อ กรกช วิริยอุดมศิริ ออก เพื่อให้ครบ 23 รายชื่อ ส่วนผู้เล่นคนอื่นๆ ไม่มีใครติดโทษแบนหรือได้รับบาดเจ็บ ทุกคนฟิตเต็มถังพร้อมเป็นตัวเลือกแก่ อากิระ นิชิโนะ เฮดโค้ชชาวญี่ปุ่นในทุกตำแหน่ง

คาดว่าเกมนี้กุนซือจากแดนปลาดิบ อาจมีการปรับเปลี่ยนผู้เล่นในแผงหลังถึง 3 คน โดยในรายของ เอเลียส ดอเลาะห์ กับ ทริสตอง โด เซ็นเตอร์ และแบ็คขวา น่าจะหลุดไปเป็นตัวสำรองหลังทำผลงานได้อย่างย่ำแย่ในเกมที่แล้วจนถูกวิพากย์วิจารณ์อย่างหนัก เพื่อเปิดทางให้กับ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ และนิติพงษ์ เสลานนท์ คืนสู่ 11 คนแรกอีกครั้ง ส่วนอีกคนแน่นอนว่า กรกช วิริยอุดมศิริ ที่โดนตัดชื่อออก จะถูกแทนที่โดย ธีราทร บุญมาทัน ขณะที่แผงรุก นำทัพมาโดย 4 ตัวเก่ง อย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์, สุภโชค สารชาติ, เอกนิษฐ์ ปัญญา และธีรศิลป์ แดงดา

อากิระ นิชิโนะ กุนซือใหญ่ทัพช้างศึก กล่าวในงานแถลงข่าวก่อนเกมว่า "เวียดนามมีพัฒนาการอย่างรวดเร็ว ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่ายกย่องมาก พวกเขาเป็นคู่แข่งสำคัญของเรา และพัฒนาอย่างก้าวกระโดดในทีมชาติทุกชุด แน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นให้ฟุตบอลในอาเซียนมีการพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ"

"ส่วนการแข่งขันในเกมนี้เป็นข่าวดีเล็กน้อยเพราะสภาพสนามหญ้าจะเป็นรูปแบบที่ใกล้เคียงกับที่ไทย เราน่าจะคุ้นเคยกับสภาพสนามมากกว่าเกมที่แล้ว ข้อดีของเราตอนนี้คือไม่มีใครที่ได้รับบาดเจ็บ แน่นอนว่าเกมนี้เป็นการพบกันเองกับทีมที่มีลุ้นเข้ารอบด้วยกัน เราจึงต้องตั้งเป้าในการคว้า 3 สามแต้มให้ได้ เพื่อกลับมาอยู่ในสถานการณ์ที่มีลุ้นอีกครั้ง"

"การส่ง อิสสระ ศรีทะโร ไปสเก๊าท์เกมระหว่าง เวียดนาม พบ ยูเออี เมื่อนัดที่แล้ว ก็ได้อะไรกลับมาเยอะพอสมควร แต่ยูเออี เขาเหลือผู้เล่น 10 คนด้วย ทำให้เกมดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแท็คติกการเล่นของเวียดนามพอสมควร แต่เราก็ถือว่าทำการบ้านรับมือพวกเขาเป็นอย่างดี" เฮดโค้ชทีมชาติไทย กล่าว

ทางฝั่งทัพ "ดาวทอง" ทีมชาติเวียดนาม ภายใต้การคุมทีมของ ปาร์ค ฮัง ซอ เทรนเนอร์ชาวเกาหลีใต้ กำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมติดลมบน ไม่แพ้ใครมาแล้ว 6 เกมติดต่อกันในปีนี้ ครั้งสุดท้ายที่ปราชัยต้องย้อนไปเมื่อ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา ในศึกเอเชียน คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย ที่พวกเขาพ่ายแพ้ให้กับ ญี่ปุ่น ไปแบบหวุดหวิด 0-1 โดยผลงานในการคัดบอลโลก 4 เกมก่อนหน้านี้ ชนะได้ถึง 3 นัด เสมอ 1 นัด ล่าสุดเปิดบ้านเฉือนชนะ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1-0 ทะยานจ่าฝูงของกลุ่ม จี มี 10 แต้ม

