แช้มพ์ แกรนด์ สแลมมากที่สุดตลอดกาล ราฟาเอ็ล หรือ โรเจ้อร์ / กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน

คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน

หลังจากคว้าแช้มพ์ ยูเอ๊ส โอเพิ่น ครั้งที่ 139 เท็นนิส แกรนด์ สแลม รายการสุดท้ายของปี ด้วยการเอาชนะ ดานีล มิดเวียเด๊ฟ (Daniil Medvedev) นักเท็นนิสมืออันดับ 4 ของโลก ชาวรัสเซีย วัย 23 ปี 3-2 เซ็ท 7-5, 6-3, 5-7, 4-6, 6-4 ที่ ศูนย์เท็นนิสแห่งชาติ บิลลี่ จีน คิง (USTA Billie Jean King National Tennis Center) ใน ฟลัชชิ่ง เมโดวส์ - โคโรน่า พ้าร์ค (Flushing Meadows - Corona Park) นิวยอร์ค สหรัฐ อเมริกา เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นับเป็นหนที่ 4 แล้วที่ ราฟาเอ็ล นาดัล (Rafael Nadal) นักหวดชาวสเปน วัย 33 ปี ได้แช้มพ์รายการนี้ รวมเป็นแช้มพ์ แกรนด์ สแลม รายการที่ 19 ไล่หลังสถิติแช้มพ์ แกรนด์ สแลม มากที่สุดของ โรเจ้อร์ เฟ้ดเดอเรอร์ (Roger Federer) นักหวดมือ 3 ของโลก ชาวสวิส วัย 38 ปี เพียง 1 รายการเท่านั้น

ถ้าพูดถึงการคว้าแช้มพ์รายการเล็กใหญ่ตลอดการเล่นอาชีพนั้น โดยนับสถิติในยุคโอเพิ่น (Open Era) ที่เริ่มตั้งแต่ปี 1968 เมื่อรายการระดับ แกรนด์ สแลม ยอมให้นักเท็นนิสอาชีพเข้าร่วมแข่งกับนักเท็นนิสสมัครเล่น โรเจ้อร์ ซึ่งเก็บมาได้ทั้งหมด 102 รายการ ยังเป็นรอง จิมมี่ คอนเน่อร์ส (Jimmy Connors) อดีตนักหวดมือ 1 ของโลกยุคปี 70 ชาวสหรัฐ อเมริกา ที่แม้จะได้แช้มพ์ แกรนด์ สแลม เพียง 8 รายการ และไม่เคยได้แช้มพ์ โรล็อง-การโร้ส (Roland-Garros) เลย แต่เมื่อรวมรายการอื่นๆด้วยแล้ว หมอนี่รับถ้วยรางวัลแช้มพ์ไปทั้งสิ้น 109 ใบ ครองสถิติมากที่สุด ส่วน ราฟาเอ็ล ถึงตอนนี้ยังมาเป็นอันดับ 4 ได้แช้มพ์ 84 รายการ รองจาก อีวาน เล็นเดิ่ล (Ivan Lendl) อดีตมือ 1 ของโลก ชาวเช็ค ยุคปี 80 ที่แปลงสัญชาติย้ายไปใช้ชีวิตใน สหรัฐ อเมริกา แล้วซึ่งมาเป็นอันดับ 3 โดยได้แช้มพ์ตลอดอาชีพ 94 รายการ

