xs
xsm
sm
md
lg

สิ้นยุค “หมาน้อยธรรมดา” นั่งเห่าเครื่องบิน / MVP

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


คอลัมน์ Buzzer Beat โดย MVP

ออกจะเหลือเชื่อสุดๆ กับความเคลื่อนไหวของ คลีฟแลนด์ บราวน์ส ซึ่งกำลังจะคว้าบิ๊กเนมอย่าง โอเดลล์ เบ็คแฮม จูเนียร์ ปีกนอกค่าตัวแพงสุดของ อเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) เติมพลังเกมรุก แน่นอนว่าการลงทุนระดับนี้ แฟนๆ รวมถึงฝ่ายบริหาร ย่อมคาดหวังถึงชิงแชมป์สาย เอเอฟซี (AFC) มากกว่าจะขยับผลงานเกิน 50 เปอร์เซ็นต์

เอ่ยถึงชื่อ “เจ้าตูบ” ใครๆ ก็คงตั้งสมญาขำๆ แค่ “หมาน้อยธรรมดา” เลียนแบบ “เป็ดแดง” หรือ “หมาถือส้อม” ด้วยผลงาน ชนะแค่ 1 เกม ตลอด 2 ปีกว่าๆ แถมยังล้มเหลวกับการเฟ้นหา “ควอเตอร์แบ็กแห่งแฟรนไชส์” เท่าที่จำได้ก็น่าจะตั้งแต่ยุค ทิม เคาช์ ปี 1999 หรือก่อนหน้านั้นเสียด้วยซ้ำ กระทั่งจิ๊กซอว์ชิ้นแรกลงล็อกที่ เบเกอร์ เมย์ฟิลด์ ดราฟต์เบอร์ 1 ปี 2018

จอมทัพหนุ่มวัย 23 ปี แสดงให้เห็นว่า เขาคือคนที่แฟนๆ บราวน์ส รอคอยมาเกือบ 2 ทศวรรษ หยุดสถิติปราชัย 19 เกมรวด ตั้งแต่จับบอลขว้างเกมแรกระดับอาชีพ จบเรกูลาร์ ซีซัน ด้วยผลงาน ขว้าง 3,725 หลา 27 ทัชดาวน์ มากกว่าซีซันแรกของ 2 ผู้เล่นดีกรีแชมป์อย่าง เพย์ตัน แมนนิง ตำนาน อินเดียนาโปลิส โคลท์ส กับ รัสเซลล์ วิลสัน ของ ซีแอตเทิล ซีฮอว์กส เสีย 14 อินเทอร์เซ็ปต์ พร้อมรางวัล “รุกกีแห่งปี”

เข้าสู่ออฟซีซัน ฟรอนท์ ออฟฟิศ จัดการติดอาวุธแก่ เมย์ฟิลด์ ด้วยการส่ง สิทธิ์ดราฟต์รอบ 1 กับ รอบ 3 และ จาบริลล์ เป็ปเปอร์ส เซฟตี แก่ นิวยอร์ก ไจแอนท์ส เพื่อคว้า “โอบีเจ” ประสานงานกับ จาร์วิส แลนดรี คู่หูสมัยเรียน หลุยเซียนา สเตท บวกกับ อดัม เฮนรี โค้ชปีกนอกคนปัจจุบัน ก็ยังปลุกปั้นทั้งคู่มาตั้งแต่ระดับคอลเลจ

เบ็คแฮม จูเนียร์ จัดว่าเป็นปีกประเภท “บิ๊กเพลย์” ปิดสกอร์ 12 ทัชดาวน์ ระยะอย่างน้อย 20 หลา สูงสุดของลีก นับตั้งแต่ปี 2014 ส่วน แลนดรี โดดเด่นเกมขว้างสั้น หรือระยะกลาง เฉลี่ย 7.2 หลา ต่อการรับบอล 1 ครั้ง ลองนึกดูว่าเกิด คารีม ฮันท์ รันนิงแบ็กจอมฉาว ที่ถือสัญญา 1 ปี พ้นแบนกลับมา เกมรุกจะสะเด่าสักแค่ไหน

ฤดูกาล 2019 สาวก บราวน์ส ไม่ได้มองแค่ สถิติชนะมากกว่าแพ้ นับตั้งแต่ปี 2007 ตามสถานการณ์ดิวิชัน เอเอฟซี (AFC) เหนือ พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส เริ่มมาถึงขาลง เสีย 2 ซูเปอร์สตาร์อย่าง อันโตนิโอ บราวน์ ไปให้ โอคแลนด์ เรดเดอร์ส และ เลอวอน เบลล์ รันนิงแบ็ก ไป นิวยอร์ก เจ็ตส์ คงต้องดูว่า เบน โรธลิสเบอร์เกอร์ ควอเตอร์แบ็กจอมเก๋า , วิลลี ปาร์เกอร์ และ จูจู สมิธ ชูสเตอร์ กับทีมรับอันเหนียวแน่นและดุดันที่เป็นเครื่องหมายการค้า จะแบกทีมไว้ได้แค่ไหน

ส่วน บัลติมอร์ เรฟเวนส์ อยู่ในช่วงผลัดเปลี่ยน เทรด โจ แฟล็กโก ไปให้ เดนเวอร์ บรองโกส์ มอบหมายตัวจริงแก่ ลามาร์ แจ็คสัน รุกกีที่โชว์ฟอร์มโดดเด่น ฤดูกาลที่แล้ว และ ซินซินเนติ เบงกอลส์ ที่มีจอมทัพอย่าง แอนดี ดาลตัน ก็ย่ำแย่เช่นกัน ไม่ได้สัมผัสเพลย์ออฟมานาน 3 ซีซันรวด

มองมุมกลับ บราวน์ส ภายใต้ยุคของ เฟร็ดดี คิตเชนส์ เฮดโค้ชมือใหม่ รวมถึง เมย์ฟิลด์ จอมทัพ ที่กำลังเข้าสู่ปีที่ 2 ของอาชีพ อาจอยู่ในสภาพเดียวกับ “สไปเดอร์ แมน” หรือ “ไอ้แมงมุม” คือ หากคุณมีพลังอันยิ่งใหญ่ ก็ต้องมาพร้อมกับความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ พิจารณาตามขุมกำลังตอนนี้ ทั้งคู่ย่อมเจอความกดดันที่มากขึ้น เนื่องจากชั่วโมงนี้ พวกเขาถูกจับตาว่า อาจขึ้นมาต่อเบียด 2 ทีมเต็งของสายอย่าง นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ หรือ แคนซัส ซิตี ชีฟส์ เลยทีเดียว
กำลังโหลดความคิดเห็น