หมัดเด็ด "เสธ.ยอด" / แมวดำ

คอลัมน์ “สกอร์บอร์ด” โดย “แมวดำ”

กลายเป็นข่าวช็อกวงการกีฬาไทยแห่งปี 2019 ไปเลยก็ว่าได้ เมื่อมีนักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติไทย ถูกตรวจพบว่าใช้สารกระตุ้น จากการแข่งขันยกน้ำหนักชิงแชมป์โลก 2018 ที่เติร์กเมนิสถาน เป็นจำนวนถึง 10 ราย ทีนี้พอโดนตรวจพบเข้าแบบนี้ แม้จะอยู่ระหว่างรอบททดสอบตัวอย่างบี เพื่อความชัดเจน จะได้มีบทลงโทษจากสหพันธ์ยกเหล็กนานาชาติ ที่คาดกันไว้ว่า ไทย อาจถูกแบนห้ามส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันถึง 4 ปี และปรับราว 6 ล้านบาท ส่วนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะโดนแบนอีก 2 ปี

โทษขนาดนี้จะว่าไปโอกาสส่งนักกีฬาลุยโอลิมปิก 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ก็ดูเหมือนจะปิดลงทันที ขณะที่สมาคมยกน้ำหนักแห่งประเทศไทย เลือกที่จะแสดงสปิริตด้วยการออกแถลงการณ์งดส่งนักกีฬาร่วมการแข่งขันในรายการระดับนานาชาติ, ไม่ส่งนักกีฬาไป "โตเกียวเกมส์" และ ไม่ส่งนักกีฬาเข้าร่วมรายการชิงแชมป์โลก 2019 ระหว่างวันที่ 18-27 กันยายนนี้ ที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี จนกว่าจะมีบทลงโทษอย่างเป็นทางการ

จากนั้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา "มาดามบุษ" บุษบา ยอดบางเตย นายกสมาคมยกเหล็กไทย เดินทางไปประชุมสภากรรมการสหพันธ์ยกน้ำหนักแห่งเอเชีย ที่เมืองหนิงโป ประเทศจีน ว่าชาติสมากชิกเข้าใจ พร้อมให้กำลังใจเป็นอย่างดี ขณะที่สปอนเซอร์ ผู้สนับสนุนรายใหญ่ของสมาคม อาทิ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) , แกรนด์สปอร์ต , บริษัท โอสถสภาฯ และ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ต่างก็ไม่ได้หนีหน้าทิ้งกันยามลำบาก ยังประกาศการสนับสนุนต่อแม้จะไม่ได้ไปโอลิมปิก

ระหว่างที่รอการลงโทษอย่างเป็นทางการ ภายในสมาคมก็มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนถึงเรื่องนี้ ก่อนจะได้ข้อสรุปของเหตุการณ์ดังกล่าวว่าไม่ได้เกิดจากการเจตนาใช้สารกระตุ้นของนักกีฬา หรือคณะกรรมการสมาคม แต่เป็นความผิดพลาดของผู้ฝึกสอนชาวจีนที่ใช้ยาทาบำบัดอาการอักเสบและบาดเจ็บ

ซึ่งจุดนี้เองสมาคมยกน้ำหนักไทย ก็หวังว่าจะเป็นหมัดเด็ดในการรอดโทษแบนหนัก เนื่องจาก 1. คือนักกีฬาไม่มีเจตนาแน่นอน 2. คณะกรรมการสมาคมก็ไม่ได้เกี่ยวข้อง คืออาจจะโดนแบนเฉพาะในรายของนักกีฬาที่ถูกตรวจพบสารกระตุ้น ซึ่งสมาคมจะนำผลสอบสวนนี้ ส่งให้สหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ และฝ่ายที่เกี่ยวข้อง พิจารณาก่อนลงดาบ

โดยระหว่างนี้สมาคมยกเหล็กไทยก็จะเดินเกมใหม่ ด้วยการพับแถลงการณ์เก่าที่จะไม่ส่งนักกีฬาร่วมการแข่งขันทุกรายการระดับนานาชาติทิ้งไป แล้วเริ่มหันมาส่งนักกีฬาดาวรุ่งทั้งหญิง และชาย ออกแข่งขัน เพื่อเก็บคะแนนเพื่อให้นักกีฬาเหล่านี้มีแต้มสะสมบสำหรับไปโอลิมปิก 2020 แทนรุ่นใหญ่ในทีมชาติแทน

จากเดิมที่หวั่นเกรงว่าจะโดนแบนหนักๆ ยาวๆ 4 ปี ก็ดูจะคลี่คลายลง เพราะขนาดว่า "เสธ.ยอด" พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย นายกกิตติมศักดิ์สมาคมยกเหล็กไทย ผู้สวมหมวกอีกใบในตำแหน่ง รองประธานสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ คนที่ 1 เองก็ยังเชื่อว่า อย่างน้อยๆ นักยกน้ำหนักไทย ชาย 1 คน และ หญิง 1 คนก็ยังมีลุ้นไปลุยโอลิมปิก 2020

ส่วนจะเป็นจริงตามคำ "เสธ.ยอด" หรือไม่ต้องรอบทลงโทษจากสหพันธ์ฯ ที่จะมีการประชุมระหว่างวันที่ 15-16 กันยายนนี้...