ผู้จัดการสุดสัปดาห์ 360 - ถือว่าสะเทือนวงการศิลปะการต่อสู้แบบผสมหรือ Mixed martial arts (MMA) ที่เราเรียกกันว่ามวยกรง สำหรับ คอเนอร์ แม็คเกรเกอร์ ซุปตาร์ค่าย Ultimate Fighting Championship (UFC) ที่ประกาศอำลากรงแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย อีกกระแสบ้างก็ว่าพัวพันกับคดีโทรมหญิงที่ดับลิน งานนี้ต้องรอดู แต่เหนืออื่นใดตอนนี้เรามาดูว่าจอมเกรียนชาวไอริช มีลู่ทางจะไปทำมาหากินอะไรต่อได้บ้างจากนี้
เสื้อผ้า - นักกีฬาชั้นนำระดับโลกหลายต่อหลายคนที่เข้าไปมีส่วนร่วมกับอุตสาหกรรมเสื้อผ้า ไม่ว่าจะในบทบาทของพรีเซนเตอร์ ร่วมออกแบบ รวมไปถึงมีแบรนด์ของตนเอง ซึ่งจริงๆ แล้ว แม็คเกรเกอร์ ได้เริ่มเรื่องนี้ไปนานแล้วแบบไม่รู้ตัว เห็นได้จาก "อินสตาแกรม" ของตนเองที่มักจะโพสต์รสนิยมการแต่งตัว เสื้อผ้า รวมไปถึงเครื่องประกับอย่างนาฬิกา ที่สำคัญต้องยอมรับว่าเขาเป็นคนที่มีคาแร็กเตอร์ สามารถทำให้แฟชั่นฮอตฮิตติดลมบนขึ้นมาได้ หรือจะเป็นนายแบบกางเกงชั้นในอย่าง คริสเตียโน โรนัลโด้ ซุปตาร์พ่อค้าแข้ง ก็เข้าท่ากับรูปร่างที่ฟิตสมส่วนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
เครื่องดื่ม - แม็คเกรเกอร์ จับมือกับ เดวิด เอลเดอร์ อดีตผู้กลั่นเครื่องดื่มชื่อดัง "กินเนสส์" (Guinness) คลอดไอริชวิสกี้ Proper No.12 เมื่อปีที่แล้ว โดยมีราคาถึงขวดละ 30 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,260 บาท) ซึ่งก็นำไปโฆษณาตอนช่วงที่ชกกับ ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ อีกด้วย ก็น่าจะทำให้ใครหลายคนอยากลิ้มลองยิ่งขึ้นไปอีก มีรายงานว่าวิสกี้ของเขานั้นขายเกลี้ยงตลาดไม่พอกับความต้องการ แถมซูเปอร์มาร์เก็ตบางแห่งที่ไอร์แลนด์ต้องจำกัดการ 2 ขวดต่อการซื้อหนึ่งครั้ง
โปรโมเตอร์ - หลายคนอาจจะไม่รู้ว่ามีบริษัทที่ชื่อ McGregor Sports and Entertainment โดยตอนชกกับ ฟลอยด์ ก็ได้ร่วมโปรโมทไฟต์แห่งศตวรรษนี้ด้วย หลังจากก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2014 ดังนั้นหาก แม็คเกรเกอร์ จะหันมาเอาจริงเอาจังกับบริษัทนี้ก็คงดีไม่น้อย เพราะขาดทุนสะสมเมื่อปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมาอยู่ที่ 300,000 ปอนด์ (ประมาณ 12.6 ล้านบาท) ซึ่งเจ้าตัวก็มีเส้นสายเพื่อนในวงการมวยอยู่แล้วน่าจะพอมีลู่ทาง
เจ้าของไนท์คลับ - ก่อนไฟต์ที่จะสู้กับ ฟลอยด์ ทางด้าน แม็คเกรเกอร์ เซ็นสัญญา 2 ปีกับรีสอร์ทแอนด์คาสิโนที่ชื่อ Wynn Las Vegas เพื่อจัดงานโปรโมตต่างๆ รวมถึงแถลงข่าว ดังนั้นคงเป็นการดีหากจะหาไนท์คลับหรือโรงแรมมาบริหารเองสักแห่ง เนื่องจากเพื่อนฝูงก็มีมากมายแถมก็ตรงกับไลฟ์สไตล์น่าจะทำให้กิจการรุ่งเรืองได้
