ความเคลื่อนไหวสโมสร สุโขทัย เอฟซี หลังจากที่ต้องหนีการตกชั้นสู่ไทยลีก 2 จนถึงนัดสุดท้ายเมื่อฤดูกาล 2018 ล่าสุดมีการเปิดตัว โจเอล ซามี่ กองหลังวัย 33 ปี ทีมชาติดีอาร์ คองโก ที่อดีตเคยค้าแข้งกับหลายสโมสรในฝรั่งเศส อีกทั้งยังเคยผ่านการค้าแข้งกับ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี มาก่อนหน้านี้
ล่าสุด สมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตประธานสโมสร "ค้างคาวไฟ" โพสต์เฟซบุ็คส่วนตัวของตนเอง ยืนยันว่าแม้ไม่เห็นด้วยกับการเปิดโอกาให้ผู้เล่นต่างชาติลงสนามถึง 7 คน (โควต้า ต่างชาติ 3, เอเชีย 1 และ อาเซียน 3 คน) ของแต่ละสโมสรใน 1 นัด แต่ก็ได้ตัวผู้เล่นโควต้า อาเซียน มาแล้ว 3 ราย คือจากฟิลิปปินส์, มาเลเซีย และ เวียดนาม รวมทั้ง จอห์น บาจโจ้ และ เอ็นจีว่า คู่กองหน้าคนสำคัญก็ยังอยู่กับทีมต่อไปด้วย
5/11/61 อากาศดีๆ ต้อนรับเดือนพฤศจิกายน ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ผมมีโอกาสแวะเวียนพบปะพี่น้องในหลายหมู่บ้านของสุโขทัย เป็นที่น่าประทับใจมากที่พี่น้องทุกท่านให้การต้อนรับอย่างดียิ่ง และผมได้มีโอกาสเล่าเรื่องฟุตบอล “สุโขทัย เอฟซี” ในฤดูกาลต่อไป ว่าเราสามารถส่งนักเตะชาวต่างชาติลงสนามได้ถึงเจ็ดคน เป็นกติกาใหม่ของสมาคมฟุตบอลฯ ครั้งหนึ่งกับนโยบายสนับสนุนเด็กไทยให้มีโอกาสเข้าสู่ทีมชาติ ตอนนี้ดูแล้วยังค้านกับคำพูดของสมาคมฟุตบอลฯ อย่างเห็นได้ชัด เด็ดสุดจะลดทีมไทยลีกส์จาก 18 ทีมเหลือ 16 ทีม แต่ก็ไม่เป็นไรครับ เราคนสุโขทัยเลือดนักสู้เราก็ปรับไปตามคำสั่งของสมาคมฟุตบอลฯ อีกทั้งเรื่องกฎกติกาก็ไม่ค่อยชัดเจน แม้จะเข้าใจยากสักนิด แต่เชื่อว่าใช้เวลาไม่นาน เราคงเข้าใจได้ดี
เรียนให้ผู้สนใจทราบว่า ทีมเราจะมีทีมชาติฟิลิปปินส์ 1คน ทีมชาติมาเลเซีย 1คน และทีมชาติเวียดนาม 1คน ในโควต้าอาเซียน และเรายังได้กองหลังชาติฝรั่งเศส กองกลางชาติเกาหลีคนเดิม และปีกมาดากัสการ์ บาจโจ้ คู่ขวัญกับทีมสุโขทัย เอฟซี เป็นเวลานานถึงสี่ปีแล้ว จากการเปลี่ยนแปลงเบื้องต้น อาจทำให้พี่น้องแฟนคลับ ค่อนข้างงง ตกใจบ้างแต่นี่คือเรื่องจริง ที่สำคัญเรากำลังตามหาสิ่งที่ขาด ก็คือประตูคนไทยอีกสัก1-2 คน และกองกลางตัวรุกอีกสัก 1 ตัว ส่วนนักเตะศูนย์หน้าชาวต่างชาตินั้น เราพยามเลือกให้ดีที่สุด ความสามารถไม่ให้แตกต่างจาก เนลสัน โบนิญ่า ในตำแหน่งอื่นๆ ตอนนี้ค่อนข้างครบถ้วน
ส่วนการเดินสายพบปะพี่น้องนั้น บอกได้เลยว่าผมประทับใจมาก ทุกพื้นที่มีพี่น้องให้การต้อนรับอย่างหนาแน่นทั้งให้กำลังใจกันว่า “ไม่ต้องห่วง สนับสนุนเต็มที่ แม้ผมจะอยู่ตรงไหนก็ตาม” นั่นคือกำลังใจสำคัญที่มีให้ผมอย่างล้นหลาม และผมก็มั่นใจว่า จะทำงานให้กับพี่น้องได้อย่างเต็มกำลังความสามารถ โดยจะนำประสบการณ์ที่สั่งสม ที่พบเจอ กำหนดเป็นนโยบายเสนอพรรคการเมืองฯ ซึ่งเป้าหมายเป็นที่ทราบดีอยู่แล้วคือ “พลังประชารัฐ” ขณะนี้รอความเรียบร้อยของพรรคเท่านั้นไม่เกินสองสัปดาห์ก็คงเกิดความชัดเจน เมื่อพรรคฯ ดำเนินการจดทะเบียนเรียบร้อย ก็จะเข้าสู่กระบวนการสมัครสมาชิก
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยลงตัว ผมคงได้เจอหน้าพบปะพี่น้องประชาชนหรือหาเสียงได้อย่างเต็มที่ พี่น้องท่านใดที่เคยเจอะเจอกันบ้างแล้ว ก็ขอความกรุณาช่วยกระจายข่าวโดยทั่วถึงกัน ส่วนพื้นที่ที่ผมยังไม่ได้ไปพบหรือพูดคุย ก็ไม่ต้องกังวล ผมพร้อมลงพื้นที่พบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อสะท้อนปัญหาของทุกท่านด้วยความเต็มใจอย่างแน่นอน แล้วพบกันเร็วๆๆ นี้ครับ