เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2562 เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุม ชั้น 4 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดการประชุมชี้แจงและอัพเดตกติการการแข่งขันฟุตบอลที่จะมีการเปลี่ยนแปลงใหม่ใน Laws of the game ฉบับล่าสุด ให้แก่บุคลากรที่เกี่ยวข้องของสมาคมฯ ได้แก่ คณะกรรมการพิจารณาวินัยมารยาท, คณะอนุกรรมการพิจารณาวินัยมารยาท, คณะอนุกรรมการพิจารณาวินัยมารยาทกีฬาฟุตบอล, คณะกรรมการอุทธรณ์, คณะกรรมการผู้ควบคุมการแข่งขัน, คณะกรรมการการประเมินผลการปฎิบัติหน้าที่ของผู้ตัดสินฯ โดยมี พ.จ.อ. ปรีชา กางรัมย์ หัวหน้าฝ่ายพัฒนาผู้ตัดสิน (เทคนิค) และหัวหน้า VAR instructor ทำหน้ที่เป็นวิทยากรให้ความรู้เกี่ยวกับกติกาใหม่
ภายหลังการประชุม พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน ประธานคณะกรรมการพิจารณาวินัยมารยาท กล่าวว่า “ฟีฟ่าได้มีการทบทวนกติกาการแข่งขันประจำทุกปี เพราะกีฬาฟุตบอลถือว่าเป็นกีฬาสากล เล่นกันทั่วโลก ซึ่งจำเป็นต้องมีกติกากลาง ผู้ดูแลเรื่องกติกากลางก็คือฟีฟ่า ยิ่งในปัจจุบันมี VAR ที่เข้ามาช่วยในการตัดสิน ทำให้ต้องปรับเปลี่ยนกติกากันบ่อยขึ้น จุดบกพล่องต่างๆในรอบปีก็จะนำมาแก้ไขปรับปรุง อย่างเช่นครั้งนี้ในปี 2019 Laws of the game ก็มีการแก้ไขประมาณ 10 จุด”
“ยกตัวอย่างเช่น ปัญหาเรื่องการเปลี่ยนตัวผู้เล่น ถือเป็นการถ่วงเวลา สมมติเหลืออีก 2 นาที เกมกำลังเข้มข้น นำห่างกันไม่มาก 2-1 หรือ 1-0 ส่วนมากจะอาศัยเทคนิคในการเปลี่ยนตัวผู้เล่น เพราะการทำประตู 5 วินาที ก็สามารถทำได้ ทีมที่ทำประตูนำอยู่ กว่าจะเปลี่ยนตัวผู้เล่น เดินไปอำลาปรบมือกับแฟนบอลกว่าจะออกจากสนามได้ อาจจะยั่วอารมณ์ทีมที่ตามอยู่ เพราะฉะนั้นฟีฟ่าได้เปลี่ยนกติกาใหม่ ผู้เล่นอยู่ตรงไหน เปลี่ยนตัวออกให้ออกตรงนั้น ถ้าไม่ทำตามกรรมการสามารถให้ใบเหลืองได้”
“ในช่วงเดือนตุลาคมนี้ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จะมีการนำ VAR มาใช้ ผู้ตัดสินจะใช้ VAR มาเป็นตัวช่วย เชื่อว่าความผิดพลาดจะเกิดได้น้อยลง ซึ่งขณะนี้ก็มีการอบรมผู้ตัดสินในการใช้ VAR เพื่อให้ฟีฟ่ารับรองว่าเราพร้อมแล้วที่จะใช้ เหมือนเราซื้อรถมาแล้ว ขับเป็นแล้ว แต่ยังไม่มีใบขับขี่ ซึ่งเดือนตุลาคมนี้เราจะได้ใบขับขี่”
“กติกาใหม่จะช่วยสร้างความเป็นธรรม,เพื่อเกิดความปลอดภัยกับนักกีฬามากขึ้น,ทำให้เกิดความเป็นธรรมไม่เอารัดเอาเปรียบซึ่งกันและกัน,เกิดความเร้าใจในเกมการแข่งขันและเกมมีความต่อเนื่องสนุกมากขึ้น ทุกกติกาที่แก้ไขเป็นผลดีกับวงการฟุตบอล สมาคมฯจะต้องทำความเข้าใจกับสโมสรสมาชิกและนักกีฬา รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ทีม”
“ต่อไปนี้ผู้ตัดสินมีอำนาจลงโทษให้ใบเหลืองหรือใบแดงกับ เจ้าหน้าที่ทีมเช่นเดียวกับนักกีฬา รวมไปถึงประธานสโมสร ผู้จัดการทีม สตาฟฟ์โค้ช แม้กระทั่งนักกายภาพประจำทีม ถ้ามีความประพฤติที่ไม่เหมาะสม ทำผิดตามกติกาในสนาม สามารถให้ใบเหลือง ใบแดง โดนแบนและไล่ออกจากการทำหน้าที่ในสนาม”
สำหรับ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และบริษัท ไทยลีก จำกัด จะเริ่มใช้กติกาใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลงในการแข่งขันไทยลีก ช่วงเลกสอง ตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม เป็นต้นไป
โดยกฎและกติกาฟุตบอลที่เปลี่ยนไป ประกอบด้วย กติกาข้อที่ 3 : เรื่องผู้เล่น, กติกาข้อที่ 4 : อุปกรณ์ของผู้เล่น, กติกาข้อที่ 5 : ผู้ตัดสิน, กติกาข้อ 7: ระยะเวลาของการแข่งขัน, กติกาข้อ 8: การเริ่มการแข่งขัน และการเริ่มเล่นใหม่, กติกาข้อ 9 : ลูกบอลอยู่ในและนอกการแข่งขัน, กติกาข้อ 10 : การพิจารณาผลการแข่งขัน, กติกาข้อ 12: การเล่นที่ผิดกติกาและประพฤติผิด, กติกาข้อ 13: การเตะโทษ (การยิงฟรีคิก), กติกาข้อ 14: การเตะโทษ ณ จุดโทษ, กติกาข้อ 15: เรื่องการทุ่ม และ กติกาข้อ 16: เรื่องการเตะจากประตู