ขอพักวงสวิงจะลองไปวิ่งมาราธอน / พลโทนายแพทย์ สมศักดิ์ เถกิงเกียรติ

คอลัมน์ “Golf Healing” โดย “พลโทนายแพทย์ สมศักดิ์ เถกิงเกียรติ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกประจำโรงพยาบาลพระมงกุฎ และ โรงพยาบาลรามคำแหง มีประสบการณ์ในการดูแลผู้ป่วยมากกว่า 30 ปี somsak_doctor@hotmail.com”

“พี่หมอครับ…อาทิตย์หน้า เก่งจะไปวิ่งมินิมาราธอนครับ” พี่หมอทำหน้างงๆเจ้าเก่งจึงกล่าวต่อ “…เฮียซื้อตั๋วการกุศลให้เก่งไปวิ่งนะครับ” “วิ่งแถวไหนล่ะ? มีฝนมากรึเปล่า? พี่หมอเป็นห่วง “อ๋อ..อากาศดีครับ แต่เก่งไม่เคยวิ่งมาก่อน กลัวหัวใจวาย..เฮียเลยมาให้พี่หมอสอนวิธีวิ่งก่อนครับ”

- สิ่งที่นักวิ่งหน้าใหม่ควรรู้

คนยุคใหม่นิยมการวิ่งออกกำลังกายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนเรียกได้ว่าแทบไม่มีสัปดาห์ไหนที่ไม่มีงานวิ่งให้สมัครเข้าร่วมแข่งขัน สำหรับนักวิ่งหน้าใหม่ การวิ่งที่ปลอดภัยนั้นควรเริ่มด้วยการเดินเร็วเป็นระยะเวลาประมาณ 20-30 นาที ก่อนเพื่อดูการตอบสนองของร่างกายและเมื่อทำได้อย่างสม่ำเสมอจนคุ้นเคยแล้วจึงค่อยเพิ่มความเร็ว ความหนักและระยะทางในการวิ่งให้มากขึ้น นอกจากนั้นยังสามารถปรับความหนัก-เบา ในการวิ่ง โดยพิจารณาจากอัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งแบ่งเป็น 5 ช่วง ซึ่งการวิ่งในแต่ละช่วงให้ประโยชน์แตกต่างกันไป การวิ่งผสมผสานหลายช่วงจึงช่วยพัฒนาการวิ่งให้มีประสิทธิภาพและเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพได้เป็นอย่างดี แต่อย่างไรก็ตามมีนักวิ่งระยะทางไกลไม่น้อยที่ต้องจบชีวิตลงในสนามแข่งจากหัวใจวาย ความสัมพันธ์ระหว่างการวิ่งกับสุขภาพจึงเป็นที่สนใจศึกษาในวงการแพทย์ จากการศึกษาพบว่า การวิ่งอย่างหักโหมมากเกินไปสามารถส่งผลร้าย ทำให้หัวใจต้องทำงานหนักกว่าปกติ เกิดภาวะผนังหัวใจหนาหัวใจโตและส่งผลให้หัวใจวายได้ ดังที่พบในนักวิ่งมาราธอนหลายราย ดังนั้นหากจุดมุ่งหมายของการวิ่งของเราคือสุขภาพที่ดีและอายุยืนยาว ก็ควรวิ่งพอดีๆทั้งระยะทางและความหนักของการวิ่งให้เหมาะสมกับตัวอย่าง

และสิ่งที่อยากเน้นย้ำ สำหรับนักวิ่งหน้าใหม่ คือ

1. การยืดกล้ามเนื้อก่อนและหลังการออกกำลังกาย สำคัญมาก สำหรับการป้องกันการบาดเจ็บ

2. อย่าลืมบริโภคคาร์โบไฮเดรตอย่างพอเพียง เพื่อไม่ให้ร่างกายขาดแหล่งพลังงานในการวิ่ง เพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด

3. การวิ่งที่ถูกต้องใช้กลางฝ่าเท้าลง แทนการเทน้ำหนักไปปลายเท้าหรือส้นเท้า เพื่อลดแรงกระแทกต่อข้อต่อและกระดูก

4. ควรใส่รองเท้าที่ออกแบบ เพื่อการวิ่งโดยเฉพาะ และพอดีกับเท้าเราด้วย

5. อย่าตื่นตัวเอง ถ้าร่างกายบอกว่าไม่ไหวหรือเจ็บส่วนไหน เพราะอาจทำให้เกิดอาการบาดเจ็บมากขึ้นหรือถาวรได้

6. ควรตรวจดูอัตราการเต้นของหัวใจ ขณะวิ่งเสมอ การวิ่งด้วยอัตราการเต้นของหัวใจสูงเป็นเวลานานนั้น เป็นอันตรายมากกว่าเป็นประโยชน์ นาฬิกาสำหรับวิ่ง สามารถช่วยคุณตรวจสอบได้