ผู้จัดการรายวัน 360 - ศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน รุ่นอายุไม่เกิน 22 ปี เดินทางมาถึงรอบชิงชนะเลิศในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2562 โดยจะเป็นการดวลแข้งกันระหว่าง ขุนพล "ช้างศึก" ทีมชาติไทย กับ ทีมชาติอินโดนีเซีย แข่งขันกันที่โอลิมปิก สเตเดียม กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา
พลพรรคช้างศึกชุดอายุไม่เกิน 22 ปี ภายใต้การคุมทีมของ อเล็กซานเดอร์ กาม่า ยอดเทรนเนอร์ชาวบราซิเลียน แม้จะเรียกตัวผู้เล่นแบบไม่ฟูลทีมมาแข่งขันในทัวร์นาเมนต์นี้ แต่ถือว่าทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยรอบแบ่งกลุ่ม ชนะ 2 เสมอ 1 ไม่แพ้ใคร ยิงได้ 4 ประตู ไม่เสียแม้แต่ประตูเดียว มี 7 คะแนน จบเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม เป็นรองเวียดนามทีมอันดับหนึ่งแค่ลูกได้เสียเท่านั้น รวมไปถึงในรอบตัดเชือกเมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา "ช้างศึก" แม้จะหืดจับในช่วง 90 นาที เจาะตาข่ายเจ้าภาพกัมพูชาไม่ได้ รวมไปถึงในช่วง 120 นาทีก็ยังไม่คมพอ แต่ยังเอาตัวรอดในการดวลจุดโทษจนตบเท้าเข้ารอบชิงฯ จนได้
จริงแล้วๆผู้เล่นที่ถูกเรียกมาติดทีมชาติชุดนี้ลงเล่นในทัวร์นาเมนต์นี้ ไม่ได้ถือว่าเป็นฟูลทีมของนักเตะรุ่นอายุนี้ เนื่องจากตัวหลักหลายคนมีภารกิจต้องรับใช้ต้นสังกัดในเวทีไทยลีก ทำให้ตัวกุนซือใหญ่ตัดสินใจไม่เรียกแข้งดังหลายๆคนมาร่วมทีม อาทิ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ, สิทธิโชค ภาโส (ชลบุรี เอฟซี), สุภโชค สารชาติ, รัตนากร ใหม่คามิ, ศุภชัย ใจเด็ด (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด) เป็นต้น
อย่างไรก็ตามแข้งที่ถูกเรียกมาติดหลายคนก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม และมีลุ้นที่จะมีชื่อติดทีมไปลุยทัวร์นาเมนต์สำคัญ อย่าง ฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่ประเทศไทยจะได้เป็นเจ้าภาพในช่วงต้นปี 2020 ถือเป็นทัวร์นาเมนต์ที่สำคัญอย่างยิ่งในการหาตัวแทนจากทวีปเอเชียไปลุยกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น นักฟุตบอลหลายคนล้วนแล้วแต่โชว์ฟอร์มได้น่าประทับใจ อย่าง ศฤงคาร พรมสุภะ, ชาติชาย แสงดาว, ฤทธิเดช เพ็ญสวัสดิ์, กรวิช ทะสา รวมถึง กรพัฒน์ นารีจันทร์ นายทวารจอมหนึบที่ยังไม่เสียประตูเลยในศึกชิงแชมป์อาเซียน
