"ต๋ง" พีรพงศ์ โชว์ฟอร์มเทพ กวาดอันดับ 1 ติดต่อกัน 6 เรซ กรุยทางสู่บัลลังก์แชมป์ซุเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี "แสตมป์" อภิวัฒน์ บู๊คู่แข่งจนโค้งสุดท้าย ยืนโพเดี้ยม เอเชีย ซุเปอร์ไบค์ อีกครั้งศึกชิงแชมป์เอเชียรายการ เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2019 สนามที่ 3 เรซที่ 2
การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์เอเชีย รายการ เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2019 สนามที่ 3 ซึ่งจัดการแข่งขันขึ้นระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคม – 2 มิถุนายน 2562 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 2 มิ.ย.ที่ผ่านมาเป็นการแข่งขันวันสุดท้าย ซึ่งในช่วงเช้าเป็นรอบของการวอร์มอัพ ส่วนช่วงบ่ายเกมการชิงชัยในเรซที่ 2 โดยในวันนี้ขุนพลนักบิดทีม ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ทุกคนต่างมีความมั่นใจมากขึ้น หลังจากที่สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการแข่งขันเรซแรกที่ผ่านมา
โดยคู่หูดาวรุ่งของทีมไทยยามาฮ่าอย่าง "มอส"สุทธิภัทร พัชรธร หมายเลข 86 และ "โฟลค"สวพล นิลพงษ์ หมายเลข 56 ที่สามารถเก็บแต้มเพิ่มได้จากเรซที่ 1 ด้วยการจบการแข่งขันในอันดับที่ 11 และ 14 ลงสนามเป็นรุ่นแรกในเกม ASIA PRODUCTION 250cc ด้วยรถแข่ง YZF-R25 พร้อมออกสตาร์ทจากกริดที่ 9 และ 14 ตามลำดับ ซึ่งจะทำการแข่งขันด้วยกันทั้งหมด 10 รอบสนาม
ทันทีที่การแข่งขันเริ่มขึ้น แม้จะเป็นรุ่นเล็กแต่ดีกรีความมันส์ก็ระอุตั้งแต่ต้นเกม ซึ่งคู่หูจากทีม ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ก็พยายามแย่งชิงจังหวะกับคู่แข่งอย่างเต็มความสามารถ ซึ่งเกมในเรซนี้มีความเข้มข้นและกดดันมากเพราะรถแข่งเกาะติดกันอยู่เป็นกลุ่มใหญ่ ทำให้การแย่งชิงตำแหน่งเกิดอยู่เกือบทุกรอบ และเมื่อครบรอบกันแข่งขันทั้ง 10 รอบสนาม ผลปรากฎว่า "มอส" สุทธิภัทร พัชรธร หมายเลข 86 ที่เกาะติดกลุ่มอย่างเหนียวแน่นก็สามารถเก็บแต้มจากสนามโฮมเรซได้อีกครั้ง ด้วยการจบการแข่งขันในอันดับที่ 13 ส่วนทางด้านทีมเมท โฟลค - สวพล นิลพงษ์ หมายเลข 56 ที่หลุดกลุ่มในช่วงท้าย จบการแข่งขันในอันดับที่ 18
เมื่อจบการแข่งขันในสนามนี้ตำแหน่งบนตารางคะแนนสะสมของ มอส - สุทธิภัทร พัชรธร หมายเลข 86 และ "โฟลค"สวพล นิลพงษ์ หมายเลข 56 รั้งอยู่ในอันดับที่ 17 และ 19 ด้วยการมีแต้ม 13 คะแนน และ 6 แต้ม ตามลำดับ
ต่อกันด้วยรุ่น SUPERSPORTS 600cc ที่ "ต๋ง" พีรพงศ์ บุญเลิศ หมายเลข 26 รับหน้าที่ลงสนามชิงชัยให้กับทีม ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ซึ่งจาก 5 เรซที่ผ่านมาหัวหอกไทยยามาฮ่าสามารถเก็บชัยชนะมาครองได้แบบเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์เต็ม โดยเกมการแข่งขันในเรซที่ 2 ในสนามโฮมเรซนี้ “เทพต๋ง” ยังคงได้ออกสตาร์ทหัวแถวในตำแหน่งหัวแถว โดยในรุ่นนี้จะทำการขับเคี่ยวชิงชัยด้วยกันทั้งหมด 12 รอบสนาม
