ในเกมลีกเอิง ฝรั่งเศสที่ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เปิดบ้านเสมอกับ สตารส์บูร์กไป 2-2 เมื่อคืนที่ผ่านมา มีช็อตที่ถูกกล่าวขวัญกันไปทั่วว่า อาจจะเป็นจังหวะการเข้าทำประตูที่ห่วยที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยเป็นจังหวะที่ ฌอง-เอริค มักซิม ชูโป-โมติง ดาวเตะทีมชาติแคเมอรูนของ PSG เข้าชาร์จลูกกระดกข้ามตัวผู้รักษาประตูของคริสโตเฟอร์ เอ็นกุนกู ที่หน้าประตูของสตาร์ส์บูร์กในนาทีที่ 28
ขณะที่บอลกำลังจะข้ามเส้นประตูนั้นเอง มักซิม ชูโป-โมติง ดันเอาเท้าซ้ายไปแตะบอล ให้คาอยู่ที่เส้นปากประตู ก่อนที่ลูกบอลจะไปชนเสาและกระเด้งออกมา ทำให้ยอดทีมจากฝรั่งเศสพลาดโอกาสขึ้นนำ 2-1
ทั้งนี้ ช็อตดังกล่าวเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของนักพากษ์ รวมไปถึงผู้ชมว่า ไม่เข้าใจความคิดของกองหน้าดาวเตะแคเมอรูนว่าทำไปเพื่ออะไร รวมถึงมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสื่อสังคมออนไลน์ถึงขนาดที่ว่า เป็นการล้มบอลหรือไม่?
ด้านเจ้าตัว หลังเกมได้ให้สัมภาษณ์แก้ตัวกับผู้สื่อข่าวระบุว่า หลังจากที่ตัวเขาทำประตูนำให้ทีมตั้งแต่นาทีที่ 13 เขานึกว่าตัวเองล้ำหน้า
"ผมสงสัยว่าผมอาจจะล้ำหน้า และทุกอย่างก็เกิดขึ้นเร็วมาก ผมแตะบอล บอลก็ไปโดนเสา และนั่นน่าอับอายมาก เพราะบอลกำลังจะเข้าประตู ผมเสียใจจริง ๆ" เจ้าตัวให้สัมภาษณ์ โดยหากแมตช์นี้ PSG สามารถคว้าชัยในบ้านได้ ก็จะคว้าแชมป์ทันที ด้วยจากผลต่างของคะแนนกับทีมอันดับที่สองอย่างลีล มากถึง 20 คะแนน
You may never ever see a worse miss than this beauty from former Stoke striker Choupo-Moting...
— BT Sport (@btsport) April 7, 2019
It genuinely beggars belief 😱pic.twitter.com/OZBp6AJv6x