สโมสรฟุตบอลของ "เรด บูลล์" ที่มีแรงชังแฟนบอลเป็นแรงผลักดัน

“เรด บูลล์” ชื่อนี้ใครๆก็รู้จัก พวกเขาคือแบรนด์เครื่องดื่มให้พลังงานที่โด่งดังที่สุดของโลก ร้านค้าสะดวกซื้อไม่ว่าที่ไหนของโลกนี้ก็ต้องมีเครื่องดื่มตรา “กระทิงแดง” เข้าไปจัดวางอยู่ในตู้เย็นทุกร้าน ขณะเดียวกัน พวกเขายังเป็นเจ้าของทีมกีฬาต่างๆมากมาย โดยเฉพาะทีมฟุตบอล ที่พวกเขาสร้างขึ้นและคืบคลานเข้าไปควบคุมกิจการทีมดั้งเดิมจนประสบความสำเร็จ แม้จะมาพร้อมเสียงก่นด่าและความโกรธแค้นของแฟนบอลดั้งเดิม

เรด บูลล์ เป็นผู้สนับสนุนวงการกีฬาหลายประเภท โดยเฉพาะแนว เอ็กซ์ตรีม ท้าทายวัยรุ่นวัยมัน ปีนผา, เครื่องร่อน, เจ็ตสกี, กระโดดร่ม ฯลฯ กระทั่งรถแข่งอย่าง ฟอร์มูล่า วัน กับทีม เรด บูลล์ เรซซิ่ง นอกจากนี้ยังมีทีมฟุตบอลที่กำลังสร้างชื่อขึ้นมาเรื่อยๆในวงการลูกหนัง ทีมที่รู้จักกันดีอยู่แล้วคือ อาร์เบ ไลป์ซิก ทีมระดับท็อป 5 ของศึก บุนเดสลีกา เยอรมนี ที่ไต่เต้าจากลีกชั้นล่างสุดมาถึงชั้นสูงสุดอย่างรวดเร็ว แถมยังได้ไปเล่นฟุตบอลยุโรป ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก จนทีมเล็กทีมน้อยต่างอิจฉา

นอกจาก ไลป์ซิก เรด บูลล์ ยังเป็นเจ้าของทีมฟุตบอลอีก 4 ทีม ประกอบด้วย เรด บูลล์ ซัลสบวร์ก (ออสเตรีย), นิว ยอร์ค เรด บูลล์ส (สหรัฐอเมริกา), เรด บูลล์ บราซิล (บราซิล) และ เอฟซี ลีเฟอริง (ออสเตรีย) กระนั้นทีมที่ประสบความสำเร็จที่สุดก็ต้องเป็น อาร์เบ ไลป์ซิก ที่พวกเขาให้ความสำคัญและพัฒนาทีมเป็นอันดับ 1 แม้จะยังไม่มีถ้วยระดับเมเจอร์ติดมือแต่ก็ถือเป็นทีมแห่งอนาคตที่ เรด บูลล์ เชื่อว่าจะก้าวขึ้นไปผงาดเหนือ บาเยิร์น มิวนิค และต่อกรกับทีมยุโรปต่างๆได้ไม่เป็นสองรองใคร ส่วนทีมอื่นๆก็ประสบความสำเร็จในลีกระดับประเทศของตนเอง

การครอบครองทีมฟุตบอลท้องถิ่นของ เรด บูลล์ ดูเหมือนเป็นเรื่องดีเพราะนำพาความเจริญมาสู่ทีม ทั้งเม็ดเงินมหาศาล ปรับปรุงสนามใหม่ ดึงนักเตะดังๆมาร่วมทีม แต่ใช่ว่าแฟนบอลทุกคนจะรู้สึกภูมิใจ ย้อนไปเมื่อปี 2005 วันที่ เรด บูลล์ เทคโอเวอร์ทีม เอสวี ออสเตรีย ซัลบวร์ก พวกเขาเปลี่ยนชื่อทีมเป็น เรด บูลล์ ซัลบวร์ก พร้อมตราสโมสรใหม่เป็นรูปกระทิง 2 ตัวขวิดกันตามแบบฉบับ “กระทิงแดง” และชุดทีมแข่งสีขาว-แดง ด้วยเหตุผลด้านการตลาด นั่นเป็นการทำลายขนบเดิมของทีมจนทำให้แฟนบอลดั้งเดิมขุ่นเคืองประท้วงไม่เข้าสนามไปเชียร์ในหลายเกม

