ผู้จัดการสุดสัปดาห์ 360 - ศึกฟุตบอลลาลีก้า สเปน ปิดฉากไปแล้วอย่างเป็นทางการ แชมป์ตกเป็นของ บาร์เซโลน่า ยอดทีมจากถิ่นคาตาลุนญ่า เถลิงบังลังก์สมัยที่ 26 อย่างยิ่งใหญ่ แต่อีกสโมสรที่เป็นคู่รักคู่แค้นประจำเมืองอย่าง เอสปันญ่อล ถือว่าประสบความสำเร็จเช่นกัน เมื่อตีตั๋วศึกยูโรป้า ลีก ได้สำเร็จ
เอสปันญ่อล เอาชนะ รีล โซเซียดัด 2-0 ในนัดสุดท้ายของฤดูกาล ทำให้พวกเขาจบอันดับ 7 ของตาราง คว้าโควต้าไปเล่นฟุตบอลยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ได้สำเร็จ นับเป็นการผ่านเข้าไปโลดแล่นในฟุตบอลยุโรปอีกครั้งของทีมเล็กๆจากแคว้นคาตาลุนญ่า ในรอบ 12 ปี
แต่อีกสิ่งหนึ่งที่แฟนบอลเอสปันญ่อลโฟกัสและให้ความสนใจเป็นอย่างมาก คือการชูเสื้อของนักเตะหมายเลข 24 ที่ข้ามฟากข้ามทะเลมาจากทวีปเอเชีย อาจจะดูไม่แปลกที่แข้งคนนั้นมาจากญี่ปุ่น หรือเกาหลีใต้ แต่แข้งรายนี้มาจากประเทศจีน มีนามว่า "อู๋ เหล่ย"
อู๋ เหล่ย ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากตั้งแต่ขึ้นมาโลดแล่นฟุตบอลอาชีพในศึกไชนีส ซูเปอร์ลีก ของจีน เขาได้รับโอกาสจาก ซูว เกิ้นเป่า เฮดโค้ชของทีม "ซั่งกั่ง" ในเวลานั้นที่ดันขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ของทีม เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี ตั้งแต่อายุเพียง 14 ปี 287 วัน เท่านั้น ทำสถิติเป็นนักฟุตบอลที่อายุน้อยที่สุดที่ขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ของสโมสรในลีกจีน
แข้งหน้าตี๋รายนี้ใช้เวลาเพียง 2 ปี ก็สามารถทำประตูแรกให้กับ เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี ได้สำเร็จพาต้นสังกัดเอาชนะ ชิงเต่า ไฮลิเฟิง 2-0 เมื่อ 30 ส.ค.2008 ซึ่งตอนนั้นเขาอายุเพียง 16 ปี 289 วัน ทำสถิติเป็นอันดับ 2 ตลอดกาลของแข้งที่อายุน้อยที่สุดที่ทำประตูได้ในลีกจีน เป็นรอง เชา ยุนติง แต่ 47 วัน
หลังจากนั้นเป็นต้นมาชื่อของ "อู๋ เหล่ย" เป็นที่จดจำของแฟนบอลเซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี รวมไปถึงแฟนฟุตบอลชาวจีน ซึ่งตัวเขาไม่เคยย้ายสังกัดไปเล่นให้ทีมอื่นในจีนเลย กลายเป็นตำนานของ "ซั่งกั่ง" ตั้งแต่อายุยังน้อย จนถึงปี 2018 เขาซัดให้ต้นสังกัดไปถึง 102 ประตู ในวัย 27 ปี ที่สำคัญในฤดูกาลล่าสุดเขายังเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ "ซั่งกั่ง" คว้าแชมป์ไชนีส ซูเปอร์ลีก มาครองเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร และเจ้าตัวก็คว้าดาวซัลโวไปครองด้วยการพังตาข่ายไป 27 ประตู เหนือดาวยิงชาวต่างชาติทุกคนในลีก ซัดแฮตทริคไปถึง 2 นัด ในเกมที่ถล่มต้าเหลียน อี้ฟาง 8-0 และต้อน กว่างโจว อาร์แอนด์ เอฟ 5-2
ทั้งนี้ เคยมีหลายฝ่ายตั้งคำถามว่า ทำไมนักเตะจีนถึงไม่ค่อยออกไปค้าแข้งต่างประเทศ ต่างกับแข้งญี่ปุ่น หรือเกาหลีใต้ อย่างเห็นได้ชัด ทั้งที่ทรัพยากรนักฟุตบอลมีให้เลือกใช้มากมาย และนักเตะหลายคนก็พรสวรรค์สูง เรื่องนี้มีคำตอบจากหลายฝ่ายที่บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า นักเตะจีนทุกวันนี้ได้เงินมากพออยู่แล้วในการเล่นฟุตบอลอาชีพในประเทศจีน จึงไม่มีความจำเป็นจะต้องออกไปหาความท้าทายในทวีปยุโรป ไหนจะต้องไปเจอการปรับตัวที่อาจจะลำบากอีก แข้งจีนทุกวันนี้เลยไม่อยากออกไปหาประสบการณ์นอกประเทศเท่าไหร่
