xs
xsm
sm
md
lg

หลักสูตรเหนือมนุษย์ ฟิตร่างนักขับ F1 ไม่แกร่งเตรียมตัวตาย

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


การแข่งขันรถสูตรหนึ่งชิงแชมป์โลก ฤดูกาล 2019 เวลานี้เหลืออีกแค่ 5 สนามก็จะรู้กันแล้วว่านักขับทีมไหนจะได้เถลิงบัลลังก์แชมป์หลัง กระนั้นความสำเร็จในวงการนี้ไม่ใช่เพียงแค่คุณมีฝีมือการขับขี่ที่เฉียบคมกับรถแข่งชั้นเลิศที่มีสมรรถนะเหนือกว่าใคร แต่ต้องดูแลรักษาสภาพร่างกายให้สมบูรณ์เต็ม 100 ในทุกสนาม พร้อมรับมือกับทุกสภาวะการณ์ที่คาดเดาไม่ได้เพราะกีฬาเสี่ยงตายสูงแบบนี้ไม่ใช่ตาสีตาสาที่ไหนก็ขับได้

ก่อนหน้านี้ ลูอิส แฮมิลตัน นักแข่งเบอร์ 1 จากค่าย เมอร์เซเดส เอเอ็มจี ออกมาตัดพ้อผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวทำนองว่าเหนื่อยใจกับการดูแลร่างกายให้พร้อมสำหรับการแข่งขันจนเกิดเอฟเฟกต์น้ำหนักขึ้นลงไม่สม่ำเสมอ เดี๋ยวผอมเดี๋ยวอ้วน บวกกับมีไลฟ์สไตล์เป็นปาร์ตี้บอย ชอบย่ำราตรีทุกหนแห่ง จนถูกแฟนมอเตอร์สปอร์ตวิจารณ์บนโลกโซเชียล มีเดียทำนองไม่ดูแลตัวเองเลย จนทำให้นึกสงสัยว่าถ้าอยากจะเป็นนักแข่ง ฟอร์มูล่า วัน ต้องมีร่างกายแบบไหนและกินอยู่อย่างไร
เป็นนักขับเอฟวันนั้นไม่ง่าย
สำหรับกีฬาแข่งรถ หลายคนอาจคิดว่าคงไม่ต้องใช้ร่างกายหนักเท่ากีฬาชนิดอื่น เพียงแค่มีทักษะควบคุมพวงมาลัยกับคันเร่งรวมถึงสัญชาติญาณนักแข่งเหนือกว่าคนทั่วไปนิดหน่อย แต่ที่จริง ฟอร์มูล่า วัน ก็เป็นกีฬาที่นักแข่งต้องฟิตร่างกายให้แข็งแรงต้อนรับความเร็วระดับนรกมากกว่า 200 กม./ชั่วโมงยามลงแข่งขันจริง ซึ่งหากพลาดพลั้งประสบอุบัติเหตุระหว่างแข่งด้วย ตัวมนุษย์ก็จะเจอแรง G อัดกระแทกเพิ่มเข้าไปอีก ถ้าเป็นมนุษย์ธรรมดาไม่ได้ฝึกร่างกายมาให้พร้อม ชีวิตมีปัญหาแน่

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ ปี 2016 การแข่งขันที่ออสเตรเลีย เฟร์นานโด อลอนโซ แชมป์โลกชาวสแปนิช เจออุบัติเหตุชนกับเพื่อนร่วมอาชีพจนรถหมุนติ้วลอยกลางอากาศแล้วไปกระแทกกับกำแพง ทว่าหลังจากนั้นเจ้าตัวก็ลุกออกมาจากรถได้แบบร่างกายครบ 32 สิ่งนี้ไม่ใช่เป็นแค่เรื่องระบบความปลอดภัยที่ทีมผู้จัดเตรียมการมาอย่างดี แต่เป็นตัวนักขับเองที่มีร่างกายแข็งแกร่งตามเงื่อนไขการขับเอฟวัน เลยไม่เป็นอะไรแก่ชีวิตทั้งสิ้น
สภาพกายของ ลูอิส แฮมิลตัน ที่อวบขึ้นเรื่อยๆ
การฟิตกล้ามเนื้อส่วนสำคัญสุดอยู่ที่ “คอ” หากสังเกตนักแข่งในสนามจะเห็นว่าแต่ละคนมีคอที่ใหญ่กว่าคนปกติโดยเฉพาะ แม็กซ์ เวอร์สแตพเพน นักขับ เรด บูลล์ ที่มีลำคอหนาแข็งแรง วิธีการฝึกกล้ามเนื้อคอคือเทรนเนอร์จะให้นักแข่งสวมหมวกที่มีเชือกขนาดยาวผูกไว้ทั้งซ้ายขวา แล้วเทรนเนอร์จะเป็นคนดึงเชือกสองข้างให้ตึงสลับกัน นักแข่งจะต้องเกร็งกล้ามเนื้อลำคอไว้ต่อต้านแรงดึงนั้นไว้ จุดนี้นอกจากได้กล้ามเนื้อคอแล้วยังได้กล้ามแผ่นหลังส่วนบนแถมด้วย

