อเล็กซานเดอร์ ซเวเรฟ นักเทนนิสหนุ่มมือ 4 ของโลกจากเยอรมนี ขอบคุณ พ่อ-แม่ ของตัวเองที่สนับสนุนอย่างสุดกำลังจนมีวันแห่งความสำเร็จ ขณะที่ บอริส เบ็คเกอร์ ตำนานหวดเมืองเบียร์ ยกให้เป็นอนาคตใหม่แห่งวงการเทนนิสโลก
นักหวดวัย 20 ปี ประสบความสำเร็จครั้งสำคัญเมื่อปราบ โนวัค ยอโควิช มือ 1 โลกจากเซอร์เบีย 2-0 เซต 6-4, 6-3 ก่อนชูถ้วยแชมป์ เอทีพี ไฟนอลส์ รายการใหญ่ส่งท้ายปีที่อังกฤษ เมื่อคืนวันที่ 18 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยก่อนถึงนัดชิงก็งัดฟอร์มอัด โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ขวัญใจแฟนๆร่วงแบบเซอร์ไพรส์
ซเวเรฟ มีผลงานที่ดียิ่งในปี 2018 จากการคว้าแชมป์ที่ วอชิงตัน, มาดริด และ มิวนิค รวมถึงรายการใหญ่ส่งท้ายปี ก่อนการันตีจบตำแหน่งท็อป 4 เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ซึ่งเจ้าตัวก็บอกจะมีวันนี้ไม่ได้หากไม่ได้รับการสนับสนุนที่ดีจากครอบครัว โดยเฉพาะคุณพ่อที่เป็นโค้ชให้ตั้งแต่เด็ก
หวดหนุ่มเมืองเบียร์ กล่าวถึง อเล็กซานเดอร์ ซีเนียร์ ผู้เป็นพ่อว่า "เขาเป็นโค้ชคอยสอนผมมาตลอด 21 ปี จะให้พูดขอบคุณเท่าไรก็คงไม่พอ ดังนั้นช่วงเวลาที่ได้โอบกอดเขานั้นมีความหมายยิ่ง ขณะเดียวกันเขาเองก็รู้สึกตื้นตันใจด้วย"
"เวลาอยู่นอกสนามเขาจะเป็นคนนิ่งๆ แต่เมื่ออยู่ในคอร์ตเราจะช่วยกันทำงานอย่างหนัก พ่อของผมเป็นดังหัวใจก็ว่าได้ และเป็นคนที่นุ่มนวล ส่วนเป้าหมายปีหน้าผมยังไม่ได้คิดอะไร ตอนนี้ขอไปพักผ่อนที่ดูไบและมัลดีฟส์ก่อนสัก 2-3 วัน" ซเวเรฟ กล่าว
ส่วน บอริส เบ็คเกอร์ นักหวดผู้ยิ่งใหญ่แห่งเยอรมนี ก็ชื่นชมฝีมือนักหวดรุ่นน้องและเชื่อมั่นว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นดาวดวงใหม่ที่แข็งแกร่งเทียบเท่ารุ่นพี่ทั้ง โรเจอร์ เฟเดอเรอร์, ราฟาเอล นาดาล และ โนวัค ยอโควิช จนเรียกได้ว่าพาวงการเทนนิสสู่ยุคใหม่
"ผมพูดมาหลายหนแล้วว่าวงการเทนนิสต้องการผู้เล่นหน้าใหม่และเป็นผู้เล่นแข็งแกร่ง เขาพิสูจน์ให้เราเห็นแล้วว่านี่คือคนรุ่นใหม่ที่ยอดเยี่ยม การเอาชนะ โนวัค ยอโควิช ในรอบชิงชนะเลิศถือเป็นช่วงเวลาสำคัญ รวมถึงการเอาชนะ เฟเดอเรอร์ นั่นแหละคือสิ่งที่ยิ่งใหญ่ในก้าวต่อไป"