การต่อต้านมีขึ้นเรื่อยๆทั้งไม่อุดหนุนสินค้าของที่ระลึก ไม่ซื้อตั๋วปีเข้าไปเชียร์ทีม แฟนบอลมองว่าการกระทำของเรด บูลล์ ถือเป็นการทำลายประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเดิม ทว่าก็ไม่อาจหยุดความสำเร็จและการเติบโตของทีมได้เมื่อ เรด บูลล์ ซัลสบวร์ก คว้าแชมป์ลีกสูงสุดในบ้าน 10 สมัย รวมถึงได้โควตาไปเล่น ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ที่ล่าสุดเกือบทำเซอร์ไพรส์อัด ลิเวอร์พูล ยอดทีมแห่งอังกฤษคาบ้าน แต่สุดท้ายโดน “หงส์แดง” ยิงเฉือน 4-3 ถึงแพ้แต่ก็เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกไปเรียบร้อย และยังมีโอกาสเข้ารอบน็อคเอาท์ด้วย

มาดูที่ นิวยอร์ก เรด บูลล์ส ที่แบรนด์กระทิงแดงไปเทคโอเวอร์มาจาก นิวยอร์ก เมโทรสตาร์ส แห่งศึก เมเจอร์ ลีก ซอคเกอร์ สหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2006 นอกจากดึงสตาร์ดังระดับตำนานทั้ง เธียร์รี อองรี กับ ทิม เคฮิลล์ มาฟาดเกือก ยังจัดการเปลี่ยนแปลงทีมโค้ชใหม่หมด เป็นอีกครั้งที่แฟนบอลทีมเก่าไม่พอใจเพราะ เรด บูลล์ เน้นประชาสัมพันธ์สินค้าตัวเองทุกรูปแบบระหว่างเกม เอานักร้องดังมาแสดงโชว์ แม้แต่ทีมคู่แข่งหลายทีมยังหมั่นไส้ ครั้งหนึ่งนักเตะ ดีซี ยูไนเต็ด ยิงประตูใส่ทีม นิวยอร์ก เรด บูลล์ ชายคนนั้นฉลองด้วยการหยิบกระป๋อง เรด บูลล์ ขึ้นมาดื่มก่อนบ้วนทิ้งโชว์แบบขยะแขยง

มาถึง ไลป์ซิก ที่โด่งดังที่สุด เรด บูลล์ ซื้อใบอนุญาตทำทีมฟุตบอลเมื่อปี 2008 ก่อนสร้างทีมชื่อ ราเซนบอลสปอร์ต ไลป์ซิก แม้ใจอยากตั้งชื่อว่า เรด บูลล์ ไลป์ซิก มากกว่าเพื่อใช้โปรโมตสินค้าตัวเองด้วย แต่ด้วยนโยบายที่สมาคมฟุตบอลเมืองเบียร์ ไม่อนุญาตให้ใช้ชื่อสปอนเซอร์เป็นชื่อทีมจึงต้องล้มแผน พวกเขาสร้างทีมไต่ชั้นขึ้นมาจากลีกล่างสุด และขึ้นมาอยู่ บุนเดสลีกา เยอรมนี ในเวลา 7 ปี กระนั้น ชาวเยอรมันส่วนใหญ่มักเชียร์ทีมโปรดจากความผูกพันมากกว่าทีมที่เกิดเพราะการตลาด ไลป์ซิก จึงเป็นทีมที่แฟนบอลเยอรมันพันธุ์แท้รังเกียจเพราะมันสร้างด้วย “เงิน” หาใช่ “ความรัก” แต่กลับกันก็มีแฟนบอลวัยรุ่นหน้าใหม่ ให้ความสนใจติดตามเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม การบริหารงานของ ไลป์ซิก ทุกการตัดสินใจอยู่ที่เบื้องบนของ เรด บูลล์ ที่ออสเตรีย ไม่ใช่ทีมงาน 17 คนที่พวกเขาแต่งตั้งมาดูแลทีมที่เยอรมนี กลุ่มนี้ไม่มีสิทธิมีเสียงใดๆ การโยกย้าย ขายนักเตะ เปลี่ยนโค้ช ทุกอย่างมาจากความเห็นชอบที่สำนักงานใหญ่ล้วนๆ รวมถึงทีมอื่นด้วยที่ต้องเอานักเตะฝีเท้าดีมาป้อนให้ ไลป์ซิก ยกตัวอย่าง ไทเลอร์ อดัมส์ กองกลางดาวรุ่งของ นิว ยอร์ก เรด บูลล์ส ที่กำลังฉายแสงเป็นอนาคตให้กับทีม ก็ถูกโยกไปเล่นกับ ไลป์ซิก จนทำแฟนบอลฝั่งอเมริกาขุ่นเคืองไปตามๆกันว่ามีของดีแต่ไม่เก็บไว้ใช้

