คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน
นับเป็นสโมสรฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดใน เจอรมานี โดยคว้าแช้มพ์ลีกสูงสุดของประเทศที่เรียกว่า บุนเดสลีกา (Bundesliga) มาได้ 28 สมัย พร้อมกับแช้มพ์ฟุตบอลถ้วย ดีเอ๊ฟบี โพคาล (DFB-Pokal) อีก 18 หน ซึ่งจำนวนแช้มพ์ทั้ง 2 รายการถือเป็นการสร้างสถิติที่ยังไม่มีสโมสรใดสามารถทำได้ ในปัจจุบัน บาแยร์น มึนเชิ่น (Bayern München) ได้รับสิทธิ์ปักดาวทองบนหน้าอกเสื้อ 4 ดวง
ถ้าจะพูดถึงระดับความแข็งแกร่งของลีกสูงสุดใน เจอรมานี นั้น บุนเดสลีกา ที่ใช้ระบบการแข่งขันใหม่ตั้งแต่ฤดูกาล 1963-64 ในปัจจุบันถูกจัดอยู่ใน ท้อพฟ้ายว์ 5 สุดยอดลีกของ ยุโรป เอาให้ชัดๆเลยก็ประมาณอันดับ 4 ของทวีป โดยวัดจากอันดับค่าสัมประสิทธิ์ที่เขานำผลงานการแข่งขันในระดับสโมสรทวีปยุโรปในช่วง 5 ปีหลังสุดมาคำนวณ
แม้ว่า บุนเดสลีกา จะถูกก่อตั้งโดย สมาคมฟุตบอลแห่งเจอรมานี (Deutscher Fußball-Bund) แต่เขาให้ ลีกฟุตบอลแห่งเจอรมานี (Deutsche Fußball Liga) เป็นผู้บริหารจัดการ ซึ่งสโมสรฟุตบอลในลีกนี้ไม่อาจมีนักธุรกิจต่างชาติเข้าไปถือหุ้นใหญ่เลยแม้แต่สโมสรเดียว เนื่องจากเมื่อ 2 ทศวรรษที่ผ่านมา ทาง เจอรมานี ได้ออกกฎห้ามมิให้ใครก็ตามที่มิใช่ผู้ก่อตั้งสโมสรถือหุ้นเกิน 50 เพอร์เซ็นท์ (50+1 rule)
เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา คาร์ล ฮายน์ซ รุมเมนิเก้อ (Karl-Heinz Rummenigge) ประธานคณะกรรมการบริหาร วัย 63 ปี อดีตกองหน้ายุคปี 70-80 เจ้าของรางวัล บัลลง ดอร ปี 1980 และ 1981 ผู้นำ บาแยร์น เป็นแช้มพ์สโมสรยุโรปถ้วยใหญ่ ฤดูกาล 1974-75 และ 1975-76 ออกมาเผยว่า เขากำลังจะลงจากตำแหน่งที่อยู่มาตั้งแต่ปี 2002 ในอีก 2 ปีข้างหน้า คือในปี 2021 โดยได้เล็งผู้ที่จะเข้ามาสืบทอดอำนาจไว้แล้ว นั่นคือ โอลิเว่อร์ คาน (Oliver Kahn) อดีตผู้รักษาประตูทีมชาติเจอรมานี วัย 49 ปี ที่เล่นให้สโมสรในช่วงปี 1994-2008 และนำ บาแยร์น เป็นแช้มพ์ยุโรปฤดูกาล 2000-01