เมื่อสัญญาณการแข่งขันเริ่มต้นขึ้น "ต๋ง"พีรพงศ์ บุญเลิศ หมายเลข 26 ก็ยังคงสามารถออกตัวได้ดีแต่ไม่วู่วามที่จะพุ่งเข้าสู่โค้งแรกเหมือนทุกครั้ง ทำให้อันดับหล่นไปอยู่ที่ 3 ก่อนที่จะโชว์ความเหนือชั้นเสียบแซงรวดเดียว 2 คัน ทะยานขึ้นมารั้งจ่าฝูงได้สำเร็จในโค้งที่ 3 ได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นเกมการชิงชัยก็เริ่มดุเดือดมากยิ่งขึ้นโดยมี Muhamad Adam Mohd Norrod หมายเลข 77 และ Kasma Daniel Kasmayudin หมายเลข 127 นักแข่งมาเลเซียพยายามไล่กดดันอยู่ด้านหลังแบบเกาะติด แต่เรซนี้ “เทพต๋ง” ดูสุขุมเยือกเย็นมากยิ่งขึ้นและขี่ได้อย่างแน่นอนในทุกรายละเอียด ทำให้เมื่อจำนวนรอบการแข่งขันผ่านไปเรื่อยๆ นักบิดไทยยามาฮ่าตัวเต็งแชมป์ในปีนี้ก็ยิ่งขยับห่างออกไปมากยิ่งขึ้น
ท้ายเกม "ต๋ง"พีรพงศ์ บุญเลิศ หมายเลข 26 ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างแข็งแกร่งและขี่โดยไร้ความกดดันจากคู่แข่ง เนื่องจากสามารถทำเวลาทิ้งห่างคู่แข่งด้านหลังมากกว่า 3 วินาที ก่อนที่จะกระชากคันเร่งรถแข่ง YZF-R6 ทะยานเข้าเส้นชัยรับธงตราหมากรุกคว้าอันดับที่ 1 ไปครองเป็นเรซที่ 6 ติดต่อกัน และนำธงชาติไทยโบกสะบัดบนโพเดี้ยมสูงสุดในสนามโฮมเรซได้สำเร็จอีกครั้ง พร้อมกับโกยแต้มแบบเต็มกอบเต็มกำ 150 คะแนนเต็ม ผงาดรั้งอันดับ 1 บนตารางคะแนนสะสม กรุยทางสู่บัลลังก์แชมป์รุ่น SUPERSPORTS 600cc ในปีนี้ค่อนข้างแบเบอร์
ปิดท้ายความมันส์ของศึกชิงแชมป์เอเชียในสนามนี้ด้วยรุ่น ASIA SUPERBIKE 1000cc ที่ทีม ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ส่งนักบิดดีกรีแชมป์เอเชียอย่าง "แสตมป์"อภิวัฒน์ วงศธนานนท์ หมายเลข 24 และ "โฟลท"รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ หมายเลข 56 รับหน้าที่ลงสนามสู้ศึกในรุ่นใหญ่ ด้วยรถแข่ง YZF-R1 โดยทั้งคู่นั้นได้ออกสตาร์ทแถวหน้าในกริดที่ 2 และกริดที่ 7 ตามลำดับ ซึ่งจะทำการแข่งขันด้วยกันทั้งสิ้น 13 รอบสนาม
ความเข้มข้นของเรซสุดท้ายในสนามนี้เริ่มขึ้นทันทีที่สัญญาณไฟแดงดับลง โดยที่ Azlan Shah Kamaruzaman หมายเลข 25, Broc Parkes หมายเลข 23 และ แสตมป์ - อภิวัฒน์ วงศธนานนท์ หมายเลข 24 ต่างพุ่งทะยานเข้าสู่โค้งแรกอย่างรวดเร็ว ส่วน "โฟลท" รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ หมายเลข 56 เองก็สามารถรั้งอันดับ 7 ไว้ได้เมื่อผ่านโค้งแรก จากนั้นกลุ่มหัวแถวก็ขับเคี่ยวแย่งชิงตำแหน่งกันอย่างสุดมันส์ ซึ่งนักบิดไทยยามาฮ่าต้องเจอกับเกมสุดหินและหนักกว่าที่เคย แต่ด้วยหัวใจนักสู้ที่มีอยู่อย่างเต็มเปี่ยมทำให้ "แสตมป์" อภิวัฒน์ วงศธนานนท์ หมายเลข 24 สามารถไล่บดเบียดกับคู่แข่งฝีมือระดับพระกาฬได้อย่างสูสีตลอดเกมการชิงชัย ชนิดที่กองเชียร์ต่างได้ลุ้นระทึกในทุกรอบการแข่งขัน
ความมันส์ระดับ 5 ดาวของรุ่นใหญ่มาพีคสุดๆ ในช่วง 2 รอบสุดท้าย เมื่อกลุ่มนำทั้ง 3 คัน ทั้ง Azlan Shah Kamaruzaman หมายเลข 25, Broc Parkes หมายเลข 23 และ "แสตมป์" อภิวัฒน์ วงศธนานนท์ หมายเลข 24 ชิงเหลี่ยมเสียบแซงแย่งตำแหน่งกันอยู่เกือบทุกโค้ง จนกระทั่งถึงรอบสุดท้ายโค้งสุดก็ยังชิงจังหวะกันแบบไม่ยอมอ่อนข้อให้กันแม้แต่น้อย ทำให้ทั้ง 3 คันพุ่งทะยานเข้าเส้นชัยรับธงตราหมากรุกแทบจะพร้อมๆ กัน ด้วยเวลาที่ต่างกันเพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น โดย "แสตมป์" อภิวัฒน์ วงศธนานนท์ หมายเลข 24 จบการแข่งขันในอันดับที่ 3 ด้วยเวลาที่ตามหลังคันหน้า
