เมสัน รูดอล์ฟ ควอเตอร์แบ็ก พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส เจอแฟนๆ ส่งเสียงโห่กระตุ้น หลังเกิดอาการเครื่องร้อนช้า ฮึดชนะ ไมอามี ดอลฟินส์ ทีมสถิติแย่สุดของศึก อเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) 27-14 ที่สนาม ไฮน์ซ ฟิลด์ วันอังคารที่ 29 ตุลาคม
ปัจจัยต่างๆ เทิร์นโอเวอร์ , ขว้างบอลพลาดเป้า , เสียโทษ และพลาดโอกาสทำคะแนน ช่วง 30 นาทีแรก รูปเกมจึงดูยากเหลือเกินว่า สตีลเลอร์ส หรือ ดอลฟินส์ คือ ทีมที่อยู่ระหว่างการสร้างขุมกำลังใหม่
รูดอล์ฟ กล่าว "ผมคงจะส่งเสียงโห่ต่อผลงานแบบนั้นเช่นกัน เราขาดความกระตือรือร้น นี่คือ พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส ซึ่งมีมาตรฐานการเล่านในบ้านสูง แต่ช่วงนั้นเราทำได้ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น"
อย่างไรก็ตาม จอมทัพวัย 24 ปี คืนฟอร์มทันเวลา ขว้างได้ระยะ 251 หลา 2 ทัชดาวน์ ฉลองกลับสู่ทีมเกมแรก ตั้งแต่ถูกแท็คเกิลหมดสติเกมพบ บัลติมอร์ เรฟเวนส์ ช่วงต้นเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา และ เจมส์ คอนเนอร์ รันนิงแบ็ก วิ่งระยะ 145 หลา 1 ทัชดาวน์ พา สตีลเลอร์ส เก็บชัย 2 เกมรวด ขยับสถิติเป็น ชนะ 3 แพ้ 4
ผลผลิตจากมหาวิทยาลัย โอกลาโฮมา สเตท เสียอินเทอร์เซ็ปต์ ตั้งแต่การบุกชุดแรกแก่ ซาเวียน ฮาเวิร์ด คอร์เนอร์แบ็ก และขว้างอินคอมพลีตแบบน่าเกลียด ในการเล่นดาวน์ที่ 4 ก่อนรูปเกมดีขึ้นเรื่อยๆ ปาบอลเข้าเป้า 20 จาก 36 ครั้ง รวมทัชดาวน์ 45 หลา ให้ ดิออนเท จอห์นสัน ปีกดาวรุ่ง ท้ายควอเตอร์ 2 และ 26 หลา ให้ จูจู สมิธ-ชูสเตอร์ ปีกนอกตัวหลัก แซงนำ 17-14 ช่วงควอเตอร์ 3
ขณะที่ ไรอัน ฟิตซ์แพทริค ควอเตอร์แบ็ก ดอลฟินส์ ขว้าง 190 หลา 2 ทัชดาวน์ นำห่าง 14-0 ช่วงควอเตอร์แรก เสีย 2 อินเทอร์เซ็ปต์แก่ มินกาห์ ฟิตซ์แพทริค เซฟตีเพื่อนเก่า ที่เพิ่งถูกเทรดไป สตีลเลอร์ส เดือนกันยายนที่ผ่านมา ทว่ามิอาจช่วย "โลมามหาภัย" รอดพ้นความปราชัย 7 เกมรวดครั้งแรก ตั้งแต่ปี 2011 และ 10 เกมรวด รวมฤดูกาลที่แล้ว
