“เสธ.ยอด” พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ สั่งเดินหน้าเก็บตัวนักกีฬารุ่นใหม่ลุยโอลิมปิก 2020 มั่นใจมีความหวังคว้าเหรียญไม่แพ้รุ่นพี่
เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน ที่ผ่านมา ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย หัวหมาก “เสธ.ยอด” พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทยฯ แถลงการณ์เรื่องตรวจพบสารต้องห้ามในตัวอย่างปัสสาวะนักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติไทย
โดย พล.ต.อินทรัตน์ กล่าวว่า ตามที่สหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ ได้ทำการตรวจสารต้องห้ามในนักกีฬายกน้ำหนักโดยตรวจทั้งปัสสาวะ และตรวจเลือดจากนักกีฬายกน้ำหนักที่เข้าร่วมการแข่งขันยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งโลกประจำปี 2018 ที่ประเทศเติร์กเมนิสถาน จำนวน 20 ตัวอย่าง ด้วยวิธีตรวจแบบเข้มข้นไออาร์เอ็มเอส และตรวจนักกีฬาไทยถึง 13 คน จากทั้งหมดที่กำหนดทั่วโลก 20 คน ผลปรากฏว่า พบสารต้องห้ามในนักกีฬาไทยรวม 10 คน ทำให้นักกีฬาทั้งหมดถูกลงโทษห้ามแข่งขันและเกี่ยวข้องกับกีฬายกน้ำหนัก สมาคมฯ ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน พบว่าไม่พบสารต้องห้ามจากการตรวจโดยวิธีปกติ แต่ภายหลังจากการแข่งขันยกน้ำหนัก ชิงแชมป์โลก 2018 พบว่านักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติไทยถูกตรวจพบการใช้สารต้องห้าม 10 คน เมื่อพิจารณาตามหลักฐานและเหตุผลดังกล่าวแล้ว พิสูจน์ได้ว่าน่าจะเกิดจากยาทาชนิดเจลที่หลิว หนิง ผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยนำมาใช้รักษาอาการบาดเจ็บของนักกีฬา ถือว่าเป็นความผิดจริง แต่เกิดจากความประมาท ไม่ได้มีเจตนาที่จะใช้สารต้องห้ามแต่อย่างใด
เสธ.ยอด กล่าวอีกว่า การตัดสินว่าไทยจะถูกลงโทษห้ามแข่งขันยกน้ำหนักชิงแชมป์โลก 2019 ที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ระหว่างวันที่ 18-27 กันยายน หรือไม่ สหพันธ์ฯ จะมีการประชุมระหว่างวันที่ 15-16 กันยายน เพื่อตัดสินในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามสมาคมฯจะมีการเตรียมนักกีฬาที่ไม่ถูกลงโทษแบน เพื่อสะสมคะแนนไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในปีหน้า โคยแคมป์ฝึกซ้อมที่ จ.เชียงใหม่ จะเปิดอีกครั้งตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยตอนนี้ยังเหลือการแข่งขันอีก 4 สนาม ที่สามารถส่งแข่งขันเพื่อเก็บคะแนนได้ ขณะนี้ไทยไม่สามารถส่งแข่งขันได้ตามโควต้าเต็มพิกัด ชาย 5 คน หญิง 4 คนได้แล้ว เนื่องจากถูกสหพันธ์ลงโทษ แต่จะส่งได้เพียงชาย 2 คน หญิง 2 คน ในกรณีที่นักกีฬาสามารถทำแรงกิ้งไปแข่งขันได้ อย่างไรก็ตามถ้าสหพันธ์ตัดสินลงโทษครั้งสุดท้าย ไทยอาจจะถูกห้ามส่งแข่งหรือให้โควต้าได้เพียงชาย 1 คน หญิง 1 คนเท่านั้น
“ตอนนี้ยังมีเด็กอีกหลายคนที่มีโอกาสจะคว้าโควต้าได้ แต่อาจจะแค่ชาย 1 คน หญิง 1 คน ก็ต้องพยายามกันต่อไป 4 เดือนที่ผ่านมาได้ถอยไปตั้งหลักเพื่อพร้อมจะลุยต่อแล้ว สำหรับโอกาสจะได้เหรียญรางวัลที่โตเกียว ผมยังมองว่าโอกาสมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์” เสธ.ยอดกล่าว
ทั้งนี้ นักกีฬาที่สมาคมกีฬายกน้ำหนักฯเตรียมเอาไว้เพื่อชิงโควต้าโอลิมปิกเกมส์ ได้แก่ รุ่น 49 กก.หญิง จิราพรรณ นันทวงษ์, รุ่น 55 กก.หญิง สุรัตนา คำเบ้า, รุ่น 64 กก.หญิง รสสุคนธ์ สอนแก้ว, รุ่น 76 กก.หญิง สิริยากร ไขพันดุง, รุ่น 61 กก.ชาย ธาดา สมบุญอ้วน, รุ่น 73 กก.ชาย สุทธิพงษ์ จีรัมย์, รุ่น 81 กก.ชาย นนทพัฒน์ ธาณีวรรณ, รุ่น 89 กก.ชาย วีรภัทร บุญหลั่ง, รุ่น 96 กก.หญิง ศรัท สุ่มประดิษฐ