xs
xsm
sm
md
lg

กว่าจะมีวันนี้! "ชนาธิป" เผยโดนด่าทุกวันหลังเปลี่ยนโค้ช "คอนซาโดเล่"

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภายหลังจากฤดูกาล 2017 คอนซาโดเล่ ซัปโปโร หนีตกชั้นได้สำเร็จ จากนั้นฤดูกาล 2018 ในศึกเจลีก มีการเปลี่ยนแปลงหัวหน้าผู้ฝึกสอนจาก ชูเฮ โยโมดะ มาเป็น มิไฮโล เปโตรวิช กุนซือชาวเซอร์เบีย

ซึ่งการมาของ เปโตวิช ทำให้มีการปรับเปลี่ยนระบบหลายอย่างในทีม ก่อนจะนำทีมจบอันดับ 4 ฤดูกาล 2018 โดย ชนาธิป สรงกระสินธ์ ดาวเตะทีมชาติไทย เผยถึงเบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ว่า

"สวัสดีครับทุกคน สำหรับ ฤดูกาล 2018 ได้จบลงไปแล้ว ก่อนอื่นอยากจะเล่าตั้งแต่ทีมเก็บตัววันที่ 15 มกราคม 2018 ที่จังหวัด Okinawa ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ซ้อมหนักมาก แล้วตัวผมเองก็ไม่รู้หรอกจะได้ลงตัวจริงมั้ย เพราะตอนนั้นเปลี่ยนโค้ช ซึ่ง โค้ช มิซ่า ก็เข้ามาปรับระบบใหม่ที่ผมไม่เคยซ้อมมาก่อนเลยไม่ชิน ผมเลยไม่เข้าใจระบบ ผมโดนด่าทุกวันเลย โค้ชก็ดุด่า อยากให้เราพัฒนา แต่ผมก็พยายามทำให้ได้ เพราะผมอยากพัฒนา ตอนอุ่นเครื่องผมก็ไม่ได้ลงเล่นกับชุดตัวจริง"

"แต่ผมก็พยายามซ้อมให้เข้ากับระบบ ที่โค้ชต้องการ จบแคมป์ที่โอกินาว่า แล้วมุ่งหน้าสู่ฮาวาย ตอนที่ไปฮาวาย เวลาต่างกับญี่ปุ่นประมาณ 17 ชั่วโมง ไปประมาณ 10 วัน ก็เป็นประสบการณ์ที่ดี ซ้อมเช้า แล้วซ้อมเย็น เวลาในแต่ละวัน คือ ซ้อม กิน นอน กลับสู่แดนปลาดิบอีกครั้ง เดินไปเข้าแคมป์ต่อที่ คูมาโมโต้ เก็บตัวฝึกซ้อมครั้งสุดท้ายก่อนเข้าฤดูกาล ก็ตามสไตล์ มีอุ่นเครื่องอีกครับ"

"ถ้าเราเล่นได้ตามระบบที่โค้ชต้องการ เราก็จะได้ลงตัวจริงกับนัดแรกที่จะมาถึง แล้วผมก็ ได้รับความไว้วางใจ โค้ช มิซ่า สอนว่า เล่นฟุตบอล ต้องคิด ต้องวิ่งให้เยอะ แล้วต้องมี timing ดีเหมาะสม โค้ชมิซ่า จะเรียก ผมว่า ซันจิ แปลว่าลูกชาย เขาบอกกับผมว่า ได้บอล เลี้ยงเข้ากรอบ พาบอลไปข้างหน้า แล้วก็ยิง ไม่ต้องเกรงใจ เราคือนักเตะต่างชาติ เราต้องเล่นให้แตกต่าง ผมอยากจะขอบคุณ โค้ช สต๊าฟฟ์ เพื่อนร่วมทีม แฟนบอลที่คอยสนับสนุนทีม ขอบคุณพี่ชราทิ จนทำให้ทีม จบลำดับ ที่ 4 ผมรู้สึกมีความสุข แล้วตัวผมในปีนี้ก็ มีสถิติที่ดีมากครับ #ขอบคุณมากๆครับ #wearesapporo⚽️ #family #ありがとうございます"

ดูโพสต์นี้บน Instagram

สวัสดีครับทุกคน สำหรับ ฤดูกาล 2018 ได้จบลงไปแล้ว ก่อนอื่นอยากจะเล่าตั้งแต่ทีมเก็บตัววันที่ 15 มกราคม 2018 ที่จังหวัด Okinawa ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ซ้อมหนักมาก แล้วตัวผมเองก็ไม่รู้หรอกจะได้ลงตัวจริงมั้ย เพราะ ตอนนั้นเปลี่ยนโค้ช ซึ่ง โค้ช มิซ่า ก็เข้ามาปรับระบบใหม่ที่ผมไม่เคยซ้อมมาก่อนเลยไม่ชิน ผมเลยไม่เข้าใจระบบ ผมโดนด่าทุกวันเลย โค้ชก็ดุด่า อยากให้เราพัฒนา แต่ผมก็พยายามทำให้ได้ เพราะผมอยากพัฒนา ตอนอุ่นเครื่องผมก็ไม่ได้ลงเล่นกับชุดตัวจริง แต่ผมก็ พยายามซ้อมให้เข้ากับระบบ ที่โค้ชต้องการ จบแคมป์ที่ Okinawa แล้วมุ่งหน้าสู่ Hawaii ตอนที่ไป Hawaii เวลาต่างกับญี่ปุ่นประมาณ 17 ชั่วโมง ไปประมาณ 10 วัน ก็เป็นประสบการณ์ที่ดี ซ้อมเช้า แล้วซ้อมเย็น เวลาในแต่ละวัน คือ ซ้อม กิน นอน 😂🤪 กลับสู่แดนปลาดิบอีกครั้ง เดินไปเข้าแคมป์ต่อที่ Kumamoto เก็บตัวฝึกซ้อมครั้งสุดท้ายก่อนเข้า ฤดูกาล ก็ตามสไตล์ มีอุ่นเครื่องอีกครับ ถ้าเราเล่นได้ตามระบบที่โค้ชต้องการ เราก็จะได้ลงตัวจริงกับนัดแรกที่จะมาถึง แล้วผมก็ ได้รับความไว้วางใจ โค้ช มิซ่า สอนว่า เล่นฟุตบอล ต้องคิด ต้องวิ่งให้เยอะ แล้วต้องมี timing ดีเหมาะสม โค้ชมิซ่า จะเรียก ผมว่า ซันจิ แปลว่าลูกชาย เขาบอกกับผมว่า ได้บอล เลี้ยงเข้ากรอบ พาบอลไปข้างหน้า แล้วก็ยิง ไม่ต้องเกรงใจ เราคือนักเตะต่างชาติ เราต้องเล่นให้แตกต่าง ผมอยากจะขอบคุณ โค้ช สต๊าฟ เพื่อนร่วมทีม แฟนบอลที่คอยสนับสนุนทีม ขอบคุณพี่ชราทิ จนทำให้ทีม จบลำดับ ที่ 4 ผมรู้สึกมีความสุข แล้วตัวผมในปีนี้ก็ มีสถิติที่ดีมากครับ #ขอบคุณมากๆครับ #wearesapporo⚽️ #family #ありがとうございます

โพสต์ที่แชร์โดย Chanathip Songkrasin (@jaychanathip) เมื่อ




กำลังโหลดความคิดเห็น