รุมเมนิเก้อ คงมั่นใจว่า บาแยร์น จะได้แช้มพ์ บุนเดสลีก้า สมัยที่ 29 และจะเป็นการครองแช้มพ์ 7 ปีซ้อนอย่างแน่นอน เขาเปิดเผยเรื่องการลงจากตำแหน่งอย่างสบายใจในวันรุ่งขึ้นหลังจาก บาแยร์น เปิดบ้านถล่ม โบรุสเซีย ด๊อร์ทมุนด์ (Borussia Dortmund) รองจ่าฝูงที่กำลังเบียดบี้ไล่ล่าแช้มพ์ด้วยกันในช่วงทางตรง 100 เมตรสุดท้ายไปอย่างเละเทะ 5-0 อันนี้ นับเป็นแม็ทช์ 6 แต้ม 2 เด้งเลย เพราะนอกจาก บาแยร์น จะเก็บได้ 3 แต้มเต็ม รั้งจ่าฝูง มีคะแนนห่าง 1 แต้มแล้ว ยังเป็นการสกัดกั้นการเก็บแต้มของ ด๊อร์ทมุนด์ อีกเด้งหนึ่งด้วย เมื่องานยากผ่านไปแล้ว ในอีก 6 เกมที่เหลือเพียงแค่ประคองให้เก็บคะแนนไม่น้อยกว่าคู่แข่ง แช้มพ์ฤดูกาลนี้ก็น่าจะอยู่ในมือไม่ยาก
แช้มพ์ลีกสูงสุดของ เจอรมานี จะได้รับ มายสเต้อชาเล่อ (Meisterschale) หรือ โล่แชมเปี้ยน เป็นรางวัล และในปี 2004 เจอรมานี เริ่มนำเอาระบบการให้สัญลักษณ์แช้มพ์แบบอิตาลีมาใช้ นั่นคือ ทีมที่เป็นแช้มพ์หลายครั้งก็จะได้แสดงรูปดาวทองบนหน้าอกเสื้อ อย่างไรก็ตาม แต่ละชาติก็มีหลักเกณฑ์การให้ดาวต่างกัน สำหรับ บุนเดสลีกา เจอรมานี นั้น ดาว 1 ดวง หมายถึง แช้มพ์ 3 สมัย ดาว 2 ดวง หมายถึง แช้มพ์ 5 สมัย ดาว 3 ดวง สำหรับ แช้มพ์ 10 สมัย และดาว 4 ดวง ก็คือแช้มพ์ 20 สมัย ซึ่งที่ผ่านมา มีบางสโมสรอ้างว่า เรื่องการนับจำนวนแช้มพ์นั้นต้องนับตั้งแต่ปี 1903 ก่อนยุค บุนเดสลีกา ซึ่งตนเคยได้แช้มพ์มาเป็น 10 หนก็จะติดดาวเข้าไป 3 ดวง บางสโมสรอ้างว่าต้องนับแช้มพ์ในยุคก่อนสงครามโลกก็จะใส่เป็นดาวสีเงินแทน
ลีกฟุตบอลแห่งเจอรมานีไม่อยากจะรับรู้อะไรให้มากความ ในที่สุด ปี 2010 ได้มีการประกาศเด็ดขาดชัดเจนอนุญาตให้สโมสรต่างๆติดดาวทองบนหน้าอกเสื้อในเกมของ บุนเดสลีกา ดังนี้ครับ ดาว 1 ดวง มี ฮัมบวร์กเก้อ เอ๊สเฟา (Hamburger SV) เฟาเอ๊ฟบี ชตุ๊ตการ์ท (VfB Stuttgart) ทั้ง 2 สโมสรนี้เป็นแช้มพ์ 3 สมัย และ เอ๊สเฟา แวเดอ เบรเมิ่น (SV Werder Bremen) แช้มพ์ 4 สมัย ดาว 2 ดวง มี โบรุสเซีย ด๊อรท์มุนด์ (Borussia Dortmund) กับ โบรุสเซีย เมินเชิ่นกลั๊ดบ่าค (Borussia Mönchengladbach) แช้พม์ 5 สมัย ดาว 3 ดวง ไม่มีสโมสรใดได้รับอนุญาต และดาว 4 ดวง อันหมายถึงแช้มพ์ 20 สมัยขึ้นไป มีสโมสรเดียวที่ได้รับอนุญาตคือ บาแยร์น มึนเชิ่น ครับ