ถัดมาคืออัตราการเต้นของหัวใจ มนุษย์ปกติหัวใจจะเต้นประมาณ 60-70 ครั้งต่อนาที แต่สำหรับ เอฟวัน หัวใจนักแข่งเต้นแรงกว่าเดิมไม่ใช่เพราะตื่นเต้นแต่มาจากสภาวะความเครียด ความกดดันระหว่างขับขี่ มีการเปิดเผยว่าเพียงช่วงที่นักแข่งรอสัญญาณไฟออกสตาร์ท หัวใจก็เต้นไปที่ 185 ครั้งต่อนาที และเมื่อเหยียบคันเร่งออกไป หัวใจก็จะเต้นแรงขึ้นไปกว่า 200 ครั้งต่อนาที ดังนั้นการออกกำลังกายประเภทแอโรบิค ยกน้ำหนัก วิ่ง ปั่นจักรยาน จะเป็นตัวช่วยสิ่งนี้ จำนวนกี่ครั้งอันนี้ขึ้นอยู่กับร่างกายของนักแข่งว่าขีดสุดทำได้แค่ไหน โดยต้องทำต่อเนื่อง 6 วันต่อสัปดาห์ โดยเฉพาะช่วงก่อนเปิดซีซั่น เดือนพฤศจิกายน – มีนาคม
อะโวคาโด เมนูมังสวิรัตสุดโปรดของ แฮมิลตัน
ต่อมาคือกล้ามเนื้อแขนและขา นักแข่งเอฟวันไม่จำเป็นต้องกล้ามโต แต่แขนต้องแข็งแรงชนิดสามารถบิดหมุนพวงมาลัยที่เชื่อมต่อกับล้อขนาดใหญ่ 4 ข้างซึ่งเสียดสีกับพื้นแทร็คได้อย่างรวดเร็ว การฝึกส่วนนี้นักแข่งจะต้องนั่งบนลูกบอลออกกำลังของโรงยิม ขณะที่แขนจะถือเหล็กน้ำหนัก 3 กก.เอาไว้แล้วคอยหมุนซ้าย-ขวา ตามที่เทรนเนอร์สั่ง ส่วนนี้จะได้เรื่องข้อมือเช่นกัน ส่วนขาก็ออกกำลังโดยใช้ขายันเครื่องกดน้ำหนักในโรงยิม ยันขึ้น-ลง ภายใต้น้ำหนัก 90 กก. พลางสลับใช้ขาซ้าย-ขวา บ้าง เพราะคันเร่งกับเบรคเท้าในรถเอฟวันนั้นแข็งกว่ารถปกติทั่วไป จะเหยียบก็ต้องออกแรงกันหน่อย

สุดท้ายคือเรื่องปฏิกิริยาตอบสนองที่ต้องรวดเร็ว วิธีทดสอบส่วนใหญ่ที่ใช้กันคือเทรนเนอร์จะเตรียมปุ่มสัญญาณไฟ แดง เขียว 6 ตัวมาวางบนโต๊ะ แล้วให้นักแข่งกดเฉพาะสีที่กำหนดไว้ ทดสอบปฏิกิริยาการตอบสนองซึ่งต้องเร็วและถูกต้องในคราเดียวกัน รวมถึงวิธีทดสอบอื่นๆที่แต่ละทีมจะใช้เครื่องมือแตกต่างกันไป รวมถึงเรื่องจิตวิทยาที่อันนี้ขึ้นอยู่กับนักแข่งแต่ละคนว่าจะใช้บริการจากทีมผู้เชี่ยวชาญฝั่งไหนเป็นพิเศษ
กล้ามเนื้อคอ สำคัญมาก
ส่วนเรื่องอาหารการกิน มีทั้งคนที่กินแบบมนุษย์ทั่วไป รายที่เปิดเผยได้คือ ดานิล คัฟยาต แห่ง โตโรรอสโซ จะเน้นกินของที่ให้โปรตีนอาทิ เนื้อ, นม ไข่, ปลา, โยเกิร์ต, เบอร์รี่ และผักชนิดต่างๆ ส่วนรายที่กินมังสวิรัติอย่าง ลูอิส แฮมิลตัน แห่ง เมอร์เซเดส เอเอ็มจี เมนูสุดโปรดของเจ้าตัวคืออะโวคาโด้, ผัดผัก, แพนเค้ก รวมถึงเต้าหู้เมนูต่างๆและผัดมันฝรั่ง ซึ่งสามารถให้พลังงานแก่แชมป์โลก 5 สมัยได้เช่นกันแม้จะไม่ได้แตะพวกเนื้อสัตว์เลยก็ตาม

สรุปแล้วการเป็นนักแข่งเอฟวัน ก็ไม่ต่างอะไรกับนักกีฬายอดนิยมอื่นๆอย่างฟุตบอล, บาสเกตบอล, มวย ที่ต้องมีวิธีดูแลร่างกายให้พร้อมแข่งอยู่เสมอ และยิ่งเป็นกีฬาที่มีการจ่ายค่าเหนื่อยสูงถึงระดับ 40 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,500 ล้านบาท) ต่อปี ความรับผิดชอบก็ย่อมสูงตามมาเพราะกีฬานี้ไม่มีพื้นที่ให้สำหรับคนที่ผิดพลาด มีเด็กใหม่ที่พร้อมรอเสียบและไม่กลัวตายขณะเหยียบคันเร่งอยู่ทุกเมื่อ
แขนไม่ต้องมีกล้าม แต่เน้นแข็งแรง
กำลังโหลดความคิดเห็น