วนกลับมาถึงเกมรอบชิงชนะเลิศในศึกชิงแชมป์อาเซียน ที่ประเทศกัมพูชา ที่ทีมชาติไทย จะพบกับ อินโดนีเซีย คาดว่า อเล็กซานเดอร์ กาม่า จะยังคงสลับเปลี่ยนหมุนเวียนผู้เล่นเช่นเดียวกับ 4 นัดที่ผ่านมามักจะใช้ 11 คนแรกไม่ค่อยซ้ำกัน ซึ่งตัวหลักๆนำทัพโดย ศฤงคาร พรมสุภะ และศรายุธ สมพิมพ์ 2 ปราการหลังตัวเก่ง, กรพัฒน์ นารีจันทร์ ผู้รักษาประตูจอมเซฟ, สกุลชัย แสงโทโพธิ์, พัชรพล อินทนี 2 มิดฟิลด์พันธุ์แกร่ง รวมไปถึง เจษฎากร ขาวงาม กองหน้าตัวเก่ง
ขณะที่ทีมชาติอินโดนีเซีย ภายใต้การคุมทีมของ อินดรา ซาฟรี เทรนเนอร์วัย 56 ปี ผ่านรอบแบ่งกลุ่มมาแบบสุดเหนื่อยเพราะต้องลุ้นกันจนถึงนัดสุดท้าย ซึ่งพวกเขาดับซ่าทีมเจ้าภาพกัมพูชา 2-0 ผ่านเข้ารอบมาเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม และมาทำผลงานได้ยอดเยี่ยมในเกมรอบ 4 ทีมสุดท้าย หลังใช้เกมรับที่มีวินัยยันทีมชาติเวียดนามอยู่หมัด ก่อนมาได้ทีเด็ดในช่วง 20 นาทีสุดท้ายทำประตูขึ้นนำและปิดเกมไปได้จนตบเท้าเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศในที่สุด
ตัวผู้เล่นของอินโดนีเซียในชุดนี้มีทีเด็ดอยู่ที่ศูนย์หน้าที่สวมเสื้อหมายเลข 3 อย่าง มารินุส วาเนวอร์ ที่มีความสูงถึง 183 เซ็นติเมตร ถือเป็นดาวยิงที่รูปร่างใหญ่ เบียดกับกองหลังของทีมคู่แข่งได้ดี รวมไปถึง มูฮาหมัด ลุธฟี ผู้ทำประตูชัยในเกมเฉือนเวียดนาม 1-0 รอบที่แล้ว เป็นมิดฟิลด์ความเร็วสูงที่แม้รูปร่างจะเล็กแต่ปั่นป่วนแนวรับคู่แข่งได้ดี รวมไปถึง บากัส อาดี ปราการหลังที่แม้รูปร่างจะเล็ก แต่มีทางบอลที่ยอดเยี่ยม และเฟียร์ซ่า แอนดิก้า ฟูลแบ็คจอมบุกที่ค้าแข้งอยู่กับทีมทูบิเซ่ ในลีกเบลเยียม
รายชื่อ 11 คนแรกของทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 22 ปี ที่คาดว่าจะลงสนามในรอบชิงชนะเลิศ พบ อินโดนีเซีย ประกอบไปด้วย กรพัฒน์ นารีจันทร์ (GK) : ศฤงคาร พรมสุภะ, ศรายุธ สมพิมพ์, มาร์โก้ บัลลินี : กิตติพงษ์ แสนสนิท, สกุลชัย แสงโทโพธิ์, อนนท์ สมากร, ธัญพิสิษฐ์ คุขะละโม, เตชินท์ มุขธระโกษา : เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์, เจษฎากรณ์ ขาวงาม
รายการนี้แม้จะไม่ได้มีความสำคัญเพราะไม่ได้เป็นการเฟ้นหาโควต้าเพื่อไปเล่นศึกชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้ายที่ประเทศไทย เนื่องจากจะมีรอบคัดเลือกแข่งขันกันต่างหากในช่วงระหว่าง 22-26 มีนาคม 2562 แต่อย่างน้อยขึ้นชื่อว่าเป็นศึกชิงแชมป์อาเซียน เรื่องของศักดิ์ศรียังคงค้ำคออยู่เสมอ
ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน รุ่นอายุไม่เกิน 22 ปี รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง ไทย พบ อินโดนีเซีย จะแข่งขันกันที่โอลิมปิก สเตเดียม กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 18.30น. ตามเวลาไทย พีพีทีวี (PPTV) ช่อง 36 ถ่ายทอดสด