xs
xsm
sm
md
lg

"ฐิติพันธ์" เปิดใจความแตกต่าง "เจลีก-ไทยลีก" ยอมรับไม่รู้อนาคตได้อยู่ต่อไหม?

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภายหลังจาก โออิตะ ทรินิตะ สโมสรน้องใหม่ เจลีก 2019 ตัดสินใจยืมตัว ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ มิดฟิลด์ดีกรีทีมชาติไทย จากสโมสร บียู ปทุม ยูไนเต็ด แห่งไทยลีก 2 ไปค้าแข้งด้วยสัญญา 1 ฤดูกาล

ซึ่งปรากฎว่า ฐิติพันธ์ วัย 25 ปี มีส่วนลงเล่นในเจลีกไปแล้ว 6 นัด และศึกฟุตบอลถ้วย เจลีก คัพ 1 นัด อีกทั้งยังทำได้ 1 แอสซิสต์ในถ้วยดังกล่าว

นอกจากนี้ โออิตะ ทรินิตะ ยังคงร้อนแรงด้วยการแข่งขัน 8 นัด ชนะ 5 เสมอ 1 และแพ้ 2 นัด มี 16 คะแนนรั้งอันดับ 4 ของตารางคะแนนเจลีก ตามหลัง เอฟซี โตเกียว ที่มี 20 แต้มอยู่ 5 คะแนนเท่านั้น

โดยเว็บไซต์ของสโมสร บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ได้สัมภาษณ์ ฐิติพันธ์ ซึ่งเจ้าตัวกล่าวถึงความแตกต่างระหว่างฟุตบอลเจลีก กับฟุตบอลไทยลีก เอาไว้ว่า "ค่อนข้างเยอะ อย่างเจลีกต้องวิ่งตลอด ต้องเพรสซิ่งทุกจังหวะ ขนาดผมซ้อมหนักมาก ๆ ตอนปรีซีซั่นจนฟิตเปรี๊ยะ ก็ยังมีแผ่ว ที่นี่เขาไม่เปิดโอกาสให้คุณคิดเยอะ จะเล่นอะไรก็ต้องคิดเร็วทำเร็ว ซึ่งทำให้เราตัดสินใจเร็วขึ้น รู้เรื่องแท็คติกเพิ่มมากขึ้น และที่สำคัญฟิตมากขึ้น มันทำให้ผมพัฒนาขึ้นเยอะ

ขณะเดียวกันมิดฟิลด์ดีกรีทีมชาติไทย ยังกล่าวถึงการใช้ชีวิตนอกสนามที่ประเทศญี่ปุ่นว่า "ที่นี่เป็นเมืองเล็ก ๆ ไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรเท่าไหร่ วันๆ ผมตื่นไปซ้อม กลับมาพักผ่อนที่บ้าน ตื่นมากินข้าว แล้วก็ออกไปเดินเล่นบ้าง แล้วก็กลับมานอน แทบไม่ได้ไปไหนเลย ช่วงวันหยุดจะไปเมืองอื่นที่มีที่ท่องเที่ยวก็ไกลเกินไป เลยซ้อม กิน นอน แค่นี้ แต่ก็ดีที่ทำให้สภาพร่างกายฟิตเปรี๊ยะ"

อย่างไรก็ตามดาวเตะจาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ยังกล่าวถึงอนาคตของตนด้วยว่า "เป้าหมายผมคือ ต้องการเรียนรู้ทุกอย่างในการเล่นฟุตบอลภายใน 1 ปีให้มากที่สุด เก็บเกี่ยวไว้เป็นประสบการณ์ เพราะไม่รู้ว่าปีหน้าจะได้เล่นต่อหรือไม่ และขอบคุณแฟนบอลกับทุกกำลังใจที่มอบให้ ผมอ่านตลอด ผมขอบคุณ คุณปวิณ ภิรมย์ภักดี ประธานสโมสรบีจี ปทุมฯ ที่แม้ทีมต้องการเลื่อนชั้น แต่ก็ปล่อยให้ผมมาตามความฝันของตัวเอง ซึ่งแน่นอนผมพร้อมจะพัฒนาฝีเท้าให้เต็มที่เพื่อกลับไปช่วย บีจี ปทุมฯ สร้างผลงาน รวมถึงทีมชาติไทยด้วย ผมเชื่อว่าเมื่อผมกลับไป ผมจะดีขึ้นอย่างแน่นอน"

ขอบคุณภาพจากแฟนเพจ OitaTrinita / ThaiOfficial


กำลังโหลดความคิดเห็น