จะดีไหมถ้าคุณซื้อตั๋วเข้าไปชมกีฬาในสนาม ตะโกนเชียร์ทีมรักจนเสียงแหบคอแห้งแล้วอยู่ๆ ก็มีสาวน้อยน่ารักเดินมาหาคุณพร้อมถังเบียร์ขนาดใหญ่ที่สะพายไว้ด้านหลังแล้วส่งเสียงถามคุณว่า “เบียร์เย็นๆสักแก้วไหมคะ” แน่นอนว่าส่วนใหญ่ย่อมไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว เพราะได้ทั้งดับกระหาย ชุ่มคอ แถมส่งเสริมการเชียร์กีฬาให้มีอรรถรสยิ่งกว่าเดิม ดื่มหมดแล้วก็ยกมือจ่ายเงินพร้อมขอเติมใหม่
นั่นคือหน้าที่ของ “สาวเดินเบียร์” หรือเรียกว่า "อูริโกะ" (Uriko) ที่กำลังได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนทั่วโลกที่อยากให้ประเทศของตนเองเอาเยี่ยงอย่าง หลังพวกเธอปรากฏตัวเดินขายเครื่องดื่มด้วยชุดยูนิฟอร์มสีสดใสพร้อมรอยยิ้มเปล่งประกายทุกครั้งในการส่งต่อเครื่องดื่มแก่แฟนกีฬา
อูริโกะ มาจากคำว่า “บิอิรุ โน อูริโกะ” (biiru no uriko) ภาษาญี่ปุ่นแปลเป็นไทยว่า “เฮ้!! รับเบียร์สักแก้วไหมคะ?” และพนักงานล้วนเป็นผู้หญิงเพราะดึงดูดความน่าสนใจได้มากกว่า คล้ายกับพริตตี้เชียร์เบียร์ในเมืองไทย หน้าที่ของเหล่า อูริโกะ คือแบกถังเบียร์น้ำหนัก 17 กก. ที่ใส่กระเป๋าสะพายไว้ด้านหลัง แล้วกระจายกำลังไปทั่วสนามสลับกับส่งเสียงถามผู้ชมกีฬาด้วยรอยยิ้มว่าสนใจรับเบียร์สักแก้วไหม ซึ่งราคาอยู่แก้วละ 750 เยน (ประมาณ 215 บาท)
อันที่จริง อูริโกะ ไม่ใช่อาชีพแปลกใหม่ พวกเธอคือส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมเชียร์กีฬาและคอนเสิร์ตที่ญี่ปุ่นมาเนิ่นนาน โดยเฉพาะกีฬาเบสบอลที่เหล่าอูริโกะจะได้ทำหน้าที่บริการผู้ชมอย่างเต็มที่เพราะมันคือกีฬายอดนิยมของประเทศ เพียงแต่ได้รับความสนใจจากสื่อต่างประเทศมากขึ้นในช่วงนี้เพราะพวกเธอกำลังจะได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในทัวร์นาเมนต์ระดับโลกอย่าง รักบี้ เวิลด์ คัพ 2019 ที่ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 20 กันยายน – 2 พฤศจิกายน
แต่ละวันของการแข่งขัน เหล่าอูริโกะที่ถูกคัดเลือกจากผู้จัดและเบียร์ผู้สนับสนุน จำนวน 160 คน จะมาเตรียมตัวในรอบเวลาของตัวเองเช่นรอบบ่าย รอบเย็น รอบค่ำ ก่อนเริ่มงานต้องมีการแต่งหน้า ทำผม เสริมความสวยงาม สวมยูนิฟอร์มสีสันสดใสที่ผู้จัดเตรียมไว้ให้ ก่อนเดินไปรับถังเบียร์ใส่กระเป๋าแล้วกระจายตัวไปยังจุดต่างๆของสนามเพื่อคอยให้บริการแฟนกีฬาแบบทั่วถึง ยิ่งเป็นช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ งานก็จะหนักขึ้นแต่ไม่มีสาวคนไหนปริปากบ่น
สาวๆส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นอายุราว 16-24 ปี เพราะมีความกระฉับกระเฉง รวดเร็ว ยิ่งสื่อสารภาษาอังกฤษได้จะถูกพิจารณาเป็นพิเศษเพราะช่วงหลังมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเยอะขึ้น สาวๆที่มาทำงานนี้แน่นอนว่าส่วนหนึ่งต้องการหาค่าขนม แต่อีกส่วนก็มาเพราะความประทับใจต่ออาชีพ เช่น เอมิ มาเอดะ สาวเดินเบียร์วัย 19 ปี ที่พูดไว้น่าสนใจ “ตอนเด็กๆครอบครัวฉันไปดูเบสบอลที่สนามบ่อยๆ ทุกครั้งที่ครอบครัวซื้อเบียร์ ยูริโกะ จะมาบริการพร้อมรอยยิ้มน่ารัก และนั่นก็ทำให้รู้ทันทีว่าโตขึ้นฉันอยากเป็นอูริโกะ”
ขึ้นชื่อว่าเป็นพนักงานขาย ดังนั้นรายได้ย่อมผูกกับยอดขายแบบยากหลีกเลี่ยง รายงานจาก ไทเป ไทมส์ เผยว่ายอดขายสูงสุดที่อูริโกะสาวเคยทำได้คือมากกว่า 200 แก้วต่อคน / ต่อวัน โดยประเมินว่าลูกค้า 1 คนจะดื่มเบียร์ระหว่างดูกีฬา 4 แก้วขั้นต่ำ และเมื่อลูกค้ายกมือขอเติมเบียร์ อูริโกะ ก็จะต้องพุ่งไปให้บริการพร้อมรอยยิ้มทันที ยิ่งเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งขายได้มากขึ้น สถิติเร็วสุดอยู่ที่ 13 วินาที จากจุดเติมเบียร์ก่อนวิ่งไปส่งเครื่องดื่มให้ลูกค้า กระนั้น ถึงจะดูเหมือนงานสบายแต่สาวๆยูริโกะยอมรับว่าเหนื่อยขั้นสุดจนบางคนน้ำหนักหายไป 4 กก.
