ผู้จัดการรายวัน 360 - ลีกลูกหนังของไทยเตรียมกลับมาฟาดแข้งกันอีกครั้งในฤดูกาล 2019 แม้ลีกสูงสุดจะเปิดฉากกันในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ แต่ลีกพระรอง หรือ ศึกเอ็ม-150 แชมเปียนชิพ จะระเบิดศึกกันแล้วในวันที่ 9 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งฤดูกาลนี้ดูจะน่าสนใจไม่แพ้ลีกสูงสุดเลยทีเดียว
สำหรับ ไทยลีก 2 ในฤดูกาลนี้ น่าสนใจและน่าติดตามมากที่สุดในรอบหลายปี เนื่องจากบรรดาบิ๊กทีมล้วนแล้วแต่กระเด็นตกชั้นมาจากลีกสูงสุดกันทั้งนั้น อย่าง "บลูแมชชีน" บางกอกกล๊าส เอฟซี ที่เพิ่งเปลี่ยนชื่อทีมเป็น บีจี ปทุม ยูไนเต็ด รวมไปถึง "มังกรโล่เงิน" โปลิศ เทโร เอฟซี รวมถึง 2 ทีมเหล่าทัพ อย่าง "อินทรีทัฟฟ้า" แอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล เอฟซี และ "ตะหานน้ำ" ราชนาวี เอฟซี ที่ร่วงตกชั้นไปตั้งแต่ฤดูกาลยังไม่จบ เราจะขอมาตัดเกรดว่าทีมใดบ้างจะมีสิทธิ์ลุ้นเลื่อนชั้น ทีมใดบ้างเป็นแค่ไม้ประดับ และทีมใดบ้างอาจจะต้องดิ้นรนหนีตกชั้น
- เต็งจ๋าลุ้นเลื่อนชั้น
ในส่วนทีมลุ้นเลื่อนชั้นกลับไปสู่ลีกสูงสุดของไทยอีกครั้งแน่นอนคงหนีไม่พ้นบรรดาบิ๊กทีม อย่าง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด และโปลิศ เทโร เอฟซี 2 ทีมที่เพิ่งร่วงตกชั้นลงมา เริ่มจาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ชื่อชั้นของนักฟุตบอลหลายคนยังคงน่ากลัวเสมอ พวกเขายังคงมีงบการทำทีมที่มากมายเช่นเคย รวมไปถึงบรรดาสปอนเซอร์ก็ยังให้การสนับสนุน แม้จะต้องเสีย ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ไปให้กับโออิตะ ทรินิต้า น้องใหม่เจลีก แต่พวกเขาก็ยังมีผู้เล่นดีกรีทีมชาติไทย อย่าง ธนบูรณ์ เกษารัตน์, ฉัตรชัย บุตรพรม รวมไปถึง เชาว์วัฒน์ วีรชาติ, สุรชาติ สารีพิมพ์ และแข้งนอกที่ฝีเท้าฉกาจ อย่าง โตติ, โรมูโล่, บาร์รอส ทาร์เดลลี, อิร์ฟาน ฟานดี ด้วยขุมกำลังเพียงเท่านี้ก็เพียงพอต่อการลุ้นเลื่อนชั้น แม้ผลการแข่งขันอุ่นเครื่องปรีซีซั่นจะไม่ค่อยเข้าตา แต่พอถึงฤดูกาลจริงๆ ก็คงเป็นทีมเต็งแน่ๆ ด้วยฝีไม้ลายมือการทำทีมของกุนซือจอมเลื่อนชั้น อย่าง ดุสิต เฉลิมแสน
ขณะที่ โปลิศ เทโร เอฟซี ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน แม้จะต้องเสีย อ่องธู ซูเปอร์สตาร์ทีมชาติเมียนมาที่ถือเป็นฐานแฟนคลับชาวอาเซียนเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาไปให้กับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด แต่ก็ยังคงน่ากลัวอยู่ดีภายใต้การคุมทีมของกุนซือที่รู้ทุกซอกทุกมุมของทีม อย่าง "โค้ชอ้น" รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค รวมถึงการเสริมทัพแข้งต่างชาติที่เรียกได้ว่า "ล้างบาง" ของเก่า นำเข้าผู้เล่นอย่าง ไอแซค ฮอนนี, อันโตนิโอ พิน่า, ควอน แด ฮี รวมถึง โจซิมาร์ เรียกได้ว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีแข้งไทยหลายคนที่มีประสบการณ์ระดับไทยลีกมาแล้ว อย่าง วิชาญ นันทะศรี, นิคม สมหวัง, จาตุรงณ์ พิมพ์คูณ, ชุมพล บัวงาม, อดิศักดิ์ ศรีกำปัง, นพพล ปิตะฝ่าย รวมไปถึง "กีรติอุส" กีรติ เขียวสมบัติ อดีตดาวยิงดีกรีทีมชาติไทย แค่นี้ก็เพียงพอต่อการลุ้นเลื่อนชั้นกลับไปลีกสูงสุดอีกครั้ง