แต่ "อู๋ เหล่ย" ไม่ได้คิดอย่างนั้น ทุกวันนี้เขาได้รับการยอมรับว่าเป็น Number 1 เป็นนักเตะที่ดีที่สุดแห่งยุคของทีมชาติจีน แต่เขาก็ยังไม่หมดไฟในการออกไปหาประสบการณ์ต่างประเทศ และเมื่อทีม "นกแก้ว" เอสปันญ่อล ได้เจ้าของใหม่เป็นกลุ่มทุนจากบริษัท Rastar Group ผู้ผลิตของเล่นรายใหญ่ของจีน นำโดย เฉิน หยานเชิง ก็ยิ่งเป็นโอกาสอันดีที่นักเตะจากจีนจะได้ไปค้าแข้งในยุโรป
แน่นอนว่า เอสปันญ่อล ภายใต้เจ้าของใหม่ อย่าง "เฉิน เหยียนเซิง" จัดการคว้าตัว อู๋ เหล่ย ไปร่วมทีมนกแก้วอย่างไม่รีรอ ด้วยการซื้อขาด คาดว่าเซ็นสัญญายาว 3 ปี สวมหมายเลข 24 เป็นนักเตะจีนคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ไปค้าแข้งในลาลีก้า สเปน ซึ่งเรื่องการย้ายทีมระหว่างนักเตะจีนสู่ลาลีก้า สเปน ก็ต้องถือเป็นโชคดีของ อู๋ เหล่ย ด้วย เนื่องจากทางลาลีก้า เซ็นสัญญาบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ MOU กับ ไชนีส ซูเปอร์ลีก เป็นเวลา 4 ปี เต็มพอดี ก็ไม่แปลกที่จะมีนักเตะจีนย้ายไปเล่นในสเปนหลังจากนี้อีก
ส่วนเรื่องของค่าเหนื่อยและมูลค่าการซื้อขาย ไม่มีการเปิดเผยอย่างแน่ชัด แต่สืบทราบมาว่าตัวของ "อู๋ เหล่ย" ยอมที่จะลดค่าเหนื่อยของตัวเองลงเยอะพอสมควรจากที่ได้รับจากเซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี เพื่อย้ายไปร่วมทีม เอสปันญ่อล ในการทำตามความฝันของตัวเอง นั่นก็คือการได้เล่นฟุตบอลในยุโรป
หากยังจำกันได้ อู๋ เหล่ย ได้รับบาดเจ็บบริเวณหัวไหล่ ช่วงทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลเอเชียน คัพ 2019 และดูจะไม่สมบูรณ์เป็นอย่างมากในเกมที่ "มังกรแดง" พบกับ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย แม้จีนจะเป็นฝ่ายเก็บชัยไปได้ 2-1 ก็ตาม แต่สภาพของดาวเตะวัย 27 ปี ณ เวลานั้น ดูจะไม่สู้ดีเอาเสียเลย
อู๋ เหล่ย ออกมาเปิดเผยว่า ตัวเองต้องทนฝืนอาการบาดเจ็บยาวนานกว่า 4 เดือนด้วยการฉีดยาระงับอาการบาดเจ็บตลอด เพื่อลงเล่นให้กับทีม "นกแก้ว" เอสปันญ่อล ถึง 16 นัด แบ่งเป็นตัวจริง 12 นัด สำรอง 4 นัด ทำไป 3 ประตู จ่ายให้เพื่อน 2 แอสซิสต์ โดยเจ้าตัวกลายเป็นนักเตะจีนคนแรกที่ทำประตูได้ใสลาลีก้า สเปน ในเกมที่ทีมเอาชนะ รีล บายาโดลิด 3-1 ช่วงเดือนมีนาคม 2562 จนสุดท้ายเจ้าตัวตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดหลังจบฤดูกาล 2018/19 ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จมากๆในปีแรกที่ไปเล่นในสเปน เพราะเขาพาต้นสังกัดผ่านไปเล่นบอลยุโรปได้อีกครั้งในรอบ 12 ปี
โดยตัวของ อู๋ เหล่ย เอง ได้รับความนิยมจากแฟนบอลเอสปันญ่อลเป็นอย่างมาก เพราะแต่ละนัดที่ได้ลงสนาม เขาสร้างความแตกต่างให้กับทีมได้เยอะพอสมควร ไม่ต่างอะไรจากการที่ "เมสซี่เจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ เพลย์เมคเกอร์ร่างจิ๋วของไทย ที่ย้ายไปเป็นที่รักของแฟนบอลคอนซาโดเล่ ซัปโปโร
