คอลัมน์ “สกอร์บอร์ด” โดย “แมวดำ”
เมื่อหลายปีก่อน ชื่อของ "ปุ๊กลุก" รัตติกาล กุลน้อย ถูกหยิบยกมาว่านี่แหละคือสุดยอดรุกกี้หญิงแห่งวงการยกน้ำหนักไทย ที่น่าจะมีชื่อก้าวไปลุ้นเหรียญทองโอลิมปิกเหมือนดังเช่นนักกีฬารุ่นพี่อย่าง อุดมพร พลศักดิ์, ปวีณา ทองสุก ที่เคยทำได้จนถีบตัวจากนักกีฬาธรรมดา สู่ความเป็นซูเปอร์สตาร์วงการกีฬาไทย และความสำเร็จที่นอกจากจะนำพาชื่อเสียงมาแล้ว ยังนำพาเงินอัดฉีดนับล้านจากทั้งภาครัฐและเอกชนมาช่วยสร้างฐานะ รวมถึงเป็นบันไดสู่การรับราชการทหารของทั้งคู่
โดยรัตติกาล สร้างชื่อในฐานะนักกีฬาดาวรุ่งในปี พ.ศ. 2553 ด้วยการคว้าเหรียญทองยกน้ำหนักยุวชนชิงแชมป์เอเชีย, เหรียญเงินชิงชนะเลิศสโมสรเอเชีย และ เหรียทองแดงเยาวชนโลก ทำให้ในรุ่นน้ำหนัก 58 กิโลกรัมหญิง เธอกลายเป็นตัวแทนของประเทศไทย เข้าร่วมการแข่งขันซีเกมส์ ในปีถัดมาที่อินโดนีเซีย และก็ไม่ทำให้สมาคมยกน้ำหนักแห่งประเทศไทย ผิดหวัง เมื่อสามารถคว้าเหรียญทองมาครองได้
แม้จะสร้างผลงานได้ดีในรุ่น 58 กิโลกรัมหญิง แต่ในการแข่งขันยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ค.ศ.2012 ที่เกาหลีใต้ "ปุ๊กลุก" ถูกดันขึ้นไปยกในรุ่น 63 กิโลกรัมหญิง ปล่อยให้ "เก๋" ประภาวดี เจริญรัตนธารากูล ที่เคยได้เหรียญทองโอลิมปิก 2008 จากรุ่น 53 กิโลกรัม มายกรุ่น 58 กิโลกรัมแทน และ "เก๋" ก็ได้เหรียญเงินรายการดังกล่าว ส่วน รัตติกาล แม้ไม่ถึงเหรียญทอง แต่ก็เก่งพอจะได้ 2 เหรียญทองแดง จากท่าคลีนแอนด์เจิร์ก กับ น้ำหนักรวม
เมื่อถึงการแข่งขันโอลิมปิก 2012 ที่ลอนดอนเกมส์ ปรากฎว่าสมาคมยกน้ำหนักไทย ปรับทัพกันใหม่ โดยส่ง "แต้ว" พิมศิริ ศิริแก้ว ไปแข่งขันรุ่น 58 กิโลกรัมหญิง ส่วน รัตติกาล ก็ลดน้ำหนักตัวเองลงมารุ่น 58 กิโลกรัมหญิงเช่นกัน ปรากฎว่าวันนั้น "แต้ว" คว้าเหรียญเงิน ส่วน รัตติกาล ในวัยเพียง 19 ปีนั้นยกน้ำหนักรวมได้ 234 กิโลกรัม แพ้ให้กับ ยูลิยา คาลินา นักกีฬาจากยูเครนที่ยกได้ 235 กิโลกรัม ชวดเหรียญทองแดง เพราะยกได้น้อยกว่า 1 กิโลกรัมเท่านั้น
แม้ความพ่ายแพ้มาเยือน แต่ความพยายามของ "ปุ๊กลุก" ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง เธอกลับมาฟิตซ้อมเตรียมร่างกายกันใหม่อีกครั้ง และกลับมาคว้าเหรียญทองแดงในเอเชียนเกมส์ 2014 ที่เกาหลีใต้ รุ่นน้ำหนัก 58 กิโลกรัมเดิมที่ตัวเองถนัด และยังเป็นเหรียญแรกที่ทีมชาติไทยได้จาก "อินชอนเกมส์ 2014" เป็นใบเบิกทางไปแก้ตัวในโอลิมปิก "ริโอเกมส์ 2016" เที่ยวนี้ "ปุ๊กลุก" เปลี่ยนชื่อจาก รัตติกาล ที่แปลว่ากลางคืน มาเป็น "ศิริภุช" ซึ่งคำว่า ภุช มีความหมายในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานว่า "แขน, งวงช้าง" ส่วน "ศิริ" ก็หมายถึงความรุ่งเรืองสว่างสุกใส เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับตัวเอง และเพื่อความเป็นศิริมงคล
แต่การแข่งขันวันนั้นชื่อใหม่ของ "ปุ๊กลุก" ช่วยอะไรเธอไม่ได้ เมื่อยกท่าสแนทซ์ ได้ 108 กิโลกรัม แต่ในท่าคลีนส์แอนด์เจิร์ก ยกไม่ผ่านถึง 3 ครั้ง ที่น้ำหนัก 132 กิโลกรัม พร้อมกับปิดฉากโอลิมปิกครั้งสุดท้ายของตัวเองแบบเจ็บปวด ซึ่งคุณแม่ของเธอให้สัมภาษณ์ว่า ถึงจะพลาดเหรียญโอลิมปิก 2 ครั้ง 2 ครา แต่ก็ภูมิใจในตัวลูกสาวคนนี้ เพราะลำแขนอันแข็งแกร่งของเธอได้แบกหามครอบครัวนี้ตั้งแต่ส่งน้องๆ 3 คนเรียนหนังสือ ดูแลคุณยาย และดูแลตัวคุณแม่มาเป็นอย่างดี กระทั่งเลิกราจากการเป็นนักกีฬาแล้ว ก็ยังทำมาหากินด้านการเกษตรและขายของตามตลาดนัด อย่างไม่ได้ขัดเขินที่บ้านเกิดจังหวัดสุรินท์
กระทั่งมีคำสั่งฟ้าผ่าจากคณะกรรมการโอลิมปิก ระบุว่า ยูลิยา คาลินา นักกีฬาจากยูเครนที่ได้เหรียญทองแดง "ลอนดอนเกมส์" ตรวจพบการใช้สารกระตุ้น อันดับ 4 ของ "ปุ๊กลุก" จึงมีความหมาย และได้รับการขยับมารับเหรียญทองแดงแทนที่ แม้ว่าจะต้องใช้เวลารอคอยความสำเร็จครั้งนี้นานถึง 6 ปี แต่เจ้าตัวก็ยังยินดีด้วยน้ำตาคลอเบ้า ระหว่างการขึ้นรับเหรียญรางวัลบนเวทีการแข่งขันยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งโลก 2018 ที่ กรุงอาชกาบัต ประเทศเติร์กเมนิสถาน