อันที่จริง ไลป์ซิก ไม่ใช่ทีมเดียวในบุนเดสลีกา เยอรมนี ที่มีนายทุนอยู่เบื้องหลัง ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน กับ โวลฟ์สบวร์ก ก็เป็นแบบเดียวกัน รายแรกมีแบรนด์ผลิตภัณฑ์ยาสนับสนุน ส่วนรายหลังได้รถหรู โฟล์คสวาเกน อุปถัมน์ค้ำจุน แต่ต่างกันตรงที่ เลเวอร์คูเซน กับ โวล์ฟสบวร์ก สร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับแฟนๆและรับฟังเสียงเรียกร้องของพวกเขาเสมอจนเกิดความผูกพัน แต่ ไลป์ซิก บริหารงานตามคำสั่ง เรด บูลล์ เป็นหลัก ทำให้แฟนบอลรู้สึกเหมือนถูกมองข้ามอยู่เสมอ สิ่งที่พอยึดเหนี่ยวจิตใจได้คือผลงานระดับลุ้นแชมป์ กับการรักษาสตาร์ดังอย่าง ทิโม แวร์เนอร์ ให้อยู่กับทีมต่อไป

การยึดครองทีมลูกหนังของ เรด บูลล์ ทำท่าว่าจะไม่จบเพียงเท่านี้ เมื่อรายงานระบุว่าพวกเขาสนใจมาเทคโอเวอร์ ลงทุน และสร้างทีมฟุตบอลในอังกฤษเช่นกัน รายที่เคยมีข่าวก็คือ ลีดส์ ยูไนเต็ด ยูงทองผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งมีการพูดคุยมาขอเป็นสปอนเซอร์เมื่อปี 2013 แต่คุยกันไม่ลงตัวจึงยกเลิกไป กระนั้นเองก็มีการคาดเดาว่า เรด บูลล์ ต้องการเป็นเจ้าของทีมและควบคุมทุกสิ่งอย่างในกำมือมากกว่า ถ้าเป็นลีกประเทศอื่นพวกเขาคงทำสำเร็จ แต่กับอังกฤษ ที่มีประวัติศาสตร์ทางลูกหนังมายาวนานและซึมลึกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตชาวเมืองผู้ดีตั้งแต่รุ่นพ่อสู่ลูก พวกเขาคงไม่มีวันแทรกซึมเข้ามาได้

ทุกวันนี้ ทีมฟุตบอลที่ เรด บูลล์ ควบคุมอยู่ ถึงจะยังไม่มีทีมใดประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ระดับโลก แต่การหว่านเม็ดเงินสร้างทีมกันแบบจริงจังและเต็มที่ แม้ทำให้แฟนบอลดั้งเดิมรังเกียจและถูกตราหน้าว่าทำเพื่อหวังผลการตลาด แต่หากวันหนึ่งทีมเหล่านี้สามารถหยิบแชมป์ระดับเมเจอร์มาประดับบารมีได้ เราคงเห็น เรด บูลล์ กระทำการที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ รวมถึงการเข้ามาเทคโอเวอร์ทีมลูกหนังของอังกฤษอันเป็นแผนการลับของพวกเขา ซึ่งมีแนวโน้มเกิดขึ้นได้จริงเพราะยุคนี้ทำทีมด้วยใจรักแต่ไม่มีเงินทุนก้อนโตสนับสนุนคงไม่เพียงพอ