มาเรีย ชาราโปวา นักเทนนิสหญิงระดับซูเปอร์สตาร์ชาวรัสเซีย เปิดใจให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นบีซี โดยประเด็นน่าสนใจคือเรื่องการใช้เงินที่แตกต่างจากนักกีฬาผู้มั่งคั่งคนอื่นๆ และได้รับการปลูกฝังเรื่องเงินทองเป็นอย่างดีจากผู้ปกครองตั้งแต่ยังเด็ก
ชาราโปวา เปิดเผยว่า สมัยเด็กเธอได้รับเงินใช้ในชีวิตประจำวัน ตกสัปดาห์ละ 6 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 190 บาท) และถูกคุณพ่อคุณแม่ปลูกฝังว่าให้ใช้เงินอย่างประหยัด ซึ่งเธอก็จดจำคำสอนนี้ไว้และนำมาใช้ประโยชน์จนถึงปัจจุบัน
“ฉันใช้เงินซื้อของครั้งแรกตอนช่วงปาร์ตี้ปีใหม่ แม่พาฉันไปซื้อกระต่าย แน่นอนว่ามันเป็นของราคาแพงและแม่ก็กำชับไม่ให้บอกพ่อ เพราะมันแพงกว่าของขวัญที่พ่ออยากได้เสียอีก” นักหวดหญิงอดีตมือ 1 โลก กล่าวแบบติดตลก
นักหวดหญิงวัย 31 ปี ไม่เคยมีประสบการณ์ทำงานพาร์ตไทม์ เพราะยึดอาชีพนักเทนนิสมาตั้งแต่แรก ก่อนประสบความสำเร็จได้เงินรางวัลและมีสปอนเซอร์ให้การสนับสนุนมากมาย รวมถึงรถยนต์ที่เธอได้เองมาแบบฟรีๆ จากสปอนเซอร์
“ฉันไม่เคยมีรถเป็นของตัวเองเลย จนกระทั่งมีสปอนเซอร์มาติดต่อร่วมงานด้วย (พอร์ช) แต่ถ้าถามเรื่องรถคันแรกของครอบครัวน่าจะเป็นของฮอนด้า จำได้เลยว่ารถมันมีปุ่มเปิด-ปิดกระจกแบบอัตโนมัติด้วย เป็นสิ่งทีน่าตื่นตาตื่นใจมากสำหรับฉันในตอนนั้น”
แน่นอนว่าการเป็นนักกีฬาที่มีรายได้มหาศาล ย่อมทำให้เธอมีสิทธิ์จับจ่ายใช้สอยซื้อของหรูหราฟุ่มเฟือยใดๆ ก็ได้บนโลกนี้ แต่ “นางฟ้ามาเรีย” มองมุมต่าง “ฉันไม่ใช่แฟนคลับของเรือยอชต์น่ะ เห็นหลายคนเอาเงินไปซื้อเรือนั้นแล้วใช้มันในช่วงหยุดซัมเมอร์ ฉันแค่ใช้มันโดยสารปกติก็พอ”
“สิ่งของราคาถูกที่สุดที่ฉันเคยได้มาก็คืออ้อมกอดและเสียงหัวเราะ มันเป็นของฟรี และสำหรับฉัน เงินก็เป็นเพียงสิ่งของชั่วคราว” แชมป์แกรนด์สแลม 5 สมัย ทิ้งท้าย