เตรียมระเบิดศึกโม่แข้งฟุตบอลเยาวชนแห่งชาติ "ไทยแลนด์ ยูธ ลีก" ประจำฤดูกาล 2018-19 ยอดทีมจากทั่วภูมิภาค รวม 319 ทีม ร่วมทำการแข่งขัน "โค้ชเอก" นำทัพ "หมูป่า" ร่วมแข่งรุ่น 15 และ 19 ปี หวังเฟ้นหายอดแข้งป้อนสู่เวทีลูกหนังอาชีพ ต่อยอดฟุตบอลไทยลุยฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย
เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2561 ที่ห้องประชุมชั้น 25 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้เกียรติเป็นประธานแถลงข่าวการแข่งขันฟุตบอลลีกเยาวชนแห่งชาติ ฤดูกาล 2018-19 ร่วมด้วยนายทนุเกียรติ จันทร์ชุม ผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย, นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล รักษาการเลขาธิการ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ พร้อมด้วยตัวแทนนักฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดใหญ่ รวมถึงตัวแทนเยาวชนที่เคยผ่านการเล่นฟุตบอลลีกเยาวชนแห่งชาติร่วมในงานแถลงข่าว
นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า "รัฐบาลได้ให้ความสำคัญและให้การสนับสนุนการพัฒนากีฬาฟุตบอลมาโดยตลอด และยินดีอย่างยิ่งที่เห็นความสำเร็จต่างๆของฟุตบอลไทยอย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่าการร่วมมือกันจัดการแข่งขันฟุตบอลลีกเยาวชนแห่งชาติจะช่วยสร้างผลผลิตนักฟุตบอลเยาวชนคุณภาพมากยิ่งขึ้น เริ่มพัฒนาตั้งแต่เยาวชนรุ่นอายุต่ำกว่า 13 ปี และรุ่นที่โตขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้อนให้กับสโมสรในลีกอาชีพไทยในทุกระดับ รวมถึงมีเยาวชนป้อนสู่ระดับทีมชาติในอนาคต นับเป็นการวางพื้นฐานฟุตบอลไทยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นอย่างยั่งยืน เพื่อต่อยอดความสำเร็จไปถึงเป้าหมายของวงการฟุตบอลไทย คือ การเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย"
ด้าน นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม ผอ.ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย กล่าวว่า หนึ่งในยุทธศาสตร์ของการกีฬาแห่งประเทศไทย คือ การพัฒนาฟุตบอลระดับเยาวชนอย่างจริงจังด้วยการจัดการแข่งขันฟุตบอลลีกเยาวชนแห่งชาติ เป็นโครงการที่การกีฬาแห่งประเทศไทยผลักดันมาตั้งแต่ต้น โดยเน้นแผนการวางรากฐานลีกเยาวชนให้แข็งแกร่งเพื่อต่อยอดไปจนถึงชุดใหญ่ ก้าวสู่เป้าหมายนำฟุตบอลไทยร่วมแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายให้ได้ในอนาคต
"การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้พูดคุยกับหลายๆฝ่ายทั้งสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ตัวแทนสโมสรชั้นนำของเมืองไทย ทั้ง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด, บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, ชลบุรี เอฟซี, ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด และอีกหลายๆทีม รวมถึงภาคเอกชนที่ให้การสนับสนุนด้านฟุตบอลเยาวชนอย่างต่อเนื่อง ต่างเห็นพ้องต้องการจะสร้างลีกเยาวชนให้มีความสำคัญยิ่งในการวางฐานฟุตบอลให้มั่นคงดั่งที่หลายชาติชั้นนำ เช่น เยอรมนี, สเปน, เนเธอร์แลนด์, อิตาลี, อังกฤษ หรือญี่ปุ่น ชาติเหล่านี้ใช้การแข่งขันฟุตบอลเยาวชนแห่งชาติเป็นโมเดลในการสร้างนักฟุตบอลตั้งแต่ระดับเยาวชนทำให้เราริเริ่มจัดฟุตบอลลีกเยาวชนแห่งชาติขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2559"
"โดยเราจะแบ่งเป็น 4 รุ่นอายุ ตั้งแต่อายุต่ำกว่า 13 ปี, ไม่เกิน 15 ปี, ไม่เกิน 17 ปี และไม่เกิน 19 ปี ซึ่งสิ่งที่น่าดีใจคือกระแสตอบรับเกินความคาดหมาย โดยในฤดูกาล 2018-19 มีสโมสรทั่วประเทศร่วมเข้าแข่งขันมากที่สุดรวม 4 รุ่น 489 ทีมนับตั้งแต่รอบคัดเลือด มากกว่าฤดูกาล 2017-18 ที่มี 394 ทีม ซึ่งรูปแบบการแข่งขันในฤดูกาลนี้ แบ่งออกเป็น 8 โซน ได้แก่ โซนภาคกลาง, อีสานตอนบน, อีสานตนอล่าง, เหนือ, ใต้, ตะวันออก, ตะวันตก, โซนกรุงเทพและสมุทรปราการ แข่งขันแบบพบกันหมด โดยได้เริ่มรอบเพลย์ออฟ (รอบคัดเลือก) ในแต่ละโซนไปแล้วเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2561 และขณะนี้ได้ทีมมาเล่นในรอบ "ลีกโซน" แล้ว จาก 8 โซน ใน 4 รุ่นอายุ เป็นจำนวนทั้งหมด 319 ทีม เริ่มแข่งขันตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2561 เป็นต้นไป"
ขณะที่ นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล กล่าวว่า "ระยะ 7-8 ปีที่ผ่านมา เป็นปีทองของวงการฟุตบอลไทย ทั้งลีกสูงสุด คือ โตโยต้า ไทยลีก ฟุตบอลลีกอาชีพอันดับหนึ่งของไทยที่ถือเป็นลีกอันดับหนึ่งของอาเซียน ณ เวลานี้ รวมถึง เอ็ม-150 แชมเปียนชิพ หรือ T2 และลีกรองๆลงไป เป็นการแข่งขันที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากต่อเนื่องกันมาโดยตลอด จากความสำเร็จของฟุตบอลลีกอาชีพในระดับต่างๆทำให้สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ร่วมกับภาครัฐบาล คือ การกีฬาแห่งประเทศไทย มีแนวคิดที่จะพัฒนาฟุตบอลเริ่มตั้งตั้งแต่ระดับเยาวชนอย่างจริงจัง จึงเป็นที่มาของการจัดฟุตบอลลีกเยาวชนแห่งชาติขึ้นเป็นครั้งที่ 3 ในปีนี้ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อพัฒนาทักษะฟุตบอลของเยาวชน รวมทั้งเปิดโอกาสให้นักฟุตบอลเยาวชน ตัวแทนอำเภอ จังหวัด หรือสโมสรจากภูมิภาคต่างๆทั่วประเทศ ได้เพิ่มพูนประสบการณ์การแข่งขันในลีกมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง ด้วยเป้าหมายพาทีมชาติไทยไปสู่ฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายในอนาคต
ทั้งนี้ การแข่งขันฟุตบอลเยาวชนแห่งชาติ ฤดูกาล 2018 จะเริ่มทำการแข่งขันในรอบ "ลีกโซน" ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2561 เป็นต้นไป โดยในฤดูกาลนี้ ทีม "หมูป่า อะคาเดมี" สามารถผ่านรอบคัดเลือกเข้ามาเล่นในรอบลีกโซนได้ในรุ่นอายุ 15 และ 19 ปี ของโซนภาคเหนืออีกด้วย