สหพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (เอเอฟซี) ได้ทำการกำหนดไลเซนส์ขั้นต่ำของหัวหน้าผู้ฝึกสอน หรือ “โค้ช” ในแต่ละรายการแข่งขัน ระหว่างปี 2019-2022 เพื่อเป็นการยกระดับความเข้มขนของเกมการแข่งขัน
ในการแข่งขันฟุตบอลของทีมชาติชุดใหญ่ ทั้งชายและหญิง และรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีชาย ได้มีการกำหนดเกณฑ์ให้ หัวหน้าผู้ฝึกสอน จะต้องมีใบประกอบอาชีพโค้ชระดับ โปร ไลเซนส์ ขณะที่ผู้ช่วยโค้ช อยู่ในระดับ เอ ไลเซนส์
ขณะที่ในระดับเยาวชน ทั้งในรุ่นอายุไม่เกิน 16 และ 19 ปี ทั้งชายและหญิง จะต้องมี เอ ไลเซนส์ เป็นอย่างน้อย และนี่คือสิ่งสำคัญของการเปิดคอร์สฝึกอบรมหลักสูตรต่างๆ ของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ มาอย่างต่อเนื่อง ไล่ตั้งแต่หลักสูตร FA Introductory, ต่อด้วย ซี ไลเซนส์, บี ไลเซนส์, เอ ไลเซนส์ จนมาถึงระดับ โปร ไลเซนส์ ซึ่งถือเป็นหลักสูตรสูงสุดของผู้ฝึกสอน
จบ “หลักสูตรโค้ชเบื้องต้น” = ยังไม่สามารถเป็นโค้ชสอนฟุตบอลได้
หลักสูตร FA Thailand Introductory หรือ หลักสูตรเบื้องต้นของคนที่ต้องการเป็นโค้ช จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับ 1. การพัฒนาเยาวชน 2. เทคนิคการเล่นฟุตบอลในแต่ละส่วน 3. การจัดการแข่งขัน 4. ฟุตบอลรากหญ้า 5. การสื่อสารระหว่างผู้ฝึกสอนกับนักกีฬา 6. เทคนิคและทักษะ โดยใช้เวลาเรียนทั้งหมด 6 วัน จบแล้วต้องไปเรียนต่อหลักสูตร ซี ไลเซนส์ ยังไม่สามารถเป็นโค้ชฟุตบอลได้
จบ “ซี ไลเซนส์” = เป็นโค้ชระดับเยาวชน / อคาเดมี
ผู้ฝึกสอนในระดับ “ซี ไลเซนส์” หรือ AFC 'C' Certificate Coaching Course เป็นหลักสูตรสำหรับผู้ฝึกสอนจะเริ่มต้น เรียนจบแล้วสามารถทำงานเป็นฝึกสอนนักฟุตบอลในระดับรากหญ้า หรือเยาวชน ตามอคาเดมีต่างๆ เท่านั้น โดยจะใช้เวลาในการอบรมทั้งหมด 15 วัน ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 27,000 บาท
จบ “บี ไลเซนส์” = ผู้ช่วยโค้ช หรือ โค้ชระดับภูมิภาค (T3-T4) และระดับเยาวชน / อคาเดมี
ผู้ฝึกสอนในระดับ บี ไลเซนส์ หรือ AFC 'B' Certificate Coaching Course เป็นหลักสูตร ที่ต่อยอดจาก ซี ไลเซนส์ มาเป็น บี ไลเซนส์ โดยมีข้อกำหนดว่าต้องใช้เวลาสั่งสมประสบการณ์เป็นเวลาอย่างน้อย 2 ปี ในการทำงานกับฟุตบอล
โดยผู้ที่ผ่านหลักสูตรนี้จะสามารถทำหน้าที่ในระดับกึ่งอาชีพ อาทิ การเป็นผู้ช่วยผู้ฝึกสอน หรือ การเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลเยาวชน และ/หรือ หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลระดับภูมิภาค อาทิเช่น การแข่งขัน ฟุตบอลออมสิน ลีก (T3) และ ออมสิน ลีก โปร (T4) โดยจะใช้เวลาในการอบรม แบ่งเป็นสองช่วง ช่วงแรก 15 วัน และ ช่วงที่ 2 อีก 5 วัน รวมทั้งหมด 20 วัน โดยมีค่าใช้จ่าย 38,000 บาท
