คอลัมน์ “สกอร์บอร์ด” โดย “แมวดำ”
สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ภายใต้การบริหารงานของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ตลอดเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ถ้าไม่อคติก็ต้องยอมรับว่ามีการวางรากฐานที่ดีไว้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการย้ายที่ทำการสมาคมจากไต้ถุนสนามศุภชลาศัย ไปอยู่ที่การกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งดูแล้วหรูหราเชิดหน้าชูตากว่าเก่ามาก นอกจากนี้ยังมีการวางแผนแม่บทพัฒนาฟุตบอลแห่งชาติระยะยาว 20 ปี รวมถึงการอบรมไลเซนส์ผู้ฝึกสอนภายในประเทศในทุกระดับ ดังเราได้เห็นแล้วว่าตอนนี้ประเทศไทย มีโค้ช "โปรไลเซนส์" ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุด สามารถคุมทีมได้ทั่วโลกภายในยุคของ "บิ๊กอ๊อด" นี่ถึง 29 คน (เฉพาะคนไทย) ผิดกับแต่ก่อนที่มีแค่คนเดียว คือ "โค้ชง้วน" สุรชัย นี่ยังไม่รวมถึงตอนนี้กำลังเตรียมสร้างศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติที่ มวกเหล็ก สระบุรี อีก
จริงๆ มีอีกหลายผลงานที่เกิดขึ้นในยุคของชายชื่อ "สมยศ" แต่...หากเข้าไปดูในโลกออนไลน์ ไม่ต้องที่เพจไหนหรอกเพจของสมาคมนั่นแหละ เสียงสรรเสริญเยินยอตัวนายกสมาคม มีคำว่า "อาย" เป็นส่วนใหญ่ จะว่าไปเรื่องนี้มันก็เกิดจากวลีเด็ดของอดีตนายตำรวจใหญ่ที่ปากเบาไปนิด พูดไวไปหน่อย เรื่องผลงานของทีมชาติสมัย "โค้ชซิโก้" จนกลายเป็นคำล้อเลียนติดตัวท่านไปแล้ว
สถานการณ์ของนายใหญ่สมาคมลูกหนังไทย ยิ่งดูยิ่งแย่ลง เมื่อ "โค้ชโต่ย" ที่เดิมทีก็เหมือนว่าจะตั้งขัดตาทัพเฉยๆ ดันมาแพ้ภัยนักเตะที่ตัวเองเลือกมาเองกับมือแต่ผลงานหลุดเป้าแชมป์ ไปเข้าเป้าบ๊วยศึก คิงส์ คัพ ตัดสินใจลาออกจากทีมชุดใหญ่ แค่นั้นไม่พอ อเล็กซานเดร์ กาม่า กุนซือทีมยู 23 ก็ดันถอดใจวิ่งไปรับงาน รับเงินกับสโมสรในไทยลีกอีก ทีนี้ก็วุ่นบรรลัยจักรทันที
เนื่องจากฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดใหญ่ มีโปรแกรมแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง ที่จะจับสลากกันในวันที่ 17 กรกฎาคมนี้ โดยจะฟาดแข้งจริงก็เริ่มวันที่ 5 กันยายนนี้แล้ว ยังไม่มีโค้ชเลย ส่วนชุดเล็ก ยู 23 พังไม่เป็นท่ามาจากรอบคัดเลือกชิงแชมป์เอเชีย 2020 ที่เวียดนาม ก็ต้องเตรียมสำหรับ ซีเกมส์ 2019 ปลายปีนี้ ต่อด้วยชิงแชมป์เอเชีย 2020 ที่ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพปีหน้า แล้วรายการนี้สำคัญคือ 1-3 ได้ตั๋วไปโอลิมปิก 2020 ด้วย
เห็นไหมครับว่ามันใกล้เข้ามาแล้ว แต่ทั้งสองทีมชาติของเรายังไม่มีโค้ชเลย แฟนบอลก็ร้อนจิต นักข่าวก็ร้อนใจ เจอนายกสมาคม ยื่นไมค์ถามว่าตกลงเรื่องโค้ชเอายังดีครับท่าน บอกใครก็ได้ ส่งโปรไฟล์เข้ามาทั้งคนไทย คนต่างชาติก็ได้ ก่อนจะลากออกไปเปรียบเหมือนกับซื้อหวย ซื้อถูกก็ดี ไม่ถูกก็แย่ ที่เราอยากได้คิดว่าดีก็ไม่ดี ที่เราไม่อยากได้ แต่ตอนหลังทำได้ดี บลา บลา บลา...
พอได้ฟังจากคำตอบแล้วเหมือนว่านายกสมาคม กำลังสับสนอยู่มากเลยทีเดียว ว่าตกลงจะเลือกโค้ชแบบไหน อย่างไร เพราะพูดเหมือนไม่ได้กำหนดไว้เลยว่านักเตะไทยควรจะเหมาะกับโค้ชแบบไหน หรือมีสเป็กอย่างไร ถ้าให้เดาผมว่าท่านน่าจะหมดไอเดียจริงๆ ดูขนาดว่า มิโลวาน ราเยวัช, กาม่า หรือแม้แต่ก่อนหน้านี้ก็ "โค้ชโย่ง" เลือกกันมาเองทั้งนั้น ดันพังไม่เป็นท่า ไม่ประสบความสำเร็จกันมาเลยในช่วงหลัง ทีนี้ก็โดนด่าไปเรื่อยๆ เพราะไม่มีแชมป์ ขนาดว่า "โค้ชเฮง" วิทยา เลาหกุล ประธานพัฒนาเทคนิค คุณครูลูกหนังของวงการฟุตบอลบ้านเราก็ยังโดนด่าไปด้วยจนหลังๆ เจอหน้านักข่าวก็ขออนุญาตไม่ตอบคำถามกันแล้ว
นี่ถ้าตั้งโค้ชทีมชาติทั้ง 2 ชุดมาแล้ว ผลงานยังย่ำแย่ เหมือนโดนหวยรับประทานอีก เตรียมโดนกระหน่ำเป็นพายุแห่งความ "อาย" ได้เลย...รับรองเละกว่าเดิมแน่นอน ทีนี้คงได้วิ่งหนีนักข่าวกันทั้งสมาคมแน่