ฟุตบอลลีกเยาวชนแห่งชาติ ไทยแลนด์ ยูธ ลีก รุ่นอายุไม่เกิน13ปี รอบชิงแชมป์ประเทศ ที่จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่14 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่สนามกีฬากลาง จ.เชียงราย เป็นเกมรอบชิงชนะเลิศ
เป็นการพบกันระหว่าง "กิเลนเจ้าสัว" อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด พบ "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โดยในรอบรองชนะเลิศ อัสสัมชัญฯ ชนะ เจ้าหนูเมืองทอง 4-0 ส่วน บุรีรัมย์ ชนะ ทรู แบงค็อกฯ 1-0
ครึ่งแรก เป็น อัสสัมชัญฯ ที่ครองบอลได้ดีกว่าคุมจังหวะเกมของตัวเอง จนมาถึงนาที 20 มาได้ประตูออกนำ 1-0 จากลูกเตะมุมจากฝั่งขวา กฤตภัค แสงสวัสดิ์ เปิดโค้งเข้าเขตโทษบอลตก ชุลมุน หน้าปากประตู ไหลเข้าทางปืน สิรดนัย โพธิ์ศรี จิ้มจ่อๆเข้าประตูไป
ครึ่งหลัง เริ่มมาได้เพียง3 นาที อัสสัมชัญฯ เกือบได้อีกครั้ง ธิติวุฒิ ขวัญมีชัยชนะ กลับตัวยิงด้วยขวาบริเวณเส้นเขตโทษ บอลหลุดเสาไปนิดเดียว
จากนั้น เป็น บุรีรัมย์ฯ ที่ครองบอลเปิดเกมบุกได้มากขึ้น ใช้การเพิ่มสปีดบอลในการเข้าทำแต่ยังหาจังหวะสับไกแบบจะแจ้งยังไม่ได้
ขณะที่ อััสสัมชัญฯ เน้นเกมเหนียวแน่น รอดักจังหวะสวนกลับตอบโต้เป็นระยะ ท้ายเกม บุรีรัมย์ฯ พยายามบุกกดดันอย่างหนักแต่ทำอะไรไม่ได้
จบเกม อัสสัมชัญยูไนเต็ด ชนะ บุรีรัมย์ยูไนเต็ด 1-0 คว้าแชมป์ยูธลีก รุ่นอายุไม่เกิน13ปี เป็นสมัยที่2 และเป็นแชมป์ยูธลีก รุ่นที่2 หลังจากชุดU15 อัสสัมชัญยูไนเต็ด เพิ่งคว้าแชมป์ไปที่ จ.ภูเก็ต
ขณะที่บทสรุปของเงินรางวัล ในศึกยูธลีกU13 ฤดูกาล2018-2019
แชมป์ อัสสัมชัญยูไนเต็ด
รับเงินรางวัล 6แสนบาท ,
รองแชมป์เป็น บุรีรัมย์ยูไนเต็ด
รับเงินรางวัล3 แสนบาท ,
อันดับ3 ทรูแบงค็อกฯ รับ 2 แสนบาท
และ อันดับ 4 เอสซีจีเมืองทองฯ รับ 1 แสนบาท
ด้านรางวัลดาวซัลโว เป็น ณพัฐภ์ กุตนันท์ ของทรูแบงค็อก และ ปภาวิชญ์ ต่ออ่อน ของราชบุรีมิตรผล ที่5 ประตู
นักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์
เป็น ธิติวุฒิ ขวัญมีชัยชัย อัสสัมชัญยูไนเต็ด
โดยในพิธีมอบรางวัล พิธีปิดแข่งขัน ได้รับเกียรติจาก"ว่าที่ร้อยตรี ณรงค์ โรจนโสทร"
รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย
ร่วมมอบรางวัลให้กับ เยาวชนทั้ง4ทีม
ส่วนคู่ชิงอันดับที่ 3 ทรูแบงค็อก ยูไนเต็ด เฉือน เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 2-1 คว้าอันดับที่ 3 รับเงินรางวัล 2 แสนบาท เอสซีจีเมืองทองฯ คว้าที่4 รับเงิน 1 แสนบาท
