ฉัตรชัยเดชา บุตรดี ควง วุฒิชัย มาสุข ผ่านเข้ารอบก่อนรองฯ ศึกมวยสากลไทยแลนด์โอเพ่น 2019 ที่อาคารนิมิบุตร
ความเคลื่อนไหวกำปั้นเสื้อกล้ามทีมชาติไทย ชาย -หญิง ในการแข่งขัน มวยสากลนานาชาติแห่งประเทศไทย รายการ "ไทยแลนด์ โอเพ่น อินเตอร์เนชั่นแนล บ็อกซิ่ง ทัวร์นาเมนต์ 2019" ครั้งที่ 2 ประจำปี 2562 ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 10 มีระหว่างวันที่ 20-27ก.ค. ณ อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
ล่าสุด เมื่อวันที่ 23 ก.ค.เป็นการแข่งขันรอบสอง คู่เอก รุ่น56กก."เจ้าสด"ฉัตรชัยเดชา บุตรดี นักชกจอมเก๋าทีมชาติไทย พบ ไอเบ็ค ดอสซานอฟ นักชกดาวรุ่งจากคาซัคสถาน ช่วงยกแรกนักชกไทย ยังคลำเป้าไม่เจอ ออกหมัดได้ช้า เข้าสู่ยกสองฉัตร์ชัยเดชา เดินเกมรุกมากขึ้น ช่วงกลางยกนักชกไทยโดนนักชกคาซัคฯเอาหัวชนที่หางคิ้วซ้ายเป็นแผลแตก กรรมการให้แพทย์สนามขึ้นมาดู
ปรากฎว่าให้ชกต่อไปได้ ยกสุดท้าย นักชกไทยออกหมัดได้จะแจ้งเป็นฝ่ายทำคะแนนหนีห่าง แม้จะกังวลแผลแตกอยู่บ้าง แต่สุดท้ายต่อยครบ3ยก กรรมการชูมือให้"เจ้าสด"ชนะคะแนน5-0เสียงผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศต่อไป
หลังการชกจากอ.ตาพระยา เผยว่า ช่วงแรกออกหมัดได้น้อยและกร็ง แต่พอยก2เริ่มจับจังหวะได้ แต่ก็โดนหัวคู่ต่อสู้ชน ทำให้กังวลเหมือนกัน แต่สุดท้ายก็สามารถชกตามเกมของตัวเองได้ แฟนมวยชาวไทยไม่ต้องกังวลเรื่องแผลแตก จะพยายามลดจุดอ่อนของตัวเองให้เร็วที่สุดเพื่อคว้าโควต้าไปโอลิมปิคเกมส์สมัย3ของตัวเองให้ได้ โดยรอบ8คน ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี พบ เสิ่น จี้ห่าว(จีน)
ขณะที่รุ่น69กก. วุฒิชัย มาสุข กำปั้นดีกรีเหรียญทองแดงเอเชี่ยนเกมส์2018 ขึ้นชกในรอบสองพบกับ มาจอน เพียน่าร์ นักชกชาวฟิลิปปินส์ ผลปรากฎว่า ตลอดทั้ง3ยกวุฒิชัย เดินหน้าทำคะแนนได้อย่างจะแจ้งและเข้าเป้าถูกใจบรรดากองเชียร์อย่างมาก ทำให้เป็นฝ่ายชนะคะแนน อย่างเป็นเอกฉันท์ 5-0เสียง ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศอีกราย
หลังการชก วุฒิชัย เผยว่าพอใจในการขึ้นมาชกในรุ่น69กก.และเป็นครั้งแรกที่ชกรุ่นนี้ที่เมืองไทย สำหรับโควต้าไปโอลิมปิกเกมส์ ตนจะพยายามทำการบ้านให้หนักโดยเฉพาะเรื่องน้ำหนักหมัดและจะศึกษาคู่แข่งในรุ่นนี้ให้ดี เพื่อโอกาสในการคว้าตั๋วไปแข่งรอบสุดท้ายที่"โตเกียวเกมส์"2020
สำหรับรอบก่อนรองชนะเลิศ วุฒิชัย มาสุข พบ มูซี่ สวิเก้(บอสวาน่า)ในวันที่24 ก.ค.
