ดร. ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. ชี้แจงถึงกรณีที่สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี ไม่สามารถปรับปรุงซ่อมแซมสนามแข่งขันได้ทันตามกำหนดก่อนการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบสุดท้าย
สำหรับการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี หรือ ฟุตบอล U-23 ชิงแชมป์เอเชีย ที่เตรียมจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 8-26 มกราคม 2563 ใน 4 สนาม ได้แก่ ราชมังคลากีฬาสถาน, สนามสมโภช 700 ปี จังหวัดเชียงใหม่, สนามติณสูลานนท์ จังหวัดสงขลา และสนามกีฬาธรรมศาสตร์ รังสิต โดย 2สนามแรกเป็นสนามที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ กกท. ที่ผ่านมา กกท. ได้หารือเรื่องดังกล่าวกับสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ มาโดยตลอด ในประเด็นของการปรับปรุงซ่อมแซมสนามกีฬาทั้ง 2 สนามนั้น กกท. มีแผนที่จะทำการซ่อมแซมสนามอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นราชมังคลากีฬาสถาน ที่ใช้จัดการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติมาโดยตลอด ทำให้การซ่อมแซมมีรายละเอียดไม่มาก ตรงกับมาตรฐานที่สหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (AFC) ต้องการ ในส่วนของสนามสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี ที่ก่อสร้างขึ้นเพื่อรองรับการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ในปี 2538 ครั้งที่ 18 ผ่านมาเกือบสามสิบกว่าปีแล้ว ยังไม่เคยมีการปรับปรุงซ่อมแซมสนามแต่อย่างใด ซึ่งหากจะมีการปรับปรุงให้ได้มาตราฐานตามที่ เอเอฟซี กำหนดต้องใช้ระยะเวลาการดำเนินการมากกว่าสนามกีฬาอื่นๆ
สำหรับเรื่องงบประมาณ จำนวน 570 ล้านบาท ที่ได้รับอนุมัติเพื่อปรับปรุงซ่อมแซมสนามนั้น เป็นงบประมาณที่ได้รับการอนุมัติ เพื่อปรับปรุง 3 สนามกีฬาภายใต้การกำกับดูแลของ กกท. โดย กกท.ได้รับอนุมัติเมื่อเดือนเมษายน 2562 ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากการซ่อมแซมสนามที่เชียงใหม่มีรายละเอียดค่อนข้างมาก และต้องดำเนินการตามขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐซึ่งค่อนข้างใช้ระยะเวลาตามขั้นตอนของการ e-bidding ทำให้การดำเนินงานล่าช้า ส่วนสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ ที่จังหวัดนครราชสีมา นั้น ก่อสร้างเพื่อใช้จัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ในปี 2550 และยังจะใช้สำหรับจัดการแข่งขันกีฬาคนพิการทางการเคลื่อนไหวชิงแชมป์โลก “ไอวาส เวิลด์ เกมส์ 2020” ระหว่างวันที่ 20 - 28 กุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งสนามแห่งนี้ก็ยังไม่เคยปรับปรุงซ่อมแซมเช่นกัน
ดังนั้น ในส่วนของราชมังคลากีฬาสถาน และสนามเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ที่นครราชสีมา คาดว่าจะเสร็จทันการแข่งขันอย่างแน่นอน ส่วนสนามสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี ที่แล้วเสร็จไม่ทันตามกำหนดส่งมอบสนามให้เอเอฟซี ภายในวันที่ 24 ธันวาคม นั้น กกท. ได้ประสานกับสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ตั้งแต่แรกที่ทราบว่าจะปรับปรุงสนามไม่ทันตามกำหนด ซึ่งทราบว่าสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยได้มีแผนสำรองดังกล่าวไว้แล้ว
กกท. ขอเรียนว่าการปรับปรุงสนามทั้ง 3 แห่งในครั้งนี้ ไม่ได้จะทำการปรับปรุงเพื่อรองรับการแข่งขันฟุตบอล U-23 ชิงแชมป์เอเชีย หรือการแข่งขัน ไอวาส เวิลด์ เกมส์ 2020 แต่เพียงอย่างเดียว แต่เราทำการปรับปรุงทั้ง 3 สนามซึ่งยังไม่เคยมีการปรับปรุงซ่อมแซมมาก่อน ทั้งนี้ เพื่อให้สนามกีฬาภายใต้การกำกับดูแลของ กกท. ได้มาตรฐานสากลของการแข่งขัน และรองรับการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ พร้อมทั้ง บริการทุกสมาคมกีฬาได้อย่างเต็มรูปแบบและให้บริการกับประชาชนทุกคน เพื่อให้เกิดประโยชน์คุ้มค่าในการใช้บริการสนามกีฬาให้มากที่สุด และจะดำเนินการให้ถูกต้องตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ
ทั้งนี้ ผู้ว่าการได้กล่าวในตอนท้าย “เมื่อสนามสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี ได้ดำเนินการซ่อมแซ่มแล้วเสร็จ ได้หารือกับนายกสนามคมฟุตบอลในเบื้องต้น แม้ว่าจะดำเนินการซ่อมแซ่มไม่ทันการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 แต่จะมีการนำการแข่งขันระดับนานาชาติมาแข่งที่สนามดังกล่าวแน่นอน”