“มันเป็นงานหนักนะ” ริริโกะ ซาโต้ ยูริโกะสาววัย 20 ปี ถือโอกาสเปิดใจ “ฉันปวดกล้ามเนื้อทุกครั้งที่ลงไปทำงาน บางวันก็แทบลุกยืนไม่ไหว โดยเฉพาะช่วงที่มาทำงานแรกๆ แต่ตอนนี้ก็เริ่มชินแล้ว” นี่ก็คงเป็นเหตผลที่ว่าทำไมผู้จัดและสปอนเซอร์ถึงอยากได้สาวๆวัยรุ่นเพราะจะได้สะพายถังเบียร์และบริการคล่องแคล่วว่องไวกว่า ขณะเดียวกัน ญี่ปุ่น คือประเทศที่มีอัตราการแข่งขันสูง สาวเดินเบียร์ทั้งหลายจึงพยายามวิ่งวุ่นบริการลูกค้าให้ได้มากที่สุดแต่ละครั้ง เพราะนั่นหมายถึงค่าคอมมิชชั่นที่บวกเพิ่มให้ด้วย
ไม่มีการระบุตัวเลขชัดเจนว่าสาวๆอูริโกะได้รับค่าจ้างเท่าไหร่เพราะเงินจะถูกคำนวนจากจำนวนแก้วที่ขายได้ซึ่งจะถูกนับหลังจบงาน มากน้อยตามแต่ความขยัน อย่างไรก็ตาม ถึงจะเหนื่อยแต่จากการสำรวจพบว่านี่คืองานในฝันของสาวๆญี่ปุ่นหลายคน และคอกีฬาหลายคนก็ยอมรับว่ามันคือเสน่ห์ที่ขาดไม่ได้สำหรับการชมกีฬา ดังเช่น ฮิโรชิ ทาเคดะ แฟนเบสบอลตัวยงที่อุดหนุนเบียร์จากมือยูริโกะทุกครั้งระบุไว้ “ผมนึกภาพไม่ออกเลยว่าจะดูเบสบอลให้สนุกยังไงถ้าไม่มีพวกเธอ”
สำหรับการแข่งขันรักบี้ชิงแชมป์โลกที่ใกล้งวดเข้ามาทุกที ได้รับการประเมินว่าจะมีแฟนรักบี้ชาวต่างชาติทั้งหมดกว่า 400,000 คนเดินทางมาเชียร์ถึงขอบสนาม ทำให้ ฮิโรกิ มาทูซากิ ประธานฝ่ายจัดจำหน่ายเบียร์ยี่ห้อ ไฮเนเก้น-คิริน วางแผนจะเพิ่มจำนวนอูริโกะเข้าไปบริการคนดูกีฬามากยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยเป็นอีกหนึ่งสีสันที่จะสร้างความประทับใจแก่แขกต่างชาติ เพราะเป็นวัฒนธรรมซึ่งต่างจากประเทศอื่นที่ต้องซื้อเบียร์กับอาหารจากร้านค้าด้านนอกเข้าไปเอง แต่ที่ญี่ปุ่นมีคนเสิร์ฟให้ถึงที่
ทั้งนี้ ญี่ปุ่น ถือเป็นประเทศที่ได้รับเสียงชื่นชมจากนานาชาติอย่างมากในการแข่งขันกีฬาระดับโลกช่วงหลัง โดยเฉพาะวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นตั้งแต่ฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย ทั้งเรื่องที่แฟนบอลช่วยกันเก็บขยะหลังดูบอลจบ, เหล่าขุนพล “ซามูไร บลูส์” ที่เก็บกวาดเช็ดถูห้องแต่งตัวให้เจ้าภาพแบบสะอาดเรี่ยมเร้เรไรเมื่อจบรายการ ลากมาถึง ฟุตบอลโลกหญิงที่ฝรั่งเศสก็ยังทำเช่นกัน รวมถึงล่าสุดกับสาวๆอูริโกะที่กลายเป็นไวรัลบนอินเตอร์เน็ตไปแล้ว แน่นอนว่าสิ่งนี้ย่อมส่งผลแง่บวกและอาจทำให้พวกเขาได้รับความไว้วางใจให้เป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาระดับโลกอีกในอนาคต