xs
xsm
sm
md
lg

“ไทย โมโต จีพี” รูดม่านสวย แจ้งเกิดแลนด์มาร์คแห่งใหม่ 3 วันสะพัด 3 พันล้านบาท

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

โมโตจีพีเมืองไทย จบลงอย่างสวยงาม
ผู้จัดการรายวัน 360 - ประสบความสำเร็จอย่างงดงามสำหรับครั้งแรกที่ประเทศไทยรับหน้าเสื่อจัดการแข่งขัน โมโต จีพี ทำให้ถือเป็นการแจ้งเกิดแลนด์มาร์คแห่งใหม่ที่ไม่ใช่แค่สำหรับคอกีฬาแต่รวมถึงนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ โดยรวม 3 วันมีเงินสะพัดถึงราว 3,000 ล้านบาท

แน่นอนว่าไทยฝันมาตลอดว่าอยากจัดแข่งขันกีฬาความเร็วเหมือนประเทศเพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร์และมาเลเซีย ยิ่งย้อนไปเมื่อ 8 ปีก่อนที่มีรถ เอฟวัน มาซิ่งเผาใหม่เครื่องยนต์ดังกระหึ่มถนนราชดำเนินยิ่งเหมือนเป็นแรงกระตุ้นทุกฝ่ายให้ผลักดันฝันให้เป็นจริงขึ้นมา

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 5-7 ตุลาคมที่ผ่านมาที่ต้องบันทึกเอาไว้ในประวัติศาสตร์กับการที่สนาม ช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ได้เป็นสังเวียนประลองความเร็ว โมโต จีพี เรซที่ 15 ของฤดูกาล 2018 รายการ “พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ ปรีซ์” โดยแชมป์ตกเป็น มาร์ค มาร์เกซ นักบิดจอมทะเล้นขวัญใจสาวๆ ชาวสเปนจากค่ายเร็ปโซลฮอนด้า นับถอยหลังสู่การเป็นแชมป์โลกสมัยที่ 5 นับเฉพาะรุ่นใหญ่

ชื่อเสียงของ มาร์เกซ ถือเป็นการโปรโมตประเทศไทยชั้นดี เพราะตั้งแต่มาถึงก็ชนะเลิศแล้วได้ใจคนไทยไปเต็มๆ จากการที่ร่วมถ่ายวีดิโอโปรโมตการแข่งขันบิดรถสองล้อคู่ใจที่ถนนราชดำเนินรวมถึงควบตุ๊กตุ๊กท่องกรุงเทพมหานครหม่ำข้าวหมูแดงเรียกรอยยิ้มจากผู้พบเห็น

มาดูเรื่องเสียงตอบรับข้อมูลจาก "ดอร์น่า สปอร์ต" และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่าตลอด 3 วันผู้ชมอยู่ที่ 222,535 ราย ถือว่าทะลุเป้าที่ตั้งเอาไว้ ที่สำคัญทุกอย่างราบรื่นตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้ายถือเป็นสัญญาณอันดีที่เจ้าของลิขสิทธิ์อย่าง ดอร์น่า สปอร์ต คงจะพอใจและพิจารณาต่อสัญญาให้ประเทศไทยรับหน้าเสื่อต่อไปในระยะยาวจากเดิมที่ตอนแรกเซ็นไว้ 3 ปี

ไม่เพียงยอดขายบัตรที่หมดเกลี้ยงเกือบทุกโซน ชาวต่างชาติยังประทับใจกับการต้อนรับของเจ้าบ้านบุรีรัมย์ โดยเฉพาะไอเดียการนำรถอีแต๋นมาทำเป็นชัตเติลบัส รับ-ส่งผู้ชมจากหน้าทางเข้า-สนามแข่งขันตลอดทั้งวันทั้งคืนในชื่อ “ชัตเติลแต๋น” สร้างเสน่ห์และความแปลกใหม่เป็นอย่างดีชนิดที่ทุกคนอยากแชะภาพเป็นที่ระลึกและเซลฟี่ก่อนแชร์ผ่านโลกออนไลน์

เอ่ยถึงเรื่องเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว นาย วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้มีการส่งทีมงานไปสำรวจตามที่ต่างๆ พบว่ามีชาวต่างชาติมากถึง 25-30% และผู้คนกลุ่มนี้ไม่ได้มาดูกีฬาอย่างเดียวแต่มาเที่ยวและนำเงินมาจับจ่ายใช้สอยตลอด 3 วันที่บุรีรัมย์และจังหวัดใกล้เคียงอย่างโคราชกับสุรินทร์ รวมแล้วมีเงินสะพัดกว่า 3,000 ล้านบาท ส่วนยอดเข้าใช้บริการห้องพักอยู่ที่ 12,000 ห้อง

ไม่แค่นั้นเพราะบรรดานักท่องเที่ยวบางส่วนรวมถึงนักขับและทีมงานมีบางส่วนที่พักผ่อนต่อแล้วแต่โปรแกรมของแต่ละค่ายไม่เหมือนกัน เพราะจากนี้อีก 2 สัปดาห์กว่าจะถึงวันที่ 21 ตุลาคมนี้จะไปแข่งเรซต่อไปกันที่ประเทศญี่ปุ่นตามด้วยที่ออสเตรเลียกับมาเลเซียเป็นแถบเอเชียทั้งหมด

ภาพรวมทุกอย่างไปได้สวยแต่ก็ต้องมีสิ่งที่พัฒนาเพื่อรองรับการแข่งขันปี 2019 ตำนานแชมป์โลก 5 สมัยอย่าง มิค ดูฮาน เสนอแนะให้เจ้าบ้านปรับปรุง โดยเฉพาะบริเวณสิ่งปลูกสร้างอย่างเก้าอี้ อัฒจันทร์ สแตนด์เชียร์โครงเหล็กที่สร้างขึ้นมาแบบชั่วคราว ควรพัฒนาให้เป็นโครงสร้างแบบถาวร

สุดท้ายแล้วความดีความชอบต้องยกให้ เนวิน ชิดชอบ ประธานที่ปรึกษาสนาม ช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต หัวเรือใหญ่การจัดการแข่งขัน รวมถึงรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่าง ฮอนด้า รวมถึง ยามาฮ่า ที่จากนี้ทุกฝ่ายพร้อมแล้วที่จะนำประสบการณ์ครั้งนี้ไปปรับปรุงและยกระดับปีต่อๆ ไปไทยเป็นเจ้าภาพที่ดียิ่งขึ้นไปอีก
เนวิน ให้คำมั่นปีหน้าต้องจัดให้ดีกว่าเดิม
กำลังโหลดความคิดเห็น