ภายหลังจากจบการแข่งขันเทควันโดรายการสุดท้ายของปี Wuxi 2018 World Taekwondo Grand Slam Series ที่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน
โดย "เทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ยอดนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย สามารถคว้าเหรียญทองรายการนี้ด้วยการเอาชนะ ฮา มิน อาห์ จากเกาหลีใต้ พร้อมรับเงินรางวัล 70,000 เหรียญสหรัฐฯ และเป็นนักเทควันโดมือ 1 ของโลกในรุ่น 49 กิโลกรัม
ล่าสุด "เทนนิส" ได้โพสต์ถึงความยากลำบากเมื่อครั้งอดีตที่คุณพ่อเคยขับรถส่งแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทย แต่ประสบอุบัติเหตุจนคุณพ่อได้รับบาดเจ็บ รวมถึงตนเองด้วย แต่ก็ยังกัดฟันนั่งรถประจำทางเดินทางต่อมาเพื่อแข่งขันว่า
"เมื่อ 11 ปีก่อน ตอนหนูอายุ 10 ขวบ พ่อขับรถพาหนูจากสุราษฎร์ฯ ขึ้นมาแข่งชิงแชมป์ประเทศไทยที่กรุงเทพฯ แต่เกิดอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำที่ จ.ชุมพร เป็นคนอื่นคงกลับบ้านไปแล้ว พ่อบาดเจ็บที่แขน ข้อศอก มีแผลเต็มไปหมด หนูก็เจ็บแผลถลอกที่ขา แต่พ่อบอกหนูว่า ยังไงก็ตั้งใจมาแข่งแล้ว ต้องไปต่อ พ่อซื้อตั๋วรถทัวร์คืนนั้น เพื่อให้หนูไปชั่งน้ำหนักให้ทัน"
"ขอบคุณความทุ่มเทของพ่อที่เป็นแบบอย่าง สอนหนูให้ไม่ยอมแพ้ พ่อไม่ได้แค่สอน หรือสั่งๆ อย่างเดียว พ่อจะทำไปกับหนูด้วย หนูยังจำทุกๆเช้าวันเสาร์-อาทิตย์ได้อยู่เลย พ่อปลุกหนูตอน 8โมงเช้า เพื่อไปวิ่งด้วยกัน กับแดดที่แสนจะร้อน กับทางที่ยาวไกลในถนนชนบท และการ์ตูนตอนเช้าที่หนูไม่เคยได้ดูเลย ตอนนั้นก็คิดนะ พ่อไม่มีเพื่อนไปวิ่งด้วยเหรอ(ฮา)"
"แต่ตอนนี้รู้แล้วนะพ่อ พ่ออยากให้หนูมีร่างกายที่แข็งแรง มีสุขภาพดี แล้วตอนนั้นก็เคยไม่เข้าใจพ่อนะ พ่อจะบังคับให้เล่นกีฬาทำไม ตอนเย็นหลังเลิกเรียน การบ้านก็เยอะ ทำไม่ทัน แล้วยังต้องไปซ้อม เหนื่อยจากการเรียนแล้วไม่พอ ทุกๆเย็นหนูต้องไปซ้อมที่ยิม หนูงอแง หนูร้องไห้ หนูไม่อยากเล่นกีฬา แต่พ่อก็บังคับหนูไปได้ทุกวัน(ฮา)"
"อยากขอบคุณพ่อคนนี้ที่ผลักดันลูกมาจนถึงวันนี้ ตอนนี้มันเกินฝันของเราแล้ว แต่ยังเหลืออีกหนึ่งอย่างที่พ่อฝันไว้ อีก 2 ปีข้างหน้า หนูอยากทำมันให้ได้ หนูจะพยายามให้มากที่สุดเท่าที่ลูกคนนี้จะทำได้"
สำหรับ "เทนนิส" พาณิภัค ได้สิทธิ์ร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เรียบร้อยแล้ว และยังเป็นความหวังในการคว้าเหรียญทองของทัพจอมเตะไทยอีกด้วย