สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เตรียมประกาศสังเวียนจัด "คิงส์คัพ" 5 เม.ย.นี้ แย้ม "ช้าง อารีน่า" ตัวเต็ง พร้อมยื่นเสนอ กกท. ของบปรับปรุง 4 สนามที่จะใช้จัดแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย U-23 ปีหน้า
เบนจามิน ตัน ที่ปรึกษาและผู้อำนวยการคลับ ไลเซนซิงฯ เผยความคืบหน้าเรื่องสนามในการจัดการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์ คัพ ครั้งที่ 47 ที่จะมี ไทย, เวียดนาม, อินเดีย และอีกหนึ่งทีม ที่กำลังรอตอบรับเข้าร่วมอย่างเป็นทางการ
"ความคืบหน้าการจัดคิงส์คัพ ตอนนี้คณะกรรมการคัดเลือกสถานที่จัด ได้รับข้อมูลรายละเอียด เกี่ยวกับสนามแข่ง, สนามซ้อม, โรงแรม, ค่าปฏิบัติการ, ค่าใช้จ่ายอื่นๆ จากเจ้าของสนาม ในแต่ละจังหวัดที่ได้คัดเลือกแล้ว"
"เรากำลังพิจารณาจากข้อมูลที่ได้มา รวมถึงความเหมาะสม และงบประมาณ ก่อนที่จะมีการตัดสินใจในขั้นตอนสุดท้าย สำหรับตอนนี้มีทีมที่ยืนยันเข้าร่วมแล้ว 2 รายคือ เวียดนาม กับ อินเดีย และเราจะมีการยืนยันเกี่ยวกับทีมสุดท้ายที่เข้าร่วมต่อไป"
"นอกจากนี้เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางสมาคมฯ ร่วมกับ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้ไปดูงานที่ไซตามะ สเตเดียม ที่มีแผนจะถูกใช้ในฟุตบอลโอลิมปิกส์ 2020 ซึ่งเราจะเร่งสรุปเป็นรายงาน เสนอให้กับทางกกท. นำงบประมาณไปปรับปรุงสนามทั้ง 4 แห่ง ที่จะใช้จัดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ปีหน้า"
"สำหรับการไปเยือน เจ วิลเลจ ฟูคูชิมา ทางสมาคมฯ ก็หวังจะให้เป็นต้นแบบในการสร้างศูนย์ฝึกฟุตบอล บนพื้นที่ศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติของกกท. ที่อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี ในอนาคต" เบนจามิน ตัน กล่าวทิ้งท้าย
ทั้งนี้จากแหล่งข่าววงในเผยว่า "ช้าง อารีน่า" รังเหย้าของทีม "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เตรียมจะได้รับหน้าเสื่อในการจัดแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 47 ที่จะฟาดแข้งในวันที่ 6 และ 9 มิถุนายน 2562 ตามปฏิทินฟีฟ่าเดย์ โดยทางสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ จะประกาศสนามที่ได้จัดการแข่งขันอย่างเป็นทางการวันที่ 5 เม.ย.นี้