สมจิตร จงจอหอ อดีตนักชกเหรียญทองโอลิมปิก ออกมาค้านการห้ามเด็กต่ำกว่า 12 ปี ชกมวย รับตัวเองก็ผ่านการเป็นมวยเด็กมาจนประสบความสำเร็จได้ ชี้ไปห้ามเด็กแว้นดีกว่า
จากกรณีที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ อยู่ระหว่างการร่างแก้ไข พ.ร.บ.กีฬามวย พ.ศ.2542 โดยจะมีการระบุห้ามนักมวยอายุต่ำกว่า 12 ปี ขึ้นชก เนื่องจากเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของเด็กและเยาวชน ซึ่งผู้คนในแวดวงกีฬามวยไทย ต่างออกมาต่อต้านกรณีนี้
ล่าสุด สมจิตร จงจอหอ นักชกเหรียญทองโอลิมปิก 2002 ที่เกาหลีใต้ ซึ่งปัจจุบันผันตัวมารับงานพิธีกรทางโทรทัศน์ออกมาโพสต์แสดงความไม่เห็นด้วยการการห้ามนักชกอายุต่ำกว่า 12 ปี ขึ้นสังเวียนว่า
"อดีตผมเริ่มต้นตั้งแต่แปดขวบ เพราะมีแรงบันดาลใจและมีเป้าหมายที่ได้ชกมวยหาเงินเลี้ยงชีพ ผมเติบโตมาในครอบครัวที่ยากจนต้องดิ้นรนและฟันฝ่าในวิถีชีวิตบนสังเวียนผ้าใบด้วยความอดทนความเพียรพยายามทำให้ชีวิตถึงมีวันนี้ถึงแม้ว่าหลายอาชีพหลายคนอาจจะไม่สำเร็จ แต่ผมเชื่อนะครับว่าจุดเริ่มต้นของทุกคนต้องมี เพราะฉะนั้นน้องน้องนักมวยที่ยังเด็กอยู่ความฝันของเขา ก็คือดิ้นรนไปคว้าหาความสำเร็จ แต่เชื่อนะครับว่าในวิถีการเป็นนักมวยนั้น เรื่องแรกที่ได้คือสุขภาพที่แข็งแรง ต่อมาเขาก็ไม่ยุ่งยาเสพติด เพราะเขามีหน้าที่ต้องชกมวย และนักมวยส่วนใหญ่เป็นคนดี เพราะว่าเขารู้แพ้รู้ชนะรู้อภัย จงอย่าขัดขวางโอกาสของน้องๆเลยครับ เพราะชีวิตของคนเรามันเลือกเกิดไม่ได้"
"ถ้าครอบครัวผมมีฐานะที่ดีผมคงไม่เลือกที่จะชกมวยหรอกครับ และมวยนี่แหละครับที่ทำให้ผมมีถึงทุกวันนี้ได้ ชีวิตมันเริ่มต้นจากพลอาสา ต่อด้วยนายสิบ ต่อด้วยร้อยตรี ร้อยโทและร้อยเอก(นายทหารชั้นสัญญาบัตร)และอีกหลายคนที่เป็นนักมวยและประสบความสำเร็จเป็นเจ้าของธุรกิจเป็นนักการเมืองเรียนจบด็อกเตอร์และอีกหลายๆคนที่เป็นคนเก่งของสังคมเป็นบุคลากรที่ดีของสังคม"
"ส่วนผมที่มีโอกาสทางสังคมได้นั้นมันก็ คือผลพวงจากการชกมวยตั้งแต่แปดขวบ เรามาลองแก้ไขตรงอื่นดีไหมครับเช่นไปดูเด็กอายุไม่เกิน 12 ปีห้ามขี่มอเตอร์ไซด์แว้น เพราะมันเป็นอันตรายต่อตัวเขาแล้วก็สังคมนะครับ ลงไปดูเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีที่ติดยาเสพติดดีกว่าไหมครับ ขอจงเชื่อพวกเราคนวงการมวยนะครับ กีฬามวยเป็นกีฬาประจำชาติเพราะฉะนั้นคนที่จะเรียนจะเล่นต้องเริ่มตั้งแต่เด็กครับ(ผมเจ็บมาเยอะ)"