xs
xsm
sm
md
lg

5 ปียังตามหลอน “หงส์” หวั่นซ้ำรอย “เจอร์ราร์ด” ลื่น ก่อนเปิดรังรับมือ “เชลซี”

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เจอร์ราร์ด ลื่นทำ ลิเวอร์พูล วืดแชมป์
เอเยนซี - "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ต้องเผชิญกับอีกหนึ่งบททดสอบสำคัญที่ต้องผ่านให้ได้เพื่อก้าวไปสู่ตำแหน่งแชมป์ พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ฤดูกาลนี้ โดยจะเปิดรัง แอนฟิลด์ รับมือ เชลซี วันอาทิตย์ที่ 14 เมษายนนี้ ซึ่งเป็นทีมที่เคยฝากประวัติศาสตร์ขมขื่นเอาไว้เมื่อ 5 ปีก่อน

ย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปีก่อนหรือฤดูกาล 2013-14 ลิเวอร์พูล เปิดรัง แอนฟิลด์ รับมือ เชลซี ภายใต้สถานการณ์ที่เหลืออีก 3 เกม โดยนำ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3 แต้ม กำลังเข้าใกล้ตำแหน่งแชมป์ลีกสูงสุดครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1990

ตอนนั้น ลิเวอร์พูล เปิดบ้านพบกับ เชลซี ในช่วงเวลาที่ไล่เลี่ยกับตอนนี้ โดยหายนะเกิดขึ้นนาทีที่ 45 เมื่อ มามาดู ซาโก้ จ่ายให้ สตีเว่น เจอร์ราร์ด จับบอลทะลักมิหนำซ้ำจะตามไปแก้ตัวก็ลื่น ส่งให้ เดมบา บา ควบเข้าไปยิงให้ เชลซี ขึ้นนำ 1-0 ก่อนที่จบเกมจะบุกมาชนะ 2-0

สัปดาห์จากนั้น ลิเวอร์พูล เหมือนจะไม่เสียขวัญในการบุกไปเยือน คริสตัล พาเลซ เพราะนำห่าง 3-0 เมื่อจบครึ่งแรก แต่ว่าครึ่งหลังเจ้าบ้านใช้เวลา 10 นาทียิงตีเสมอจบเกมไปด้วยสกอร์ 3-3 ทำให้ฤดูกาลนั้น แมนฯซิตี้ แซงเข้าป้ายด้วยการมี 86 แต้ม เหนือทางด้าน "หงส์แดง" 2 แต้ม

เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ ลิเวอร์พูล ต้องรอคอยแชมป์ลีกมาจนถึงปีนี้ที่ห่างหายมาเป็นเวลา 29 ปีเข้าให้แล้ว ส่วนการลื่นของ เจอร์ราร์ด นั้นถูกบันทึกเอาไว้ในหน้าประวัติศาสตร์เรียบร้อย เพราะตามมาสู่เพลงที่ถูกแต่งล้อเลียน รวมถึงของที่ระลึกสกรีนลายให้แฟนคู่แข่งซื้อไปใส่เย้ยหยัน

โดยนักเตะที่อยู่ในทีม ลิเวอร์พูล ชุดเมื่อ 5 ปีก่อนที่หลงเหลือมาถึงตอนนี้ก็มีไม่มาก อาทิ ซิมง มิโญเลต์ และ ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ เท่านั้น

ส่วนสถานการณ์ตอนนี้บีบหัวใจยิ่งกว่าเมื่อ 5 ปีก่อน แต่จำนวนเกมที่เหลือให้ลงเล่นนั้นมากกว่า โดยก่อนรับมือ เชลซี ทางด้าน ลิเวอร์พูล นำเป็นจ่าฝูงด้วยการมี 82 แต้มจาก 33 นัด ขณะที่ แมนฯซิตี้ มี 80 แต้มจาก 32 นัด ซึ่ง "เรือใบ" จะเตะวันเดียวกันแต่เล่นก่อนไปเยือน พาเลซ

เรียกได้ว่าการเจอกับ เชลซี เป็นเกมหนักนัดสุดท้ายของ ลิเวอร์พูล ในปีนี้แล้วก็ว่า เพราะที่เหลือคือพบ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ (เยือน) ฮัดเดอร์ฟิลด์ ทาวน์ (เหย้า) นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด (เยือน) และ วูฟล์แฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส (เหย้า) ถ้า "หงส์แดง" ได้ 3 แต้มงานที่เหลือก็คือแช่ง แมนฯซิตี้ ให้สะดุด

ส่วน แมนฯซิตี้ หลังจากไปเยือน พาเลซ ยังเหลือเกมหนักอีกคือเปิดบ้านพบ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ตามด้วยไปเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ส่วนที่เหลืออีก 3 นัดไม่น่าเหลือบ่ากว่าแรงคือพบ เบิร์นลี่ย์ (เยือน) เลสเตอร์ ซิตี้ (เหย้า) และ ไบรจ์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน (เยือน)

ขณะที่ เชลซี ภายใต้การคุมทัพของ เมาริซิโอ ซาร์รี่ นั้นเป๋มาช่วงหนึ่งชนิดที่ว่ากุนซือชาวอิตาเลี่ยนถูกกดดันอย่างหนักให้โดนไล่ออก แต่ก็เอาตัวรอดมาได้จนตอนนี้มีลุ้นท็อปโฟร์สถานการณ์คือรั้งที่ 3 มี 66 แต้มจาก 33 นัด ดังนั้นเรียกว่าเกมเยือน แอนฟิลด์ ก็ไม่ยอมย่อมอยากกลับบ้านแบบมีแต้มติดมืออยู่แล้ว

งานนี้คนที่ ลิเวอร์พูล ต้องระวังที่สุดหนีไม่พ้น เอเดน อาซาร์ เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติเบลเยี่ยม ที่นัดล่าสุดโซโล่เดี่ยวเข้าไปยิงในเกมทีเหมา 2 ประตูเปิดบ้านชนะ เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด จึงเหมือนการเรียกราคาให้กลับมาอีกครั้งกับการที่เป็นข่าวพัวพันกับ รีล มาดริด ในช่วงซัมเมอร์นี้

มาดูทางฝั่ง แมนฯซิตี้ กันบ้าง ล่าสุดคือบุกพ่าย สเปอร์ส 0-1 ศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดแรก ถือเป็นความปราชัยครั้งที่ 2 ใน 24 เกมหลังสุด ซึ่งลูกทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เหมือนส่งสัญญาณอาการล้าให้เห็นกับการลุ้น 4 แชมป์ที่ได้ ลีก คัพ ไปแล้ว ส่วน เอฟเอ คัพ ได้เข้าชิง
เหตุการณ์ประวัติศาสตร์เมื่อ 5 ปีก่อน
คล็อปป์ ต้องเร้าลูกทีมอย่าพลาดอีก
ซาลาห์ แนวรุกคนสำคัญของ “หงส์แดง”
อาซาร์ คนที่ ลิเวอร์พูล ต้องจับตาย
แมนฯซิตี้ เริ่มมีล้าให้เห็นบ้าง
กำลังโหลดความคิดเห็น