ผู้จัดการรายวัน 360 - ความสำเร็จของหนุ่มใหญ่ “เเซม” เศวต เศรษฐาภรณ์ นักกีฬาจอมเก๋าวัย 56 ปี หลังจากคว้ารองแชมป์ในการแข่งขันยิงเป้าบินชิงแชมป์โลก “เวิลด์ คัพ 2019” ที่เมืองอัลไอน์ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) นอกจากจะทำให้เจ้าตัวกลายเป็นนักกีฬาไทยคนเเรกที่ประเดิมคว้าตั๋วสู่ "โตเกียวเกมส์" ยังสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกีฬาเป้าบินชายคนเเรกที่ได้ลุยโอลิมปิกด้วย
โดยนักแม่นปืนหนุ่มใหญ่ ได้ปลีกเวลาจากการดูแลธุรกิจ มาเริ่มเล่นกีฬายิงเป้าบินในวัย 41 ปี เพราะการเริ่มต้นช้ากว่านักกีฬาคนอื่น ทำให้เจ้าตัวยิ่งต้องทุ่มเทฝึกซ้อมมากขึ้นหลายเท่า ทว่าตลอดหลาย 10 ปีที่ผ่านมา แม้ เศวต จะเป็นกำลังหลักการแข่งขันระดับนานาชาติ ทั้งซีเกมส์, เอเชียนเกมส์, ชิงเเชมป์เอเชีย หรือชิงเเชมป์โลก แต่ก็ไม่เคยคว้าเหรียญรางวัลได้เลย ทว่าไม่ได้ทำให้เจ้าตัวถอดใจยอมเเพ้ ยังคงใช้จุดเด่นทั้งความนิ่งเเละประสบการณ์ที่ผ่านอะไรมามากมายในชีวิต ออกมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับตัวเองในสถานการณ์จริง
ซึ่ง เศวต ยังคงปักหลักฝึกซ้อมที่สนามยิงเป้าบิน ภายในการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) หัวหมาก เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเข้าร่วมการแข่งขันรายการระดับนานาชาติให้ปีนี้ และเตรียมความพร้อมไปสู่การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในช่วงปีหน้า แต่อีกหนึ่งบทบาทของเจ้าตัวคือการเป็นนักธุรกิจ ทำให้มีเวลาในการฝึกซ้อมช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ แต่ที่ผ่านมาก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าได้แบ่งเวลาอย่างลงตัว จนได้มาซึ่งรางวัลเเห่งความอดทน
เจ้าของตั๋วโอลิมปิก 2020 คนแรกของทัพนักกีฬาไทย กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาได้ใช้เงินส่วนตัวในการเดินทางไปแข่งขันแมตช์นานาชาติ และจ้างโค้ชต่างชาติชาวอิตาลี "มาร์โก คอนติ" รวมค่าใช้จ่ายประมาณ 4-5 แสนบาทต่อเดือน ซึ่งทางสมาคมกีฬายิงเป้าบินฯ ก็ช่วยสนับสนุนบางส่วน และก็เข้าใจเหตุผลนี้ดีเพราะสมาคม ต้องนำไปสนับสนุนนักกีฬาคนอื่นที่มีผลงานดีกว่า
แม้จะทุ่มเทให้กับการฝึกซ้อม รวมถึงกำลังทรัพย์ แต่ ฐิติธัญ เศรษฐาภรณ์ คู่ชีวิตของ เศวต ก็เข้าใจเป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นกีฬายิงเป้าบินทีมชาติไทย ในประเภทเเทรปหญิง โดยทั้งคู่มักเดินทางเเข่งขันต่างเเดนร่วมกันอยู่เสมอ
นอกจากนี้ เศวต ยังยอมรับว่า คงต้องทำงานหนักให้มากขึ้นกว่านี้เพื่อพัฒนาตัวเองให้เก่งยิ่งขึ้นไปอีก เพราะต้องไม่ลืมว่าการเข้าไปเเข่งขันในโอลิมปิก ย่อมเจอกับมาตรฐานเกมที่สูงขึ้น เพราะนักกีฬาเเต่ละชาติล้วนเเต่เป็นระดับหัวกะทิทั้งสิ้น
“เป้าหมายในโอลิมปิกเกมส์ 2020 ของผมไม่ใช่การคว้าเหรียญรางวัล แต่ต้องการไปแสดงให้เห็นว่านักยิงเป้าบินไทยก็สามารถทำผลงานได้ดีในระดับโลกไม่แพ้นักยิงเป้าบินยุโรป ซึ่งตัวผมก็รู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวโอลิมปิก”
และไม่ว่าผลงานของนักยิงเป้าบินรายนี้จะเป็นเช่นไร แต่โอกาสที่หนุ่มใหญ่ชาวไทยจะกลายเป็นเจ้าของสถิตินักกีฬาชายที่มีอายุมากที่สุดใน "โตเกียวเกมส์ 2020" ก็มีความเป็นไปได้สูงในเวลานี้
ขณะที่นักยิงเป้าบินมืออันดับ 7 โลก ยังเหลือโปรแกรมการแข่งขันในปีนี้ทั้งรายการเวิลด์คัพ, เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ, เอเชี่ยน แชมเปี้ยนชิพ และซีเกมส์ 2019 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งได้มีการวางแผนร่วมกันกับโค้ชว่าจะไปแข่งขันแบบรีแล็กซ์ ประคองตัวเอง และหาวิธีการเรียกฟอร์มเก่งออกมาในการแข่งขัน แต่ไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะต้องทำผลงานให้ดี เพราะจะเป็นการกดดัน จากนั้นตั้งแต่ช่วงต้นปีหน้าก็ได้วางแผนในการฝึกซ้อมร่างกาย และจิตใจ รวมทั้งเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ ให้มีความพร้อมทุกด้านก่อนที่จะเข้าร่วมชิงชัยในโอลิมปิกเกมส์ 2020 ต่อไปแ