การก้าวขึ้นสู่มือ 1 ของโลกก็ถือเป็นดัชนีความเป็นสุดยอดฝีมือในบรรดานักเท็นนิสได้เป็นอย่างดี อันนี้ โรเจ้อร์ ขึ้นแท่นนำสถิติรวมยาวนานที่สุดถึง 310 สัปดาห์ ยากที่จะมีใครทำลายลงได้ เนื่องจากอันดับรองๆอย่าง พี้ท แซมพรัส (Pete Sampras) นักหวดชาวสหรัฐฯ 286 สัปดาห์ อีวาน เล็นเดิ่ล 270 สัปดาห์ และ จิมมี่ คอนเน่อร์ส 268 สัปดาห์ ซึ่งต่างก็เลิกเล่นอาชีพไปนานแล้ว คงเหลือที่ใกล้เคียงที่สุดคือ โนวัค โยโควิช (Novak Djokovic) นักหวดชาวเซรเบีย วัย 32 ปีที่ยังเล่นอาชีพอยู่มีสถิติ 268 สัปดาห์ แต่หากหมอนี่หวังคว่ำสถิติของ โรเจ้อร์ ก็คงต้องยืนแป้นนี้อีกอย่างน้อยให้ยาวเป็นปี ในขณะที่ ราฟาเอ็ล คงเก็บพลังไว้เก็บแต้มจาก แกรนด์ สแลม เนื้อๆและให้ความสำคัญต่อรายการเล็กๆน้อยไปหน่อย จึงทำคะแนนขึ้นรั้งอันดับ 1 ของโลกรวมแค่ 196 สัปดาห์

ด้วยอายุที่ใกล้ 40 ปีของ โรเจ้อร์ ความแข็งแกร่งเริ่มถดถอย ไม่อาจสู้พลังหนุ่มของนักหวดที่ต้องปะทะด้วย คงเหลือเพียงประสบการณ์ ชั้นเชิง ที่สั่งสมมาอย่างยาวนานที่ยังเหนือกว่าใครๆ ประกอบกับอาการบาดเจ็บทั้งหัวเข่าและหลังที่จะมีมารบกวนบ่อยขึ้น ทำให้ต่อไปนี้การคว้าแช้มพ์ แกรนด์ สแลม เพื่อเพิ่มสถิติของตนเองจะยากขึ้นอีกมากเหลือเกิน ในขณะที่คู่ปรปักษ์อย่าง ราฟาเอ็ล นาดัล นักหวดที่ถนัดขวามาตั้งแต่เกิด แต่ โตนี่ นาดัล อาของเขาสอนให้ตีโฟร์แฮนด์ด้วยมือซ้าย เพื่อเวลาแบ็คแฮนด์จะได้รวมพลังมือขวาเข้าเป็นแบ็คแฮนด์ 2 มืออย่างหนักหน่วงนั้น มีวัยอ่อนกว่าร่วม 5 ปี ยังมีเวลาอีกไม่น้อยสำหรับการคว้าแช้มพ์ แกรนด์ สแลม เพิ่มอีก

โรเจ้อร์ เฟ้ดเดอเรอร์ อาจเป็นนักหวดที่ครองสถิติชัยชนะหลายรายการรวมกันก็จริง แต่จะว่าไปแล้ว พวกรายการเล็กๆได้มาก็เท่านั้น นักหวดแถวหน้าของโลกหลายคนอาศัยช่วงว่างๆจากรายการใหญ่เพื่อลงสนามฝึกซ้อม บางคนก็แยกย้ายไปหารายได้จากการรับเชิญปรากฎตัวที่เรียกว่า appearance fee จากรายการพวกนี้ที่จะต้องจ่ายเงินจ้างมาเล่นเพื่อเป็นสีสันในรายการของตน บางรายการนักหวดดังๆเสียค่าสมัครหลักหมื่น แต่ได้รับเงินค่าจ้างมาโชว์ฝีมือกลับมาหลักหลายสิบล้านทีเดียว ดังนั้น แกรนด์ สแลม ต่างหากที่จะเป็นตัวชี้วัดกันจริงๆว่า ใครคือนักเท็นนิสชายสุดยอดของโลกตลอดกาล ซึ่งในที่สุด ราฟาเอ็ล น่าจะทำสถิติแซง โรเจ้อร์ ได้ในเวลาอีกไม่นานนี้ครับ