สภาพความพร้อมของทีมไร้ปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหรือติดโทษแบนเช่นกัน นำทัพมาโดยผู้เล่นแนวรุก อย่าง เหงียน คองเฟือง, เหงียน กวงไฮ, เหงียน เทียนลินห์ และกองหน้าจอมเก๋า อย่าง เหงียน อันห์ดิ๊ค ขณะที่แนวรับ นำโดย โด ดุยมานห์, เกว ง็อคไฮ, โดอัน วานเฮา, บุย เทียนดุง

ปาร์ค ฮัง ซอ เทรนเนอร์ทัพดาวทอง ให้สัมภาษณ์ก่อนเกมว่า "จากความพ่ายแพ้ของทีมชาติไทยต่อมาเลเซียในเกมก่อน ทำให้พวกเราได้เห็นจุดอ่อนในบางอย่าง และเราทราบจุดอ่อนนั้นของพวกเขาเป็นอย่างดี"

"เกมรับของทีมชาติไทยมีจุดอ่อน และมีช่องว่างอยู่พอสมควร จริงๆมันมีอะไรที่ลึกมากกว่านี้แต่ผมคงบอกได้แค่นี้ เราก็คงต้องไปรอดูในเกมการแข่งขันว่าจะเป็นอย่างไร เกมนี้มีความสำคัญกับทั้งสองทีม สต๊าฟฟ์โค้ช และนักเตะ ต่างทราบถึงจุดนี้ดี เพราะฉะนั้นทุกคนจะมีความมุ่งมั่นและตั้งใจมากกว่านัดอื่นๆเป็นพิเศษ" เฮดโค้ชเวียดนาม กล่าว

สถิติการเจอกันของทั้งสองทีมในทุกรายการเท่าที่มีการจดบันทึก ดวลแข้งกันมาทั้งสิ้น 26 นัด ปรากฎว่า "ช้างศึก" ทำได้ดีกว่า ชนะไปได้ถึง 17 นัด เสมอ 5 นัด และเวียดนามเอาชนะได้ 4 นัด

ส่วนเกมล่าสุดที่เจอกันย้อนกลับไปเมื่อ 5 กันยายนที่ผ่านมา ในการคัดบอลโลกเกมแรกที่สนามกีฬามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ไทย เปิดบ้านเสมอ เวียดนาม 0-0 ซึ่งย้อนกลับไปไกลกว่านั้นเล็กน้อย เมื่อวันที่ 5 มิถุนายนปีนี้ ไทย พ่ายคาบ้านให้กับ เวียดนาม 0-1 ในคิงส์คัพ ครั้งที่ 47 ที่จ.บุรีรัมย์

อย่างไรก็ตามการดวลกันในศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ครั้งที่แล้ว เป็นทีมชาติไทย ในยุคของ "ซิโก้" เกียรติศักดิ เสนาเมือง ที่เอาชนะ เวียดนาม ได้ทั้ง 2 นัดเหย้าและเยือน โดย ช้างศึก เปิดบ้านเฉือนชนะ ดาวทอง ไป 1-0 ที่ราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2015 ก่อนที่ไทยจะบุกไปเอาชนะได้ถึงถิ่น 3-0 ในเดือนตุลาคมปีเดียวกัน

รายชื่อ 11 ตัวจริงทีมชาติไทย ที่คาดว่าจะลงสนาม
ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (GK), นิติพงษ์ เสลานนท์, มานูเอล ทอม, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, ธีราทร บุญมาทัน, พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล, สารัช อยู่เย็น, ชนาธิป สรงกระสินธ์, สุภโชค สารชาติ, เอกนิษฐ์ ปัญญา, ธีรศิลป์ แดงดา

สำหรับ ทีมชาติไทย จะพบกับ ทีมชาติเวียดนาม ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 นัดที่ 5 วันที่ 19 พฤศจิกายน 2562 ที่สนามมีดินห์ สเตเดียม เวลา 20.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทาง ไทยรัฐ ทีวี ช่อง 32


กำลังโหลดความคิดเห็น