"ช้างศึก" โดนทีเด็ดของ เหงียน อันห์ ดุ๊ค โหม่งประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ พา เวียดนาม เฉือนเอาชนะ ไทย ไปหวุดหวิด 1-0 ในฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์ คัพ ครั้งที่ 47 สำเร็จ
หลังเกม "โค้ชโต่ย" ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย เฮดโค้ชกล่าวว่า "ผมรู้สึกผิดหวังที่เกมจบลงด้วยการพ่ายแพ้ เรามีโอกาสเยอะมาก แต่โดนลงโทษในนาทีสุดท้าย จนไม่สามารถแก้ตัวได้เลย หลังเกมผมได้บอกกับน้องๆ ว่า ภารกิจเรายังไม่จบ เพราะยังมีอีกเกมพบกับ อินเดีย ในรอบชิงอันดับ 3"
"การขาด ธีรศิลป์ แดงดา และ ชนาธิป สรงกระสินธ์ มีกระทบกับทีมเหมือนกัน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือการได้เห็นนักเตะดาวรุ่งได้ลงสนาม ซึ่งนักเตะเหล่านี้จะเป็นอนาคตของทีมชาติไทย"
"ส่วนการที่ไม่ใช้ มุ้ย ลงสนามเพราะว่าร่างกายของเขาไม่เต็มร้อย หากลงสนามไปอาจส่งผลกระทบต่อตัวเขา ทำให้ผมใช้ ศุภณัฏฐ์ เนื่องจากต้องการใช้ความปราดเปรียวของเขา”
“ส่วนการใช้ ตอง ลงสนามเพราะว่า ศิวรักษ์ มีอาการล้าจากการลงสนามในลีกที่ค่อนข้างถี่ หลังจากปรึกษากับทีมงานสตาฟฟ์โค้ชจึงตัดสินใจใช้ ตอง ลงสนาม"
"ส่วนคำถามที่ว่าความพ่ายแ้ในแมตช์นี้จะเป็นการยกให้เวียดนามป็นเบอร์ 1 ของอาเซียนหรือยัง สาวนตัวผมคิดว่าบอลนัดเดียวมันวัดอะไรไม่ได้ ต้องดูที่รูปเกมและอะไรหลายๆอย่าง ซึ่งเกมนี้เราก็ทำกันได้ดีในระดับหนึ่ง เพียงแต่การจบสกอร์ยังไม่ดีพอ"
"เกมกับ อินเดีย ผมขอเช็คผู้เล่นก่อน ว่านักเตะแต่ละคนมีอาการเจ็บหรือล้าหรือเปล่า แต่จะมีการเปลี่ยนตัวผู้เล่นแน่นอน เกมนี้ผมไม่อยากใช้คำว่าล้างแค้น ผมอยากเจอเขาอีกครั้ง เนื่องจากเราแพ้เขาในการแข่งขันเอเชียน คัพ หวังว่าจะได้พิสูจน์ว่าที่แพ้มา เราแพ้เพราะอะไร ซึ่งผมจะต้องทำให้ดีที่สุดครับ"
สำหรับการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 47 จะแข่งขันอีกครั้ง ในวันที่ 8 มิถุนายน 2562 รอบชิงอันดับ 3 แข่งขันเวลา 15.30 น. ไทย พบ อินเดีย ส่วนรอบชิงชนะเลิศ แข่งขันเวลา 19.45 น. เวียดนาม พบ กือราเซา ที่สนามช้าง อารีนา ถ่ายทอดสดทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32