- ทีมสอดแทรกหัวตารางลุ้นเลื่อนชั้น
แอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล เอฟซี แม้จะใช้บริการนักเตะไทยแทบยกชุดจากที่ร่วงตกชั้นมา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะเป็นทีมเต็งจ๋าที่จะเลื่อนชั้นกลับไปสู่ลีกสูงสุดอีกครั้ง เนื่องจากขุมกำลังแข้งไทยของพวกเขาดีกรียังสู้ 2 ทีมเต็งจ๋า อย่าง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด และโปลิศ เทโร เอฟซี ไม่ได้ จะดีหน่อยก็ตรงที่นักเตะต่างชาติที่เสริมทีมเข้ามาดูดีพอสมควร อย่าง แพทริค ฟล็อตต์มันน์ ปราการหลังออสเตรเลีย, เฟย์ซอล ชาเยสเตห์ มิดฟิลด์ทีมชาติอัฟกานิสถาน, เคย์น วินเซนต์ ที่คัมแบ็คกลับมาสู่ทีมอีกครั้ง ผนึกกำลังกับ เกร็ก ฮัวล่า ที่อยู่กับทีมมาตั้งแต่ปีก่อน ก็ยังพอจะลุ้นสอดแทรกได้
เช่นเดียวกับ อุบล ยูเอ็มที ที่แข้งหลายคนผ่านประสบการณ์การเล่นบนลีกสูงสุดมาแล้ว แม้จะดูเงียบในการเสริมทัพ แต่ก็จะประมาททีมนี้ไม่ได้ นอกจากนั้นยังมี เจแอล เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ที่สร้างปรากฎการณ์หลายอย่างให้กับวงการฟุตบอลไทยในหลายปีที่ผ่านมา ก็เป็นอีกทีมที่พร้อมจะสร้างเซอร์ไพรส์แอบลุ้นเลื่อนชั้น เช่นเดียวกับ หนองบัว พิชญ เอฟซี ที่ปีก่อนเกือบจะได้เลื่อนชั้นขึ้นมาลีกสูงสุดแล้ว แต่เลกสองดันไปแผ่วปลายชวดเลื่อนชั้นอย่างน่าเสียดาย ส่วนอีกหนึ่งทีมที่พร้อมสร้างเซอร์ไพรส์ลุ้นเลื่อนชั้นกับเขาด้วย หนีไม่พ้น อาร์มี ยูไนเต็ด อีกหนึ่งทีมเหล่าทัพ เนื่องจากชื่อชั้นของผู้เล่นก็ไม่ได้ขี้เหร่แล้ว ประกอบกับการทำทีมของกุนซือ ดาเนียล บลังโก้ ชาวอาร์เจนไตน์ ก็พร้อมมีทีเด็ดให้ทีมทหารบกมีลุ้นอีกครั้งในปีนี้ ถ้าช่วงเลกสองไม่แผ่วไปเสียก่อน
- กลางตาราง ลุ้นเลื่อนชั้นแบบเหนื่อยๆ
ศรีสะเกษ เอฟซี ภายใต้การคุมทีมของ "โค้ชฉ่วย" สมชาย ชวยบุญชุม ปีนี้อาจทำได้แค่ลุ้นพื้นที่กลางตารางเช่นเดิม แต่ถ้าพวกเขามีฮึดหน่อยก็อาจมีลุ้นเลื่อนชั้นกับเข้าได้บ้าง แต่ด้วยศักยภาพของผู้เล่นหลายคนไม่ค่อยดีเท่าไหร่คงเหนื่อยหนัก เช่นเดียวกับทีมอย่าง ระยอง เอฟซี, ไทยฮอนด้า เอฟซี, อุดรธานี เอฟซี, ราชนาวี เอฟซี ทีมเหล่านี้ไม่ใช่ว่าไม่ดี แต่มองจากภาพรวมหลายอย่าง ทั้งเรื่องของชื่อชั้นนักเตะ และงบประมาณการทำทีม ถ้ายืนระยะได้ยาวก็อาจจะมีลุ้น แต่ดูแล้วอาจทำได้แค่พื้นที่กลางตาราง
อย่างไรก็ตามกีฬาฟุตบอลนั้นยากคาดเดา ดั้งนั้นคงต้องรอติดตามกันว่าเมื่อเปิดลีกแล้วผลงานของแต่ละทีมจะทำได้ตามเป้า หรือต่ำกว่าเป้า ใครจะไปรู้อาจมีเซอร์ไพรส์ให้เราเห็นกันตั้งแต่นัดแรกก็ได้
