คอลัมน์ Buzzer Beat โดย MVP
ตลาดฟรีเอเจนต์ของ บาสเก็ตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ปี 2019 เริ่มซบเซา เสมือนสินค้าแบรนด์ ถูกลูกค้ากระเป๋าหนัก ตีตราจองกันเรียบร้อยแล้ว ทุกสายตาย่องจับจ้องที่เมืองใหญ่แห่งหนึ่งอย่าง ลอส แองเจลิส ซึ่งอุดมด้วยเหล่าซูเปอร์สตาร์ แย่งชิงความเป็นหนึ่ง หรืออาจลุ้นแชมป์ ฤดูกาล 2019-20
ฝั่ง แอลเอ เลเกอร์ส ดูจะเคลื่อนไหวก่อนใคร ตั้งแต่มีข่าวเตรียมปิดดีลเทรดแบบหมดหน้าตัก เพื่อคว้า แอนโธนี เดวิส ฟอร์เวิร์ดจาก นิว ออร์ลีนส์ เพลิแกนส์ กระทั่งประกาศอย่างเป็นทางการ ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมรับเสื้อหมายเลข 23 แทนการต้อนรับของ เลอบรอน เจมส์
นอกเหนือจาก “เจ้าคิ้ว” เลเกอร์สยังเสริมตัวหลักๆ อย่าง 2 ขุนพลจากคู่ชิงชนะเลิศ เดอมาร์คัส เคาซินส์ เซ็นเตอร์ จาก โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส และ แดนนี กรีน การ์ด จาก โตรอนโต แร็พเตอร์ส รวมถึงต่อสัญญา ราจอน รอนโด การ์ดจ่ายจอมเก๋า แบบ 1 ปี บวกอ็อปชัน 1 ปี
โฉมหน้า 5 ตัวจริงของ เลเกอร์ส ภายใต้การคุมทีมของ แฟรงค์ โวเกล เฮดโค้ชป้ายแดง อาจปรับบทบาท “คิงเจมส์” คอยถือบอล จับคู่ กรีน ตำแหน่งการ์ด , เดวิส กับ คุซมา เป็น 2 ฟอร์เวิร์ด และ เคาซินส์ ปักหลักตำแหน่งเซ็นเตอร์ หรือจัด รอนโด อยู่ในไลน์อัพ และ เลอบรอน เล่นฟอร์เวิร์ดเช่นเดิม อันนี้ต้องรอดูช่วงพรีซีซัน หรือเกมเปิดซีซันต่อไป
เกมรุกคงไม่ใช่ปัญหา เนื่องจากปกติ เลอบรอน ก็ครบเครื่องทั้งทำสกอร์ และแอสซิสต์อยู่แล้ว หรือเกมรับมี กรีน คอยอุดช่องโหว่ และ เดวิส กับ เคาซินส์ คุมใต้แป้น เว้นเสียแต่ตามหน้าเสื่อ แต่ละคนล้วนเคยมีปัญหาบาดเจ็บเล่นงานกันทั่วหน้า หากใครคนใดคนหนึ่ง ต้องพักยาวย่อมส่งผลกระทบต่อเป้าหมายที่น่าจะหวังไกลกว่าแค่ติดพื้นที่เพลย์ออฟแน่นอน
ตามประวัติศาสตร์ เลเกอร์ส ยุค “ซูเปอร์ทีม” เมื่อปี 2012 ที่มีซูเปอร์สตาร์อย่าง โคบี ไบรอันท์ , ดไวท์ ฮาวเวิร์ด , เพา กาซอล , เมตตา เวิลด์ พีซ และ สตีฟ แนช ก็กระเสือกกระสนแทบตาย กว่าจะเข้าเพลย์ออฟ สุดท้ายพวกผู้เล่นตัวหลักก็มีปัญหาบาดเจ็บเช่นกัน รวมถึงสถิติ เลอบรอน มักจะไม่ค่อยลงรอยกับโค้ชที่ร่วมงานกันปีแรก มีเพียง เอริก สโปเอลสตรา ของ ไมอามี ฮีต เท่านั้นที่ยังรักษาเก้าอี้จนถึงปัจจุบัน ส่วน เดวิด แบล็ตต์ ของ คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส และล่าสุด ลุค วอลตัน ต่างถูกปลดด้วยกันทั้งหมด
ข้ามมาที่คู่ปรับร่วมเมืองอย่าง คลิปเปอร์ส สรรพคุณของ เลียวนาร์ด คงไม่ต้องบรรยาย พิสูจน์ให้เห็นกันแล้วจากการแบก แร็พเตอร์ส คว้าแชมป์แรกของแฟรนไชส์ เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และด้วยฝีไม้ลายมือ ไม่จำเป็นต้องมาเป็นเบอร์ 2 รองจาก เลอบรอน ต่อไป หลังจากมีข่าวพัวพันกับ เลเกอร์ส อยู่พักหนึ่ง แถมยังเป็นคนชักชวน พอล จอร์จ ย้ายมาร่วมงานกันอีกด้วย
ด้านเกมรับ เลียวนาร์ด กับ จอร์จ คือ คู่หูที่มีการป้องกันเหนียวแน่นสุด นับตั้งแต่ยุค ไมเคิล จอร์แดน กับ สก็อตตี พิพเพน ตำนานแห่ง ชิคาโก บูลล์ส ยิ่งมีการ์ดจ่ายอย่าง แพทริค เบเวอร์ลีย์ คอยไล่ตามประกบแบบวิ่งสู้ฟัด ก็ย่อมแบ่งเบาภาระลงได้เยอะ และ อิวาน ซูบาช เซ็นเตอร์ดาวรุ่ง ก็โดดเด่นเกมใต้แป้น เฉลี่ย 7,7 รีบาวน์ด แถมช่วยสกอร์อีก 9.4 แต้ม
บอกตามตรงว่า อดใจรอเกมระหว่าง เลเกอร์ส กับ คลิปเปอร์ส ฤดูกาลหน้า แทบไม่ไหวจริงๆ แม้บรรยากาศอาจจะห่างชั้นเกมลูกหนังอย่าง บาร์เซโลนา กับ รีล มาดริด หรือ โอลด์ เฟิร์ม ดาร์บี ระหว่าง เซลติก กับ เรนเจอร์ส แต่ด้วยขุมกำลังที่ทั้งคู่แต่งองค์ทรงเครื่องกันมา นับตั้งแต่เปิดตลาดฟรีเอเจนต์ ก็น่าจะจัดว่าเป็นเกมระดับ 5 ดาวของ NBA ที่แฟนๆ ไม่ควรพลาด
มาดริด ทุ่มเงินอย่างบ้าคลั่ง โดยเฉพาะการคว้า เอเดน อาซาร์ จาก เชลซี บวกกับดาวรุ่งฝีเท้าดีเข้ามาเสริม ทำให้ “บาร์ซา” มิอาจนิ่งเฉยอยู่ได้ จึงต้องเจรจาดึง อองตวน กรีซมันน์ หรือนักเตะใหม่หน้าเก่าอย่าง เนย์มาร์ กลับสู่ คัมป์ นู ตามข่าว (ลือ) ก็ไม่ได้แตกต่างอะไรกับ เลเกอร์ส ที่คว้า เดวิส มาร่วมทีม ดังนั้น คลิปเปอร์ส ก็เกทับด้วย “เดอะ คลอว์” กับ “พีจี 13” นั่นเอง