เชส ฟาเบรกาส ส่งสัญญาณอำลา เชลซี เกม พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ที่เปิดรัง สแตมฟอร์ด บริดจ์ เสมอ เซาธ์แฮมป์ตัน 0-0 เมื่อวันที่ 2 มกราคม ที่ผ่านมา
เชส วัย 31 ปี ไม่อยู่ในแผนการทำทีมของ เมาริซิโอ ซาร์รี่ ที่ผ่านมา ยังไม่ได้สตาร์ทเกม พรีเมียร์ ลีก ปีนี้แม้แต่นัดเดียว โดยเกมล่าสุดถูกส่งลงสนามนาที 68 แทน รอส บาร์คลีย์ ซึ่งก็น่าจะเป็นเกมสุดท้ายภายใต้สีเสื้อ เชลซี ที่ย้ายมาเมื่อปี 2014
ถือว่าย่างเข้าฤดูกาลที่ 16 ในการเล่นระดับสูงสุดของ เชส หลังแจ้งเกิดกับ อาร์เซนอล ด้วยการเป็นนักเตะอายุน้อยสุดของทีม 16 ปี 177 วัน ที่ได้เล่นชุดใหญ่ ซึ่งแน่นอนเกิดจากการปลุกปั้นของกุนซือตาเพชรอย่าง อาร์แซน เวนเกอร์
เชส คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ปี 2005 กับ อาร์เซนอล รวมถึงเข้าชิง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปี 2006 แม้จะกลายเป็นกำลังหลัก แต่ไม่อาจพา “ปืนโต” ประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ถ้วยใหญ่
ทำให้ย้ายกลับไปอยู่กับ บาร์เซโลน่า ที่จากอคาเดมี่มาเมื่อตอนเด็กๆ ซึ่งก็ได้แชมป์ ลา ลีกา สเปน, โกปา เดล เรย์, ซูเปอร์โคปา เดอ เอสปันญ่า, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ และ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ แต่ก็ยังไม่ได้แชมป์ยุโรป ก่อนย้ายกลับ เชลซี มาได้แชมป์ พรีเมียร์ ลีก 2 สมัย, เอฟเอ คัพ และ ลีก คัพ
ส่วนทีมชาติสเปนไม่ต้องพูดถึง เชส อยู่ในชุด 3 แชมป์ติดต่อกันที่สุดยิ่งใหญ่ คือ ยูโร 2008, บอลโลก 2010 และ ยูโร 2012
สถานีต่อไปของ เชส คาดว่า จะเป็น โมนาโก ร่วมงานกับอดีตเพื่อนร่วมค่าย ก็คือ เธียร์รี่ อองรี ที่ตอนนี้คุมทัพอยู่ โดยน่าจะเซ็นสัญญาเป็นเวลา 2 ปีครึ่ง