หลังจากนี้ จีน อาจจะเป็นอีกหนึ่งชาติที่ส่งออกนักเตะไปเล่นในยุโรปมากขึ้นกว่าแต่ก่อนก็ได้ โดยเฉพาะในสเปน เพราะหลังจากการเซ็นสัญญา MOU กับทางลาลีก้าแล้ว แข้งหลายคนในไชนีส ซูเปอร์ลีก ก็อาจจะขายดิบขายดีหลังจากนี้ ซึ่งล่าสุดมีข่าวสดๆร้อนๆมาว่า เอสปันญ่อล เตรียมคว้า เหยียน จุ้นหลิง ผู้รักษาประตูทีมชาติจีน ของทีมเซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี ไปร่วมทัพ ซึ่งถ้าเป็นจริงจะทำให้เขากลายเป็นแข้งจีนคนที่สองต่อจาก อู๋ เหล่ย ที่จะไปโลดแล่นในเวทีลาลีก้า สเปน ต่อจาก อู๋ เหล่ย
การโยกไปค้าแข้งในลาลีก้า สเปน ของ อู๋ เหล่ย ไม่ได้ส่งผลเพียงแค่เรื่องในสนามฟุตบอลเท่านั้น แต่เมื่อขึ้นชื่อว่า "จีน" แล้ว มันย่อมส่งผลในหลายๆเรื่องด้วยเช่นกัน ซึ่งหลังจากที่ "อู๋ เหล่ย" ย้ายไปอยู่กับ เอสปันญ่อล มีนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนซื้อทัวร์ และซื้อตั๋วเดินทางไปเมืองบาร์เซโลน่า ที่เป็นเมืองของเอสปันญ่อล และทำให้ทีมนกแก้ว กลายเป็นจุดหมายที่นักท่องเที่ยวชาวจีนต้องไปให้ได้ ซึ่งจากผลสำรวจคนจีนส่วนใหญ่ก่อนหน้านี้ไม่มีความคิดที่จะไปเที่ยวสเปนเลย แต่จากเอฟเฟ็กต์ของ "อู๋ เหล่ย" ก็ส่งผลโดยตรงทำให้ประเทศสเปน โดยเฉพาะเมืองบาร์เซโลน่า อ้าแขนต้อนรับนักท่องเที่ยวจากจีนได้อีกเยอะเลยทีเดียว
ไหนจะรวมไปถึงสินค้าของสโมสรเอสปันญ่อล โดยเฉพาะเสื้อแข่งขันที่สกรีนชื่อ "อู๋ เหล่ย" (WU LEI) ก็ขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่า แฟนบอลชาวจีนลงทุนซื้อเสื้อของแท้ไปสวมใส่กัน ซึ่งในฤดูกาลที่ผ่านมา เสื้อของ อู๋ เหล่ย ขายดีที่สุดในบรรดาเสื้อแข่งของทีมเอสปันญ่อล ซึ่งการเข้ามาของยอดแข้งจากแดนมังกรรายนี้ คงทำให้มูลค่าของสโมสรเอสปันญ่อล เพิ่มมากขึ้นหลายเท่าตัว จากเดิมเป็นทีมเล็กๆกลางตารางค่อนไปทางท้าย แต่หลังจากนี้พวกเขาอาจยิ่งใหญ่มากขึ้นกว่าเดิมก็ได้
เพราะฉะนั้นการย้ายทีมของ อู๋ เหล่ย มีแต่ได้กับได้ ตัวนักฟุตบอลเองก็ได้ทำตามความฝัน สโมสรต้นสังกัดเองก็ได้นักเตะฝีเท้าเยี่ยมไปร่วมทีม และยังขายสินค้าที่ระลึกได้เป็นกอบเป็นกำ รวมไปถึงประเทศสเปน ได้นักท่องเที่ยวจากจีนมากขึ้นหลายเท่า ที่สำคัญคือ "ลาลีก้า" ที่จะมีคนจีนติดตามกันมากขึ้น จากที่เมื่อก่อนอาจจะติดตามแค่พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เพราะมี ซุน จี ไห่ อดีตตำนานแบ็คซ้ายทีมชาติจีน เป็นตัวชูโรงในการไปเล่นให้กับแมนฯซิตี้ สมัยก่อน หรือนักเตะจอมอาภัพ อย่าง ตง ฟาน โจว ที่เคยย้ายไปสวมเสื้อ "ปีศาจแดง" แมนฯยูไนเต็ด อยู่ช่วงหนึ่ง รวมไปถึง เจิ้ง จื่อ มิดฟิลด์จอมเก๋าของจีนที่ไปค้าแข้งกับ ชาร์ลตัน แอธเลติก ช่วงสั้นๆ
และต่อจากนี้ไปตลาดของนักฟุตบอลจีน น่าจะขายดีขึ้นเรื่อยๆในยุโรป โดยเฉพาะกับลาลีก้า สเปน เชื่อได้ว่า "อู๋ เหล่ย" จะไม่ใช่แค่คนแรกและคนเดียว แต่น่าจะเป็นการ "เบิกร่อง" ของนักเตะจีนในเวทีลีกสูงสุดของสเปน อย่างแน่นอน...