จบ “เอ ไลเซนส์” = โค้ชไทยลีก (T1-T2) / โค้ช U16, U19 หรือ ผู้ช่วยโค้ชระดับนานาชาติ
ผู้ฝึกสอนในระดับ “เอ ไลเซนส์” หรือ AFC 'A' Certificate Coaching Course เป็นหลักสูตร ที่ต่อยอดจาก บี ไลเซนส์ ซึ่งก่อนจะมาเป็น เอ ไลเซนส์ นั้นต้องใช้เวลาสั่งสมประสบการณ์ หลังจบ บี ไลเซนส์ ไปแล้วอย่างน้อย 2 ปี
โดยผู้ที่ผ่านหลักสูตร เอ ไลเซนส์ จะสามารถทำหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนระดับสูงสุดภายในประเทศได้อย่างเต็มตัว อาทิ การเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน ในการแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก (T1) หรือ M-150 แชมเปี้ยนชิพ (T2) เป็นต้น รวมถึงการเป็นผู้ช่วยผู้ฝึกสอนในระดับนานาชาติ โดยจะใช้เวลาในการอบรม แบ่งเป็น 2 ช่วง ช่วงแรก 17 วัน และช่วงที่ 2 10 วัน รวมทั้งหมด 27 วัน โดยมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 60,000 บาท
จบ “โปร ไลเซนส์” = โค้ชระดับนานาชาติ / ฟุตบอลโลก / ชิงแชมป์ระดับทวีป
หลักสูตร โปร ไลเซนส์ การอบรมหลักสูตรดังกล่าว ถือเป็นหลักสูตร สูงสุด ที่ต่อยอดจาก เอ ไลเซนส์ ซึ่งก่อนจะมาเป็น โปร ไลเซนส์ นั้นต้องใช้เวลาสั่งสมประสบการณ์ หลังจบ เอ ไลเซนส์ ไปแล้วอย่างน้อย 2 ปี
โดยผู้ที่ผ่านหลักสูตรนี้ จะสามารถทำหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆ อย่างฟุตบอลโลก หรือ ฟุตบอลชิงแชมป์ระดับทวีปเป็นต้น รวมถึงตำแหน่งต่างๆ อาทิ ประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิคของสโมสรและทีมชาติ โดยจะใช้เวลาในการอบรม แบ่งเป็น 4 ช่วง
ช่วงแรก 27 วัน อบรมสองหัวข้อใหญ่คือ ฟิตเนส และการฝึกซ้อมในภาคสนามและทฤษฎี
ช่วงที่สอง 23 วัน เก็บเกี่ยวข้อมูลฟุตบอลในประเทศที่ประสบความสำเร็จ โดยเป็นการเดินทางไปต่างประเทศเพื่อเก็บเกี่ยวข้อมูลฟุตบอลจากประเทศที่ได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จในกีฬาฟุตบอล ทั้งจากสโมสรและทีมชาติ
ช่วงที่สาม เป็นช่วงระยะเวลาทำงานในรอบ 1 ปี หลังผ่าน 2 ช่วงแรก โดยจะมีการทำรายงานการทำหน้าที่ตลอด 1 ปี ในช่วงเวลาดังกล่าว
ช่วงที่สี่ 30 วัน จะเป็นช่วงเก็บงานทั้งหมด เพื่อมานำเสนอและทำข้อสอบ
โดยทั้งสี่ช่วงมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 500,000 บาท
นี่คือเส้นทางของกุนซือมืออาชีพ และบทบาทหน้าที่ในแต่ละระดับของไลเซนส์ สรุปรวมแล้ว จากจุดเริ่มต้นเป็นคนธรรมดาจนถึงเป็นโค้ชระดับสูงสุด ถือใบอนุญาตผู้ฝึกสอนระดับ AFC 'Pro' Diploma Coaching Course ต้องใช้เวลา อย่างน้อย 8 ปี