นักแสดง - อย่างที่เอ่ยไปแล้วว่า แม็คเกรเกอร์ เป็นคนที่มีคาแร็กเตอร์ ดังนั้นวงการบันเทิงพร้อมเปิดประตูต้อนรับอยู่แล้ว ซึ่งที่ผ่านมาก็มีนักกีฬา MMA หลายต่อหลายคนไปแสดงภาพยนตร์แอ็คชั่นไม่ว่าจะตัวประกอบหรือแสดงนำ อย่างวงการมวยปล้ำไปเล่นหนังก็เยอะไม่น้อย หรือจะเล่นหนังอัตชีวประวัติของตนเองก็เชื่อว่าน่าจะมีผู้ผลิตหลายเจ้าสนใจ
นักมวยปล้ำ - ถือเป็นวงการเพื่อนบ้านก็ว่าได้ เพราะนักกีฬามักจะไปมาหาสู่กันอย่าง ฟลอยด์ ก็เคยถูกดึงไปขึ้นเวทีมวยปล้ำอย่าง WWE มาแล้ว ขณะที่ รอนด้า เราซี่ย์ อดีตนักสู้สาวตอนนี้ก็ไปทางมวยปล้ำแบบเต็มตัว หลังจากแพ้ยับในการต่อสู้ที่กรง ดังนั้น แม็คเกรเกอร์ ก็น่าจะไปกระชากเรตติ้งได้พอสมควร โดยเฉพาะการไปอยู่ฝั่งอธรรมะเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดเรียกได้ว่าถนัดทีเดียว แบบนี้ไม่ต้องฝึกแอ็คติ้งกันนานด้วย
ฑูต แมนฯยู - เรียกได้ว่าเลือด "เรด เดวิลส์" ข้นทีเดียวสำหรับ แม็คเกรเกอร์ เพราะมีภาพเจ้าตัวตอน 8 ขวบใส่เสื้อสีเทาตัวอาถรรพ์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ล่าสุดเพิ่งให้สัมภาษณ์อยากให้บอร์ดบริหารมอบตำแหน่งกุนซือถาวรให้ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา แบบเร็วๆ ก็ไม่แน่ถ้าได้รับการเสนองงานี้อาจจะได้เดินสายไปทั่วโลกเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์สโมสรพร้อมๆ กับ ไบรอัน ร็อบสัน, แอนดี้ โคล และ ดไวท์ ยอร์ก ก็เป็นได้
รอคืนวงการ - ตอนนี้เจ้าตัวอาจจะแค่หมดไฟ เพราะไม่ใช่ครั้งแรกที่ประกาศรีไทร์ โดยหนแรกเกิดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคมปี 2016 หนึ่งเดือนให้หลังที่แพ้ซับมิสชั่นยก 2 แก่ เน็ต ดิแอซ ชาวอเมริกัน ก่อนที่ปีเดียวกันถัดมาเดือนสิงหาคมจะคืนวงการกลับมาล้างตาเอาชนะได้สำเร็จ ดังนั้นปล่อยให้ แม็คเกรเกอร์ ได้พักให้เลือดนักสู้สูบฉีดแล้วค่อยกลับมาใหม่ เพราะอย่าง ฟลอยด์ ก็ชกๆ เลิกๆ หลายรอบตอนนี้ก็ไม่รู้จะไปทำอะไร ขณะที่ แมนนี่ ปาเกียว แขวนนวมไปเล่นการเมือง แต่สุดท้ายทนกลิ่นสาบไม่ไหวก็ต้องกลับมา เพราะคนมันเกิดมาเป็นนักสู้ตั้งแต่เกิดก็ต้องสู้จนกว่าสังขารจะไม่ไหว ที่สำคัญ แม็คเกรเกอร์ มีแบ็กดีอย่าง ดาน่า ไวท์ ประธาน Ultimate Fighting Championship (UFC) ทั้งคู่ซี้กันมาก ดังนั้นงานนี้คุยกันไม่ยากเดี๋ยวก็กลับมา แถมจัดอภิมหาไฟต์ให้รับรองโกยเงินอีกอื้อซ่า นักสู้ระดับนี้ใครก็รอชม