กองกลางเทพลูกนิ่งจากสโมสร พีที ประจวบ เอฟซี ถือเป็นแข้งหน้าใหม่ที่ได้มีชื่อติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ ในชุดเตรียมลุยศึก ไชน่า คัพ 2019 ที่มณฑล หนานหนิง ประเทศจีน ซึ่งถือเป็นการมีชื่อติดทัพ "ช้างศึก" ครั้งแรกของดาวเตะวัย 27 ปี
โดยในปีที่ผ่านมา จิตปัญญา ทิสุด ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่แย่ที่สุดในชีวิต หลังได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก ที่เอ็นไขว้หน้าหัวเข่า จนทำให้ต้องพักยาวไปเกือบปี
ด้วยความพยายาม และความเป็นนักสู้ ทำให้วันนี้ เขาได้รับรางวัลอันล้ำค่าในชีวิตนักฟุตบอล นั่นก็คือการได้ติดทีมชาติไทย
"ก่อนอื่นเลย ผมก็รู้สึกดีใจมาก เพราะนี่ถือเป็นครั้งแรกอย่างเป็นทางการที่มีรายชื่อ เพราะก่อนหน้านี้ก็มีข่าวแบบโค้ชเห็นผม แต่ก็ยังไม่ได้โอกาส" มิดฟิลด์วัย 27 ปี กล่าวเริ่ม
"อย่างเมื่อปีก่อน ยอมรับว่าเสียดายมาก ผมพยายามทำอย่างเต็มที่ในการเล่นให้กับสโมสร แต่สุดท้ายก็พลาดไปเพราะอาการบาดเจ็บ"
"ในช่วงปรีซีซั่นที่ผ่านมา ผมซ้อมอย่างหนัก ผมมาซ้อมก่อนที่ทีมจะมีการเก็บตัว ประมาณ 1 เดือน เพราะอย่างที่รู้ว่าผมเพิ่งเสร็จสิ้นจากการผ่าเข่ามา และด้วยอาการบาดเจ็บ และต้องการกลับมาแข็งแกร่ง สิ่งสำคัญคือเราต้องทำงานหนักกว่าคนอื่นๆ 2-3 เท่า"
"ตอนนี้ก็เพิ่งหายเจ็บกลับมาสมบูรณ์ได้ไม่นาน ก็ยังไม่ได้ตั้งเป้าหมายอะไรไกลมาก หลักๆก็คงเป็นการเล่นให้กับสโมสร ที่ผมอยากจะทำให้ทีมมีผลงานดีขึ้นสุด ส่วนทีมชาติถ้าได้โอกาสไปจริงๆ ก็จะพยายามเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้ได้มากที่สุด"
ในช่วงที่ผ่านมา จิตปัญญา ผ่านการค้าแข้งกับสโมสรชั้นนำ ในโตโยต้า ไทยลีกมาแล้วหลายสโมสร อาทิ ชัยนาท ฮอร์นบิล, บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, บีจี ปทุม ยูไนเต็ และล่าสุดกับ พีที ประจวบ เอฟซี
"ผมคิดว่ามันไม่ช้าเกินไปนะ ในวัย 27 ปี กับการติดทีมชาติ ถ้ามีโอกาสสักครั้งมันก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีจริงๆ"
"ตลอดช่วงที่ผ่านมา ผมก็ดูทีมชาติไทยเล่นมาตลอด เพราะเราเองก็ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติเสมอ ก็ต้องดูว่าเขาเล่นกันอย่างไร ต้องปรับตัวแบบไหน เพราะระบบทีมชาติกับสโมสร มีความแตกต่างกันเป็นเรื่องปกติ"
"นอกจากนี้ ผมก็ได้กำลังใจสำคัญเสมอจากครอบครัว ทั้งพ่อและแม้ ที่ให้กำลังใจผมมาตลอด ยิ่งโดยเฉพาะตอนที่ได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก มันยิ่งเป็นแรงผลักดันที่บอกตัวเองเสมอว่า ผมต้องกลับมาให้ได้"
25 เมษายน 2561 ถือเป็นวันที่ จิตปัญญา ไม่อยากจำ เพราะนั่นคือวันที่เขาโชคร้ายที่สุดในชีวิต หลังได้รับบาดเจ็บ ในเกมที่ทีมเอาชนะ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ไปด้วยสกอร์ 4-2 แต่มองอีกแง่ มันก็ถือเป็นแรงผลักดันชั้นดีที่ทำให้เขากลับมาแข็งแกร่งกว่าเดิม
"มันท้อนะ ผมไม่คิดหรอกว่ามันจะเกิดขึ้นกับตัวเรา ผมพยายามฝืนเล่นต่อแต่ก็ไม่ไหว อาการบาดเจ็บครั้งนี้มันทำให้เราต้องสู้กว่าเดิม อยากซ้อมหนักกว่าเดิม เพราะอย่างที่ทราบ คนที่ผ่าตัดแล้วกลับมาลงเล่น ยังไงก็ไม่เหมือนคนปกติ"
"การมาติดทีมชาติครั้งนี้มันก็เหมือนเป็นแรงกระตุ้นให้ตัวเองพัฒนากว่าเดิม มันเป็นเหมือนรางวัล และคอยบอกเราว่า เราต้องเดินหน้าต่อไป เพื่อให้เราดี และ แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม"
ทีมชาติไทย จะคัดเลือกนักกีฬาให้เหลือ 23 คน ในวันที่ 14 มีนาคม ก่อนที่จะเข้าแคมป์เก็บตัวฝึกซ้อมในวันที่ 18 มีนาคม และออกเดินทางไปแข่งขันฟุตบอลไชน่า คัพ 2019 ในวันที่ 19 มีนาคม 2562 นี้ ต่อไป
สำหรับโปรแกรมการเเข่งขันมีดังต่อไปนี้
ทีมชาติจีน พบ ทีมชาติไทย
วันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม 2562 เวลา 18.35 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
ณ สนามกว่างซี สปอร์ต เซนเตอร์ ,กว่างซีจ้วง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน
ทีมชาติอุรุกวัย พบ ทีมชาติอุซเบกิสถาน
วันศุกร์ที่ 22 มีนาคม 2562 เวลา 18.35 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
ณ สนามกว่างซี สปอร์ต เซนเตอร์ ,กว่างซีจ้วง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน
โดยผู้ชนะจะเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ และผู้แพ้จะลงเล่นนัดชิงอันดับ 3 ในวันเดียวกัน 25 มีนาคม 2562