แสตมป์ แฟร์เท็กซ์ โชว์แม่ไม้มวยไทยได้อย่างครบเครื่อง ก่อนเอาชนะคะแนนนักชกสาวจากสหรัฐอเมริกาไปแบบเอกฉันท์ คว้าแชมป์โลกมวยไทย รุ่นอะตอมเวท หญิง ไปครองเป็นเข็มขัดเส้นที่สองในวัน แชมเปียนชิพ ส่วนกำปั้นไทยอีก 2 คน พาเหรดน็อคคู่แข่ง
การแข่งขันศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว วัน แชมเปียนชิพ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2562 ที่สิงคโปร์ อินดอร์ สเตเดียม ประเทศสิงคโปร์ เป็นการดวลกำปั้นในศึก ONE : Call to Greatness มีไฮไลท์สำคัญอยู่ที่คู่เอก ระหว่าง แสตมป์ แฟร์เท็กซ์ นักชกสาวจากประเทศไทย เจ้าของแชมป์โลกคิก บ็อกซิ่ง รุ่นอะตอมเวทหญิง พบกับ จาเน็ต ท็อดด์ นักชกสาวชาวอเมริกัน โดยมีเข็มขัดแชมป์โลกมวยไทย รุ่นอะตอมเวทหญิง ที่ว่างอยู่เป็นเดิมพัน
ปรากฏว่าคู่นี้ชกกันได้สูสีเป็นอย่างมาก โดยเป็นแสตมป์ที่เป็นฝ่ายเดินเข้าหาและออกอาวุธมากกว่าหลากหลายกว่า ทั้งหมัดและศอกใส่คู่แข่งเข้าเป้าหลายครั้ง แต่กำปั้นสาวอเมริกันยังอึดยื้อมาได้จนครบ 5 ยก สุดท้ายกรรมการชูมือให้ แสตมป์ แฟร์เท็กซ์ เอาชนะคะแนนจาเน็ต ท็อดด์ แบบเป็นเอกฉันท์ คว้าแชมป์โลกมวยไทย รุ่นอะตอมเวท หญิง ไปครอง ทำให้เธอมีเข็มขัดแชมป์โลกในศึกวัน แชมเปียนชิพ ถึง 2 เส้น
ส่วนในการแข่งขันศิลปะการป้องกันตัวแบบผสม หรือเอ็มเอ็มเอ รุ่นสตรอว์เวท ชาย "ครูรงค์" เดชดำรงค์ ส.อำนวยศิริโชค อดีตแชมป์โลกวัน แชมเปียนชิพ ในรุ่นนี้จากไทย ขึ้นทำศึกล้างตากับ เจเรมี มิอาโด จากฟิลิปปินส์ ที่เคยทำเซอร์ไพรส์น็อคใส่ครูรงค์เมื่อปีก่อนในการชกที่ประเทศไทย
คู่นี้ใส่กันอย่างสนุกตั้งแต่ยกแรก เจเรมี มิอาโด รอจังหวะสวนหมัดขวาเข้าหน้าครูรงค์ได่หลายดอกจนคิ้วแตก ก่อนที่จะหมดยกแรกไปเสียก่อน อย่างไรก็ตามในยกที่สอง เดชดำรงค์ แก้เกมมาได้ดี หันมาใช้วิชาปล้ำกับพื้นเล่นงานนักสู้จากฟิลิปปินส์ได้ผลหลายครั้ง จนสุดท้ายมาสำเร็จในจังหวะการปล้ำบนพื้น ครูรงค์ ออกอาวุธเข่าซอยเข้าที่หัวของคู่แข่งหลายครั้ง จนสุดท้ายกรรมการบนเวทียุติการชกและชูมือให้ เดชดำรงค์ เป็นฝ่ายชนะน็อค
ด้าน เพชรดำ เพชรยินดีอะคาเดมี อีกหนึ่งยอดนักมวยไทยที่หันมาขึ้นชกในศึกวัน แชมเปียนชิพ ปะทะกำปั้นกับ มาซาฮิเดะ คุโดะ จากญี่ปุ่น เป็นการดวลกันในคิก บ็อกซิ่ง ซูเปอร์ซีรีส์ รุ่นฟลายเวท และเป็น เพชรดำ ที่เหนือกว่าเยอะ เป็นฝ่ายออกอาวุธได้จะแจ้งกว่าตั้งแต่ยกแรก แต่สุดท้ายเจ้ามาปิดบัญชีคู่แข่งได้ในช่วงต้นยกสอง หลังต้อนนักชกจากญี่ปุ่นเข้ามุม ก่อนจะนำด้วยหมัดขวาและตามด้วยหมัดซ้ายเข้าเต็มแก้มของกำปั้นจากแดนอาทิตย์อุทัยจนล้มทั้งยืน ก่อนกรรมการบนเวทียุติการชกในทันที ทำให้นักชกจากไทยเป็นฝ่ายชนะน็อคไปแบบไม่ยากเย็น
ส่วนอีกคู่ที่น่าสนใจเป็นการดวลกันในศึกเวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นไลต์เวท รอบก่อนรองชนะเลิศ ในรูปแบบของเอ็มเอ็มเอ อาเมียร์ ข่าน.สุดยอดนักสู้ชาวสิงคโปร์ พบกับ อาเรียล เซ็กซ์ตัน จากคอสตาริกา และกลายเป็นนักสู้จากคอสตาริกา ที่อาศัยอาวุธการปล้ำบนพื้นเป็นทีเด็ด และมาได้ผลในช่วงต้นยกสามด้วยการจับนักสู้เจ้าถิ่นล็อคจนกรรมการยุติการชก ก่อนจะชูมือให้ อาเรียล เซ็กซ์ตัน เป็นฝ่ายชนะไปได้
